• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2563

    26 มิถุนายน 2563 | Economic News
  

· ดอลลาร์มีแรงหนุนในฐานะ Safe-Haven จากยอดติดเชื้อเพิ่มคุกคามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวบริเวฯ 97.360 จุดจากกลุ่มนักลงทุนที่มีท่าทีระมัดระวังต่อการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาและความไม่แน่ใจต่อการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจ จึงสนับสนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย

ด้านค่าเงินเยนทรงตัวที่ 107.09 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนตัวลงแตะ 1.1223 ดอลลาร์/ยูโร หลังไปทำสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1.1348 ดอลลาร์/ยูโร และสัปดาห์นี้ยูโรแข็งค่าได้ประมาณ 0.4%

ค่าเงินปอนด์ปรับตัวลงแตถ 1.2422 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังไปทำสูงสุดของสัปดาห์ที่ 1.2541 ดอลลาร์/ปอนด์

นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนค่าเงินดอลลาร์จากความต้องการของบรรดาบริษัทเพื่อปิดไตรมาส รวมทั้งปัจจัยหนุนดอลลาร์จากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงจะเพิ่มขึ้น และมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นของไวรัสโคโรนา

· อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลง 0.03% มาอยู่ระดับ 0.663% และผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปรับลดลง 0.04% มาอยู่ระดับ 0.663% .

อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐลดต่ำลง หลังการประกาศตัวเลขการยื่นขอสวัสดิการว่างงาน 1.48 ล้านรายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดที่ 1.35 ล้านราย ซึ่งเป็นการประกาศตัวเลขที่แย่กว่าคาดการณ์ 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้รับสวัสดิการว่างงานทั้งหมดยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการต่อเนื่องที่ลดต่ำลง 767,000 รายสู่จำนวน 19.52 ล้านราย

ความหวังที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากภาวะโรคระบาดโคโรนาไวรัสยังคงถูกกดดันจากจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐ

· ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสประกาศยุติการกลับมาเปิดเมืองชั่วคราวตั้งแต่วันพฤหัส หลังจากจำนวนผู้ป่วยโควิดปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับยอดผู้ป่วยใหม่ รายงานเพิ่มขึ้น 6,000 รายในวันเดียวในวันจันทร์ที่ผ่านมา

ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส กล่าวว่า จะยุติการกลับมาเปิดเมืองชั่วคราวกว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสได้


· ผู้เชียวชาญบ่งชี้ ผลลัพธ์จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน อาจส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก

นายอลัน ดูปอนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายความเสี่ยง Cognoscenti Group กล่าวว่า ผลลัพธ์อาจมีความร้ายแรงมาก และกำลังพัฒนาเป็น “สงครามเย็น” ซึ่งจะส่งผลกระทบทางลบมากกว่าการแข่งขันระหว่างสหรัฐและสหภาพโซเวียตหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนี้ นายอลัน ยังกล่าวอีกว่า การแข่งขันระหว่างสหรัฐและจีนมีการแข่งขันในเชิงระบบมากขึ้น และการแข่งขันในลักษณพกลายผู้ชนะได้ทุกอย่างจะส่งผลให้มีโอกาสเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด


· ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าว เราได้ผ่านพ้นช่วงที่แย่ที่สุดของวิกฤติไปแล้ว

นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าว เราได้ผ่านพ้นช่วงที่แย่ที่สุดของวิกฤติไปแล้ว แต่อาจจะยังไม่กลับไปยังจุดเดิมก่อนวิกฤติ

“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะไม่กลับไปสมบูรณ์และต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง การค้าระหว่างประเทศลดต่ำลงอย่างมาก ทำให้เราต้องให้ความสนใจกับกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านั้นที่มีความเปราะบางสูง”

ทั้งนี้ธนาคารกลางยุโรป ได้ประกาศขยายเวลาและขยายปริมาณการเข้าซื้อตราสารหนี้รัฐบาลประเทศต่างๆ โดยตั้งเป้าจะเข้าซื้อรวมสูงถึง 1.35 ล้านล้านยูโรจนกระทั่งเดือนมิถุนายนปี 2021เป็นอย่างน้อย

อย่างไรก็ตาม การประชุมล่าสุด ทางธนาคารกลางยุโรปได้พยายามข้อสรุปเกี่ยวกับประสิทธิภาพของนโยบายการเงิน เพื่อโต้แย้งในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมันชี้ว่า มาตรการของธนาคารกลางยุโรปในบางแง่มุมไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

· โพลล์สำรวจจาก Reuters ระบุว่า ยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นประจำเดือนพ.ค.มีแนวโน้มหดตัวอีกครั้ง เนื่องจากการระบาดไวรัสโคโรนาทำให้ซัพพลายเชนหยุดชะงักและทำให้อุปสงค์ภายในประเทศและทั่วโลกลดลงอย่างมาก

โดยยอดการผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพ.ค.ลดลง 5.6% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งพบว่าลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ แต่ลดลงอย่างรวดเร็วกว่าการปรับลดลง 9.8% ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ยอดการส่งออกที่ตกต่ำและการใช้จ่ายภาคเอกชนที่อ่อนแอเนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวนั้น ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรงและอาจเห็นการฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้


· จำนวนผู้สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงมีลดลง หลังฮ่องกงประกาศบังคับใช้กฎหมายความมั่นคง

จำนวนผู้สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงมีจำนวนลดลง หลังจากที่ทางการฮ่องกงประกาศบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงจากจีนแผ่นดินใหญ่ จากการสำรวจโดยสำนักรอยเตอร์

จากการสำรวจพบว่า จำนวนผู้สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงลดลงเหลือ 51 % จาก 58% ที่สำรวจในเดือนมีนาคม ในขณะที่ผู้ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงเพิ่มเป็น 34% จาก 28%

หากมองย้อนกลับไปมิถุนายนปีก่อน การประท้วงยกระดับขึ้นหลังจากมีการถอนร่างกฎหมายส่งผู้รายข้ามแดนของจีนแผ่นดินใหญ่ และนำไปสู่การผลักดันแนวทางประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในฮ่องกง ซึ่งก่อให้เกิดเหตุความรุนแรง


· น้ำมันดิบขึ้นหวังอุปสงค์ฟื้น คาดไวรัสระบาดชั่วคราว

ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจากวันก่อนจากความหวังจะเห็นการฟื้นตัวของอุปสงค์พลังงานทั่วโลก แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มในบางรัฐของสหรัฐฯ

น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 42 เซนต์ หรือ +1.1% ที่ระดับ 39.14 เหรียญ/บาร์เรล ด้าน Brent ปรับขึ้น 1.1% ที่ 41.52 เหรียญ/บาร์เรล

นักกลยุทธ์การตลาดจาก CMC Markets กล่าวว่า ภาพรวมสินค้าตลาดโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นจากมุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจโลก

· การผลิตน้ำมันในสหรัฐอาจจะใช้เวลา 2 ปีครึ่งจึงจะกลับมาผลิตที่ระดับ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ก่อนการระบาดของโควิด

การผลิตน้ำมันดิบยังคงอยู่ระดับต่ำกว่าระดับการผลิตสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 อยู่ 16% ข้อมูลค่าเฉลี่ยของ 5 นักวิเคราห์ที่สำคัญของบลูมเบิร์ก

ในเดือยมิถุนายน คาดการณ์การผลิตตกต่ำลงไปที่ระดับ 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นการลดลงเกือบ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นผลจากการปิดเมือง และลดลง 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นผลจากการเลื่อนเปิดแท่นขุดเจาะเชลล์ออยและกิจกรรมการขุดเจาะเชลล์ออยที่ลดลง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com