• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2563

    29 มิถุนายน 2563 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย

ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นในฐานะ Safe-Haven จากกลุ่มนักลงทุนที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาครั้งใหม่ โดยที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯสร้างความไม่แน่ใจว่าสหรัฐฯจะเผชิญกับการเติบโตแบบ V-Shaped

ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่า 0.2% ที่ 97.571 จุด

ข้อมูลค่าใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯไม่ได้ส่งผลกับดอลลาร์มากนัก แม้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะออกมาดีขึ้น 8.2% ในเดือนที่แล้วก็ตาม ซึ่งถือเป็นระดับการเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ที่รัฐบาลมีเก็บข้อมูลในปี 1959 ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลปรับลง 4.2% ในเดือนที่แล้ว

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ โดยอ่อนค่าลง 0.1% ที่ 1.1202 ดอลลาร์/ยูโร แต่ภาพรวมในสัปดาห์ที่แล้วปิดแดนบวก


· ยอดผู้เสียชีวิต COVID-19 ทั่วโลกทะลุ 500,000 ราย ท่ามกลางผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้น
 

จำนวนยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาทั่วโลกในเวลานี้พุ่งทะลุ 500,000 รายเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 10 ล้านราย โดยแค่ยอดเสียชีวิตในสหรัฐฯก็คิดเป็นอัตราเฉลี่ยสูงกว่า 20% จากยอดเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก รองลงมาเป็นบราซิล, อังกฤษ, อิตาลี และฝรั่งเศส

โดยยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯล่าสุดเพิ่มขึ้นอีก 40,535 ราย สู่ระดับ 2,637,072 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมแตะ 128,437 ราย ในส่วนของภาพรวมทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด 10,238,232 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวมสุทธิ 504,078 ราย


· เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ร่วมกับคณะกรรมาธิการอียู และประเทศที่เกี่ยวข้องมีการจัดประชุมการเพิ่มเงินในกองทุน COVID-19 เพื่อต่อสู้กับไวรัสโคโรนาในวงเงินแตะ 6.9 พันล้านเหรียญ ท่ามกลางบรรดาผู้นำทั่วโลกที่ต่างก็ต้องการวัคซีน

คณะกรรมาธิการอียูร่วมกับภาคธนาคารเพื่อการลงทุนจะเสริมเม็ดเงินที่ 5.5 พันล้านเหรียญ ด้านสหรัฐฯวงเงิน 545 ล้านเหรียญ เยอรมนีวงเงิน 383 ล้านยูโร, แคนาดาให้วงเงิน 219 ล้านเหรียญ และกาตาร์วงเงิน 10 ล้านเหรียญ

โดยวงเงินทั้งหมดนี้จะถูกใช้สำหรับการทดสอบหาเชื้อไวรัสโคโรนา, การรักษา และวัคซีน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประเทศที่ยากจนและประเทศที่การสื่อสารไร้ประสิทธิภาพ


· ธนาคารกลางจีนกล่าวว่าเศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงจากการระบาดทั่วโลก และเพื่อต่อสู้กับการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา

ธนาคารกลางจีน กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลก แม้ว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัวท่ามกลางภาคธุรกิจที่กลับมาเปิดทำการ โดยธนาคารกลางจีนจะยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระดับต่ำเพื่อเสริมกับความเป็นไปได้ของแผนปฏิรูปอย่างเต็มรูปแบบ และอาจมีการสนับสนุนภาคการเงินให้แข็งแกร่ง ตั้งแต่ภาคธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมทั้งบริษัทเอกชน


· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงท่ามกลางยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมราคาน้ำมันเข้าสู่แดนลบเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดิบปิดลงในคืนวันศุกร์ หลังจากที่ปรับขึ้นในช่วงต้นตลาด เหตุเพราะยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั้งสหรัฐฯและจีนต่างก็ยิ่งเพิ่มขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯที่ปรับขึ้นหลังยอดสต็อกน้ำมันดิบปิดปรับขึ้นเป็นประวัติการณ์

น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 14 เซนต์ ที่ 40.9 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 23 เซนต์ หรือ -0.6% ที่ 38.49 เหรียญ/บาร์เรล

ภาพรวมราคาน้ำมันดิบ Brent รายสัปดาห์ลดลงไป -3.1% ขณะที่ WTI ปิดลดลง 3.6%

ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อไวรัสที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน โดยสหรัฐฯพบอัตราผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในรัฐแคลิฟอร์เนีย, เท็กซัส และฟอริดา ที่เป็น 3 รัฐใหญ่ที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดและมีประชากรมากสุด

เมื่อวันศุกร์ช่วงเช้า ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสมีการประกาศถอนแผนการกลับมาเปิดทำการ และมีคำสั่งต่างๆเพื่อออกมาสกัดกั้นการระบาดของไวรัสโคโรนา

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com