• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2563

    2 กรกฎาคม 2563 | SET News
 

· ดัชนี S&P500 ปิดปรับขึ้นรับไตรมาสใหม่ ด้าน Nasdaq ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนี S&P500 และ Nasdaq เริ่มต้นไตรมาสที่ 3 ด้วยการปิดแดนบวกตอบรับข่าวความเชื่อมั่นเรื่องวัคซีน Covid-19 และความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยดัชนี S&P500 ปิด +0.5% ที่ระดับ 3,115.86 จุด ขณะที่ Nasdaq Composite ปิดปรับขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 10,154.63 จุด

ด้านฟิวเจอร์ส Nasdaq-100 ปรับขึ้นได้กว่า 1% ทำ All-Time High ที่ระดับ 10,279.25 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดอ่อนตัวลงเล็กน้อย 0.3% หรือ 77.91 จุด ที่ระดับ 25,734.97 จุด

ทั้งนี้ มุมมองแง่ดีเกี่ยวกับวัคซีน Covid-19 ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผล ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจต้อง Lockdown อีกรอบ โดยหุ้นบริษัทไฟเซอร์ เพิ่มขึ้นกว่า 3% หลังผู้ผลิตยาแห่งนี้ระบุว่าวัคซีน Covid-19 ที่กำลังพัฒนาร่วมกับ BioNTech บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพจากเยอรมนี แสดงสัญญาณในทางบวกและพบว่าตอบสนองเป็นอย่างดีในการทดลองกับมนุษย์ในขั้นต้น


· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ตามข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่ดัชนีกลุ่มบลูชิพ DAX ของเยอรมันลดลง 0.5%


· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น จากข่าวเชิงบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา

เหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังข้อมูลของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสในมนุษย์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

ความเคลื่อนไหวของตลาดฮ่องกงก็จะถูกจับตามองเช่นกัน เนื่องจากตลาดหุ้นกลับเปิดทำการซื้อขาย หลังจากวันหยุดไปเมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง แถลง จับกุมชายคนหนึ่งถือและนำธงเอกราชฮ่องกงมาร่วมชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นรายแรก หลังจากกฎหมายความมั่นคงใหม่นี้ผ่านการลงมติของสภาประชาชนจีน

สำหรับวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขด้านการค้าของออสเตรเลียประจำเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาและการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ

เช้านี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.39% จากหุ้นกลุ่ม Softbank ที่พุ่งขึ้น 2% ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.63% และดัชนี Kospi เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.78%

ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้น 0.44%

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญีปุ่่นเพิ่มสูงขึ้น 0.16%


· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 30.90-31.10 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทยังเป็นไปตามแรงซื้อแรงขาย


· อ้างอิงจากสำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์

- ธนาคารโลก หรือ World Bank รายงานตามติดเศรษฐกิจไทยในเดือนมิ.ย. 63 ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 โดยรายงานระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่เปิดกว้างทางการค้าและเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว

ยอดใช้น้ำมันยุคโควิดหดตัวทุกประเภท น้ำมันเจ็ทดิ่งหนักลดพะเรอเกวียน 43% ท่องเที่ยวเร่งฟื้นเศรษฐกิจจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร รับเงิน 5,000 บาท งวดสุดท้าย เริ่ม 15 ก.ค.63 ทั้งนี้ เวิลด์แบงก์ คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะหดตัวร้อยละ 5 ในปี 63ซึ่งนับเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจหดตัวมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก

อย่างไรก็ตาม การหดตัวของการค้าโลก ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศไทย และกระทบกับห่วงโซ่มูลค่าโลก เช่น รถยนต์ ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่โดดเด่นของโลก

ขณะที่ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมีสัดส่วนเกือบร้อยละ 15 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ หรือ GDP ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากการเกือบจะห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศตั้งแต่เดือนมี.ค. 63


· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ

- เอกชนประเมิน เศรษฐกิจฟื้นปีหน้านายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” เมื่อวานนี้ว่า ทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ซึ่งประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะมีการประชุมและประเมินสถานการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่ไทยได้มีการประกาศใช้มาตรการคลายล็อกดาวน์ครบ 5 เฟสแล้ว โดยในการประชุม กกร.เมื่อต้นเดือน มิ.ย. ได้คงประมาณการอัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 63 ว่าจะหดตัวในกรอบ -5.0% ถึง -3.0% การส่งออกอาจหดตัว -10.0% ถึง -5.0% แต่ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ได้ปรับลดตัวเลขจีดีพีไทยว่าจะ -7.7% จากปี 62 ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.4% และจะฟื้นตัวในปี 64 ที่คาดว่าขยายตัว 5%

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com