· ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับวัคซีนรักษาไวรัสโคโรนา ขณะที่ราคาทองแดงพุ่งสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 เดือน จากมุมมองทั่วโลกที่ดีขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับอุปทานของชิลี หลังยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดย BHP กล่าวว่า จะเริ่มชะลอการผลิตเหมืองทองแดงในประเทศลง
ตลาดให้ความสนใจไปยังข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอแนวทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับมือกับเศรษฐกิจหลังจากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละรัฐ
ด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้รับแรงหนุนจากการที่ไฟเซอร์ได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี เปิดเผยในวันนี้ว่า การทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสCovid-19 ในมนุษย์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.5% ใกล้ระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่
ดัชนีเอเชียที่สำคัญทั้งหมดปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.1% ดัชนีบลูชิพของจีนเพิ่ม 1.7% ขณะที่ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 1.8%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางสัญญาณที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว หลังจากใช้มาตรการ Lockdown ช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา แม้ว่าเหล่านักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังการลงทุนหลังจากที่ญี่ปุ่นพบยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ก็ตาม
โดยดัชนี Nikkei ปิดสูงขึ้น 0.1% ที่ระดับ 22,148.96 จุด หลังจากปรับลดลงไป 0.8% ในช่วงก่อนหน้านี้ นำโดยหุ้นกลุ่มวัฎจักร ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,542.76 จุด
ด้านหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนประจำ Credit Suisse ระบุว่า ระดับดัชนี Nikkei ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 22,000 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างดีสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก พร้อมทั้งคาดว่าหุ้นของญี่ปุ่นจะยังคงอยู่ในขอบเขตที่จำกัด โดยกล่าวว่ายังมี Upside ในระยะปานกลาง
· ดัชนีกลุ่มบลูชิพปิดปรับขึ้นทำสูงสุดรอบ 2 ปีครึ่งจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีกลุ่มบลูชิพ ปิดทำระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการตัดสินใจอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มขึ้นของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี CSI300 ที่เป็นหุ้นกลุ่มบลูชิพปิด +2.1% ที่ 4,335.84 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดตั้งแต่ 26 ม.ค. ปี 2018 ขณะที่ Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 2.1% ที่ระดับ 3,090.57 จุด
กระทรวงการคลังของจีน กล่าวถึงการวางแผนที่จะมีการขายพันธบัตรเพิ่มขึ้นเป็นกรณีพิเศษเพื่อสนับสนุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขและเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจที่เผชิญกับการระบาดของไวรัส อันเป็นส่วนหนึ่งของการอัดฉีดเงินกว่า 1 ล้านล้านหยวน ที่รวมถึงกลุ่มพันธบัตรในปีนี้
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากตลาดทั่วโลกได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าการทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสCovid-19 ในมนุษย์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.8% ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 2.6% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดทั่วโลกที่สูงขึ้นพร้อมกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ได้รับแรงหนุนจากข่าวว่าไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯร่วมกับ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี เปิดเผยในวันนี้ว่า การทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสCovid-19 ในมนุษย์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
· S&P500 Forecast: คาดขึ้นต่อแตะ 3,150 จุด
นักวิเคราะห์จาก DailyFX กล่าวว่า ดัชนี S&P500 หลังจากที่ฟื้นตัวตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมาสามารถ Break ขึ้นเหนือ 3,090 จุดได้ โดยตลาดมีแนวโน้มจะขึ้นต่อเป็นลักษณะการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว โดยมีเป้าหมายรอบนี้ที่ 3,150 จุด
ทั้งนี้ การเข้าซื้อควรซื้อระยะสั้นๆตามการอ่อนตัว และหาจังหวะปิดขายทำกำไรเมื่อดัชนีปรับตัวสูงขึ้น ไม่ควรทำสถานะ Short ในเวลานี้
ระดับเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 50 วัน ณ ขณะนี้อยู่แนว 3,000 จุด และกลายมาเป็นระดับแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่อาจต้องเป็นจุดที่ควรระมัดระวังในการลงทุน ขณะที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 200 วันจะเป็นระดับที่ที่มีแนวโน้มจะเป็นจุดที่นักลงทุนรอเข้าซื้อ เนื่องจากตลาดยังคงคาดว่าดัชนีมีแนวโน้มจะปรับขึ้นต่อ และมีเป้าหมายที่จะเห็น 3,150 จุด ซึ่งหากผ่านไปได้ก็มีโอกาสเห็นดัชนี S&P500 ขึ้นไปแตะ 3,200 จุดได้
นอกจากนี้ หากดัชนียืนได้เหนือ 3,200 จุด ก็มีแนวโน้มจะขึ้นต่อได้อีกอย่างมาก แต่ะทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะมีปัจจัยที่สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยอีกหรือไม่ โดยปัจจัยที่ตลาดจับตาเวลานี้คือตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯที่อาจส่งผลจำกัดการขึ้นของดัชนีได้
อย่างไรก็ดี หากดัชนีต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 200 วัน ให้ทำการรีเซ็ตสถานะ และจับตาว่าจะมีลักษณะการซื้อขายรอบใหม่หรือไม่อย่างไร
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
ธปท.ประกาศให้วันที่ 27 ก.ค.นี้ เป็นวันหยุดสถาบันการเงิน เพื่อชดเชยวันสงกรานต์ที่เลื่อนมาจากเดือนเม.ย.ตามมติครม. โดยการเพิ่มเติมวันหยุดครั้งนี้ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องรวม 4 วันตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.ค.นี้
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. 63 อยู่ที่ 49.2 จาก 48.2 ในเดือนพ.ค.63 โดยดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 41.4 จาก 40.2 ในเดือนพ.ค. 63
- ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,365.55 จุด เพิ่มขึ้น 16.11 จุด (+1.19%) มูลค่าการซื้อขายราว 42,579 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,365.69 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,353.50 จุด
· อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 63 ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทย พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 6 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,179 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 58 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายกลับบ้านแล้ว 3,059 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 62 ราย
ผู้ป่วยใหม่ทั้ง 6 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยเดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซีย 4 ราย กลับจากประเทศแอฟริกา 1 ราย และกลับจากประเทศซูดานน์ 1 ราย โดยทั้งหมดเข้าสู่ State Quarantine แล้ว