· ดอลลาร์ปรับแข็งค่าท่ามกลางกังวลไวรัสโคโรนากดดันสินทรัพย์เสี่ยง
ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยตลาดยืนได้เหนือต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ จากกลุ่มนักลงทุนที่กลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนารอบใหม่ที่ทำให้บางประเทศหรือบางพื้นที่มีการกลับมาLockdown
ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.03% ที่ระดับ 96.774 จุด หลังลงไปทำต่ำสุดที่ 96.565 จุด โดยเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน จึงส่งสัญญาณขาลง
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวลงท่ามกลางยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่ม โดยอัตราผลตอบแทน 10 ปี ปรับลงหลุด 0.7% มาที่ 0.663% ขณะที่พันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับลง 1.423%
· สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด:

Ø ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกล่าสุดปรับขึ้นกว่า 11.94 ล้านราย
Ø ยอดเสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 545,607 ราย
Ø ยอดติดเชื้อในสหรัฐฯปรับขึ้นทะลุ 3.096 ล้านราย
Ø ยอดเสียชีวิตในสหรัฐฯอยู่ที่ 133,956 ราย

- เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อตามโรงพยาบาลในสหรัฐฯยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการเสียชีวิตในสหรัฐฯก็ยังคงถือว่าอยู่ระดับต่ำ ขณะที่ ดร.แอนโธนี ฟาวซี ที่ปรึกษาด้านสุขภาพประจำทำเนียบขาว กล่าวเตือนว่าผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้น พร้อมระบุว่าการระบาดในเวลานี้ไม่ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก
- WHO ระบุยอดเสียชีวิตอาจเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น หลังจากที่ยอดติดเชื้อไวรัสพุ่งอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ระบุว่า หากยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกกลับมาเพิ่มสูงขึ้นจะไม่ถือเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะจำนวนการระบาดล่าสุดแสดงให้เห็นถึงการระบาดที่กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก
- จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯจาก 2.9 ล้านกว่าวานนี้ พบว่าล่าสุดทะลุ 3 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย และมียอดเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 1.3 แสล้านราย โดยพบรายงานจากโรงพยาบาลกว่า 20 รัฐในสหรัฐฯที่มีอัตราการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5%
- รัฐฟลอริดาวิกฤต โรงพยาบาลกว่า 40 แห่งในรัฐฯ คิดเป็น 78% ที่พบว่าเตียงคนไข้ ICU ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในเมือง Sunshine State ที่เข้าขั้นวิกฤตอย่างมาก
- รัฐเท็กซัสพบยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงกว่า 10,000 ราย/วันเป็นครั้งแรก ทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 10,028 ราย จากวันที่ 4 ก.ค. ที่เคยเป็นระดับสูงสุดที่ 8,260 ราย
- นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวกับสำนักข่าว The Financial Times โดยระบุว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเผชิญอุปสรรคมากขึ้นจากยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นในเวลานี้
- รัฐบาลสหรัฐฯจะทำการมอบเงินสนับสนุนบริษัทยา Novavax มูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญในการพัฒนายาต้านไวรัสโคโรนา ซึ่งถือเป็นการให้วงเงินสนับสนุนที่มากที่สุดภายใต้การจัดการของทำเนียบขาวในระบบ “Operation Warp Speed” และข่าวนี้ได้ส่งผลให้หุ้นบริษัท Novavax ปรับขึ้นได้กว่า 37%
· ประธานเฟดเคฟแลนด์ กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจทรงตัว จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม
นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ กล่าวว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังชะลอตัว จากปัญหายอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในเวลานี้ และเธอคิดว่ามีความจำเป็นต้องใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อมาช่วยสนับสนุนการเติบโต
ถ้อยแถลงของเธอสอดคล้องกับประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าที่มองเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเผชิญกับอุปสรรคในการฟื้นตัว
· น้ำมันดิบปรับตัวลงจากยอดติดเชื้อไวรัสเพิ่มกดดันอุปสงค์
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นในเวลานี้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯที่ดูจะสร้างอุปสรรคต่อการเติบโตของอุปสงค์น้ำมัน โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 24 เซนต์ หรือ -0.56% ที่ 42.86 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบWTI ปิดลง 1 เซนต์ หรือ 0.02% ที่ 40.62 เหรียญ/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จาก RBC กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้จากความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนาที่น่าจะมาจำกัดความต้องการอุปสงค์พลังงาน โดยที่ 16 รัฐในสหรัฐฯ พบว่ามียอดผู้ติดเชื้อรายวันปรับตัวขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลาเพียง 5 วันแรกของเดือนก.ค.