Nasdaq ปิดทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็นแรงหนุนสำคัญวานนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ปรับตัวขึ้น นำโดยดัชนี Nasdaq ที่ปิดทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจบางส่วนที่ช่วยชดเชยกับความกังวลเรื่อง Lockdown จากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยังพุ่งสูงขึ้นในเวลานี้
ดัชนีดาวโจนส์ปิด +177.1 จุด หรือ +0.68% ที่ระดับ 26,067.28 จุด ทางด้าน S&P500 ปิด +0.78% ที่ 3,169.94 จุด และ Nasdaq ปิด +1.44% ที่ระดับ 10,492.5 จุด
· ดัชนีหุ้นสหรัฐฯฟิวเจอร์สในเช้านี้ปรับตัวขึ้นต่อเล็กน้อย ตามการฟื้นตัวของหุ้นหลักวานนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเช้านี้เปิด +24 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq -100 ฟิวเจอร์สเปิด +0.2%
อย่างไรก็ดี กลุ่มนักลงทุนกำลังรอคอยรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่จะเปิดเผยในคืนนี้ โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเห็นจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลงมาแถว 1.39 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ภาพรวมของข้อมูลก็ยังอยู่สูงอย่างมากจากช่วงก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา
· หุ้นยุโรปปิดลดลงจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น สกัดความหวังในการฟื้นตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปับตัวลงจากจำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยดัชนี Stoxx600 ปิด -0.7% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่ปิด -2%
ทางทำเนียบขาวมีการเริ่มต้นถอนเม็ดเงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลกหรือ WHO หลังยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 11 ล้านราย ขณะที่เมื่อวานนี้ WHO ออกรายงานถึงสถานการณ์ล่าสุดว่าไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นยอดผู้เสียชีวิตจะเริ่มเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบัน จากการระบาดที่กลับมาแพร่อย่างรวดเร็ว
ด้านหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากไอเอ็มเอฟ กล่าวเตือนว่าหลายๆประเทศจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้สินหลังจากนี้ เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาส่งผลให้มีระดับการกู้ยืมของแต่ละประเทศพุ่งสูงขึ้น
· ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยข้อมูลเงินเฟ้อจีนเดือนมิ.ย. โดยพบว่าข้อมูล CPI จีนออกมาดีขึ้นเกินคาดที่ 2.7% ขณะที่ PPI ฟื้นตัวจากระดับติดลบมาที่ 0%
ดัชนีนิกเกอิเปิดเช้านี้ที่ +0.27% ตามการเพิ่มขึ้นของหุ้นบริษัท Softbank Group กว่า 4% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด -0.1%
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.71% และดัชนี S&P/ASX200 เปิด +0.79%
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นเปิด +0.27%
· นักบริหารการเงิน ระบุทิศทางตลาดการเงินปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตามตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นเอเชียในช่วงมีทิศทางเป็นบวก ขณะที่เงินบาททยอยแข็งค่าบ้างตามสกุลเงินเอเชียหนุน พร้อมจับราคาทองหลังทำจุดสุงสุดใหม่ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 31.05-31.25 บาทต่อดอลลาร์
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเข้าสู่การพิจารณาวาระรับทราบรายงานผลการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล ซึ่งนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นหารือและเสนอขอให้นับองค์ประชุมเนื่องจากเห็นว่ามีจำนวนสมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมน้อย และเมื่อเปิดให้แสดงตนพบว่ามี ส.ส.ร่วมประชุมรวม 231 คน จากที่จะต้องมีสมาชิกเป็นองค์ประชุมไม่น้อยกว่า 244 คน จึงถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ประธานสั่งปิดการประชุมทันที ซึ่งถือเป็นสภาล่มครั้งแรกในสมัยการประชุมนี้
- ที่ประชุมกมธ.พิจารณางบประมาณปี 64 เลือก"อุตตม" นั่งประธาน,"ธนาธร" เป็นที่ปรึกษา
- คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 2563 จำนวน 506.67 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเตรียมการรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝน ปี 2563 ป้องกันความเสี่ยงก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบเป็นวงกว้าง รวมถึงเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด และคณะทำงานภายใต้คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอ โดยรายละเอียดของแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (สงป.)
- นายสุชาติ วิริยะอาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อมและพลังงาน บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทตระหนักดีถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งพลังงานและน้ำ จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างเป็นระบบ เพื่อสนับสนุนแผนการใช้ทรัพยากรและลดความเสี่ยงของธุรกิจตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยในปี 2562 บริษัทสามารถลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตได้ 6% หรือ 9 ล้านลูกบาศก์เมตร และสามารถลดปริมาณการดึงน้ำโดยรวมได้ 36% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558 ซึ่ง