· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางความเสี่ยงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส และตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน
ตลาดหุ้นเอเชียและดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนารายใหม่ที่ทำลายสถิติในหลาย ๆ รัฐของสหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่เหล่านักลงทุนรอฤดูกาลการประกาศผลประกอบการ
สกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง (Antipodean) ลดลงและค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น
เนื่องจากเหล่านักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนารายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 60,500 รายทั่วสหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับรายวันที่มากที่สุดของประเทศใด ๆ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตไวรัสเมื่อปลายปีที่แล้ว
ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรการการ Lockdowns อาจจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ขณะที่จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี เหล่านักลงทุนยังคงระมัดระวังการลงทุนต่อรายงานยังระบุว่ามีคนตกงานสหรัฐฯยอดรวม 32.9 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือนมิ.ย. จึงตอกย้ำว่าตลาดแรงงานจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นตัวจากการระบาดของไวรัสดังกล่าวได้
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.74% ด้านหุ้นออสเตรเลียลดลง 0.31%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาของโตเกียวทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลาความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนที่ถูกกดดันจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาของโตเกียวทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 238.48 จุด หรือคิดเป็น 1.06% ที่ระดับ 22,290.81 จุด ด้านดัชนี Topix ลดลง 22.04 จุด หรือคิดเป็น 1.42% ที่ระดับ 1,535.20 จุด
· หุ้นจีนปรับตัวลงวันนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 29 มิ.ย. หลังจากที่สื่อจีนหนุนการเข้าซื้อสินทรัพย์หลังจากกองทุนของรัฐบาลจีนประกาศการลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ประกอบกับสัญญาณตึงเครียดทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีนน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิด -1.95% ที่ 3,383.32 จุด ขณะที่หุ้นกลุ่มบลูชิพอย่าง CSI300 ปรับลง 1.81% และ ChiNext Composite ปิด +0.754%
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯและที่อื่นๆอย่างต่อเนื่อง ที่กดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.3% ด้านหุ้นน้ำมันและก๊าซร่วงลง 1.1% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้น 0.3%
ปัจจัยที่มาสกัดความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาด คือรายงานที่ว่าสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลชาวอุยกูร์ และนี่มีแนวโน้มจะทำให้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเพิ่มขึ้น
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์
- นายกฯเรียกทีมที่ปรึกษาศก.ถกด่วน ทำแผนฟื้นศก.-มาตรการอุ้มเอสเอ็มอี
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบไปด้วย นักวิชาการ ภาคธุรกิจเอกชน เพื่อนำแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจ มาตรการเยียวยา ช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี มาพิจารณา
- บลจ.กสิกรฯ มองทองคำยังน่าลงทุน เหตุตลาดกังวลศก.โลกไม่แน่นอน
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า มุมมองต่อตลาดทองคำในระยะนี้ยังมีความน่าสนใจ จากที่ราคาทองคำได้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี อยู่ที่ระดับ 1,650-1,750 ดอลลาร์/ออนซ์
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะ รวมถึงความต้องการเข้าลงทุนในทองคำจากกลุ่มผู้ลงทุนผ่านกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Exchange Traded Fund: ETF) ที่ยังคงลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง