MTS Help Center

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน บดบังจีดีพีจีนที่ขยายตัว

ตลาดหุ้นเอเชียและดัชนีฟิวเจอร์สสหรัฐฯปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่จากไวรัสโคโรนาที่กระตุ้นให้รัฐบาลบางประเทศประกาศมาตรการ Lockdown ครั้งใหม่

แม้จะมีข่าวว่าเศรษฐกิจของจีนดีดตัวขึ้นเกินคาดในไตรมาสที่สองก็ตาม โดยรายงานจีดีพีจีนโดยในช่วงไตรมาส 2/2020 ขยายตัวได้มากกว่าที 3.2% ปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเป็นการรีบาวน์ได้กลับจากไตรมาสแรกที่หดตัวลงไป -6.8% โดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1992

ขณะที่ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูงและการคุ้มครองเสรีภาพของพลเมืองในฮ่องกง

ท่ามกลางการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาลักษณะ Second Wave ยังก่อให้เกิดการกลับมา Lockdown ด้านธุรกิจและกิจกรรมส่วนตัวอีกครั้งที่คุกคามต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ร่วงลง 1.18%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลดลง ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในเมืองหลวง

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนในตลาดที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่ผู้ว่าการเมืองโตเกียว เตือนว่ามียอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนามากเป็นประวัติการณ์

โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.76% ที่ระดับ 22,770.36 จุด ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.66% ที่ระดับ 1,579.06 จุด

ผู้จัดการทั่วไปประจำ Chibagin Asset Management ระบุว่า ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนถูกกดดันจากยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสที่เพิ่มสูงขึ้นในญี่ปุ่น โดยวันนี้ผู้ว่าราชการโตเกียว กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในเมืองหลวงคาดว่าจะสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 280 ราย ซึ่งแม้จะไม่ใช่จำนวนที่เยอะมากแต่ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไปทำระดับสูงสุดในรอบหลายๆปี

โดยดัชนี Shanghai Composite ร่วงลง 4.5% ที่ระดับ 3,210.10 จุด ด้านดัชนีกลุ่มบลูชิพร่วงลง 4.81%

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลง ขณะที่ข้อมูลจีดีพีของจีนออกมาดีกว่าคาด

ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวในแดนลบ ท่ามกลางข้อมูลจีดีพีของจีนที่ออกมาดีกว่าคาดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.6% ด้านหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มร่วงลง 1.5% ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวสูงขึ้นได้ 0.4%

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,349.64 จุด ลดลง 4.67 จุด (-0.34%) มูลค่าการซื้อขายราว 24,993 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,357.26 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,346.96 จุด

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ชะลอตัวลงคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ หลังจากที่ได้ตอบรับความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไปแล้ว ทำให้ดัชนีฯชะลอตัวในลักษณะของการสร้างฐานเพื่อรอปัจจัยกระตุ้นใหม่ อีกทั้งยังรอดูการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของกลุ่มแบงก์ด้วยว่าจะมีการตั้งสำรองฯมากหรือน้อยแค่ไหน และรอดูผลการจัดทำแผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุนในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า หรือ Stress Test ที่จะต้องนำส่งแผนต่อธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในสิ้นเดือนก.ค.นี้ ทำให้ช่วงนี้หุ้นในกลุ่มแบงก์ดูจะชะลอตัว

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุยังไม่เห็นหนังสือลาออกของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และยังไม่ทราบเรื่องที่ 3 รัฐมนตรีในทีมเศรษฐกิจเตรียมยื่นหนังสือลาออก เนื่องจากยังไม่ได้เดินทางเข้าไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล

- นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่ม 4 กุมาร ได้แก่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เตรียมยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในวันนี้

อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ศบค.เผยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 4 คน กลับจากต่างประเทศ รวมสะสม 3,236 คน ส่วนผลตรวจกลุ่มเสี่ยงจากจังหวัดระยอง-กทม.ไม่พบติดเชื้อ แต่ยังเฝ้าติดตามอาการให้ครบ 14 วัน

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19ในวันนี้ (16 ก.ค.63) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 คน เดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,236 คน หายป่วยเพิ่ม 3 คน รวมหายสะสม 3,095 คน ไม่มีเสียชีวิตเพิ่มคงที่ 58 คน อยู่ระหว่างการรักษา 83 คน