· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการปรับแข็งค่าของค่าเงินยูโรสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากการประชุมอียูซัมมิท
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นและค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางการประชุมผู้นำสหภาพยุโรปที่ดูเหมือนจะมีความคืบหน้า หลังจากที่มเหลวในการหาข้อตกลงกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจในการประชุมตลอดช่วง 3 วันทำการเกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา
โดยผู้นำสหภาพยุโรป หรือ อียู ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างหนักของการเจรจาต่อกรณีงบประมาณอียูและกองทุนเพื่อการฟื้นฟูกรณีไวรัสโคโรนามูลค่า 1.85 ล้านล้านยูโร
ด้านนักการทูต กล่าวว่าเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะเลื่อนการประชุมออกไปและลองอีกครั้งสำหรับการหารือข้อตกลงดังกล่าวในเดือนหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.3%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับบีโอเจที่เข้าซื้อกองทุน ETF
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้า ก่อนจะปิดปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าบีโอเจจะทำการเข้าซื้อกองทุน ETF ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายผ่อนคลายการเงิน จึงช่วยชดเชยข้อมูลภาคส่งออกที่ออกมาอ่อนแอซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยเหล่านักลงทุนยังคงให้ความสนใจไปยังยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 14.38 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 601,961 ราย
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิดเพิ่มขึ้น 0.09% ที่ะรดับ 22,717.48 จุด ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.2% ที่ระดับ 1,577.03 จุด
· ตลาดหุ้นจีนรีบาวน์ เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลส่งสัญญาณสนับสนุนตลาด
ตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้น 3% ในวันนี้ นำโดยหุ้นภาคการเงิน หลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลย้ายไปหนุนตลาดโดยการยกระดับการลงทุนในตราสารทุนสำหรับบริษัทประกันและส่งเสริมให้เกิดการควบรวมกิจการและซื้อกิจการระหว่างโบรกเกอร์และกองทุนรวม
โดยดัชนี Shanghai Composite พุ่งขึ้น 3.11% ที่ระดับ 3,314.15 จุด ด้านดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 เพิ่มขึ้น 2.98%
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางความล้มเหลวในการประชุมผู้นำอียูที่ไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง หลังจากบรรดาผู้นำอียูประสบล้มเหลวในการหาข้อตกลงกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา
โดยแนวทางแผนหารือฟื้นเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป คือเสนอตั้งกองทุน 750,000 ล้านยูโร ให้ชาติสมาชิกใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเงินจำนวนนี้จะปล่อยกู้หรือจ่ายช่วยเหลือแต่ละประเทศ ซึ่งการเจรจาเริ่มต้นขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา
สำหรับวันนี้จะมีการประกาศผลประกอบการของบริษัท Philips และ Julius Baer ขณะที่คืนนี้ไม่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญใดๆ
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.6% ด้านหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการพักผ่อนร่วงลง 2.3% ท่ามกลางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- รายงานข่าวจากแกนนำรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฝ่ายเศรษฐกิจในส่วนของคนนอกที่จะดึงเข้ามาช่วยงานให้ลงตัวก่อนที่พิจารณาปรับในเก้าอี้อื่น ๆ หลังจากมีการเปิดชื่อของนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ออกมาแล้ว ซึ่งมีรายงานว่าบายวันนี้นายกรัฐมนตรีจะหารือกับนายปรีดีเป็นการส่วนตัว
- "ส.อ.ท." เกาะติดนายกฯตั้งทีมเศรษฐกิจ หวังให้ชัดเจนโดยเร็ว รอถึงเดือน ส.ค.อาจช้าไป เพื่อเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่ให้เกิดสะดุดเผยไตรมาส 3-4เศรษฐกิจไทยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าเพียบแรงซื้อไทยอ่อนแรงหลังมาตรการดูแลเริ่มหมดส่ง
ออกดิ่ง ขณะที่กลุ่มพลังงานหมุนเวียนหวัง รมว.พลังงานคนใหม่สานต่อโรงไฟฟ้าชุมชน
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (20-24 ก.ค.) ที่ระดับ
31.50-31.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ของไทยและต่างประเทศ ท่าทีระหว่าง
สหรัฐฯ-จีน สัญญาณฟันด์โฟลว์ และข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือนมิ.ย.
อ้างอิงจากนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
KBANK เผยไตรมาส 2/63 กำไรสุทธิ 2,175 ล้านบาท ลดลง 78% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 9,550 ล้านบาท ลดลง 52% เหตุตั้งสำรองเพิ่มขึ้นรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต พร้อมติดตามคุณภาพหนี้ใกล้ชิด
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/63 มีกำไรสุทธิ 2,175 ล้านบาท ลดลง 78% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,928.8 ล้านบาท ส่งผลงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 9,550 ล้านบาท ลดลง 52% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19,973 ล้านบาท