MTS Help Center

ทองทำสูงสุดตั้งแต่ก.ย. 2011, ซิลเวอร์ทำสูงสุดรอบ 4 ปี

· เมื่อคืนนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทำสูงสุดตั้งแต่ก.ย. ปี 2011 บริเวณ 1,820.06 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ทำสูงสุดรอบเกือบ 4 ปีที่ 19.81 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ก.ย. 2016 จาก Flow ที่ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น อันเนื่องจากยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้น และความหวังที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

· ทองคำตลาดโลกปิด +0.4% ที่ 1,815.34 เหรียญ หลังทำ High ใหม่ 1,820.06 เหรียญ

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด +0.4% ที่ 1,817.4 เหรียญ

· กองทุนทองคำ SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 4.97 ตัน ปัจจุบันเพิ่มการถือครองมาที่ 1,211.86 ตัน สูงสุดใหม่ตั้งแต่ 2 เม.ย. ปี 2013 ขณะที่ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. ถึงปัจจุบันเพิ่มการถือครองแล้วกว่า 32.96 ตัน รวมสุทธิปีนี้ตั้งแต่เดือนม.ค. – 20 ก.ค. 2020 กองทุน SPDR มีการเข้าซื้อทองคำมากถึง 318.61 ตัน ซึ่งเป็นระดับการถือครองที่มากที่สุดตั้งแต่ปี 2009

· ปัจจัยที่ยังสนับสนุนให้ทองคำขึ้นมาจากการที่บรรดาประเทศอียูมีความตั้งใจทำข้อตกลง 1.8 ล้านล้านยูโร (2 ล้านล้านเหรียญ) ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา ประกอบกับการที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสะสมทั่วโลกพุ่งสูงกว่า 14 ล้านราย นำโดยประเทศสหรัฐฯเป็นหลัก จึงส่งผลให้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ (CDC) ชี้ว่า ยอดเสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวปีนี้

· ราคาซิลเวอร์ปิด +2.4% ที่ 19.76 เหรียญ หลังทำสูงสุด ที่ 19.81 เหรียญ เพราะได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว และการที่ยอดติดชเอไวรัสโคโรนาในลาตินอเมริกาเพิ่มขึ้นอาจคุกคามห่วงโซ่อุปทานได้ จึงอาจทำให้เกิดความต้องการเพิ่มขึ้นและหนุนราคา

· พลาเดียมปิด +2% ที่ 2,061.42 เหรียญ และแพลทินัมปิด +0.7% ที่ 843.52 เหรียญ

· จีน ชี้ สหรัฐฯเร่งทำลายความสัมพันธ์สองประเทศ หลังเจ้าหน้าที่บริหารทรัมป์เล็งเป้าหมายใหม่ต่อจีน ตั้งแต่ประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา จนถึงเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา จีน

· รัฐฟลอริดาพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มสูงกว่า 10,000 รายในช่วง 6 วันทำการ ขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนียอัตราการเพิ่มเริ่มคงที่ ขณะที่รัฐนิวยอร์กพบว่ามีผู้ป่วยตามโรงพยาบาลในจำนวนที่ลดลงมากที่สุดรอบ 4 เดือน ด้านผู้ว่าการรัฐชิคาโกสั่งปิดภาคบริการ อาทิ บาร์ต่างๆ เมื่อวานนี้

· ผลศึกษาการทดลองวัคซีนสร้างความหวังมากขึ้น โดยข้อมูลความเป็นไปได้ของวัคซีนต้าน COVID-19 จากมหาวิทยาลัย Oxford University ดูจช่วยสร้างคยวามมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าวัคซีนจะสามารถเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาได้โดยไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง และการรักษาดังกล่าวได้ช่วยลดจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้

ทั้งนี้ วัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทยาอังกฤษ หรือ AstraZeneca ร่วมกับมหาวิทยาลัย Oxford University เผยผลการทดลองว่าผู้ที่ได้รับตัวยาจำนวน 2 โดส มีอาการที่ดีขึ้นและปราศจากผลข้างเคียงใดๆในเวลานี้ และข้อมูลดังกล่าวเพิ่มความหวังว่าอาจเห็นวัคซีนใช้ได้จริงในช่วงสิ้นปีนี้