· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และตลาดซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ยุโรปก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจากที่อียูสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งค่าเงินยูโรปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 4 เดือน ที่ระดับ 1.1470 ก่อนจะปรับตัวลดลงจากแรงเทขายของเหล่านักลงทุน
ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนอาจพร้อมใช้งานได้ในปลายปีนี้ ได้หนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 1.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางสัญญาณของความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา จึงช่วยหนุนความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โดยผลศึกษาการทดลองวัคซีนสร้างความหวังมากขึ้น โดยข้อมูลความเป็นไปได้ของวัคซีนต้าน COVID-19 จากมหาวิทยาลัย Oxford University ดูจะช่วยสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าวัคซีนจะสามารถเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาได้โดยไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง และการรักษาดังกล่าวได้ช่วยลดจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.73% ที่ระดับ 22,884.22 จุด ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.36% ที่ระดับ 1,582.74 จุด
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางแรงหนุนจากความหวังวัคซีน หนุนหุ้นกลุ่มสุขภาพ
ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสุขภาพ เนื่องจากความหวังเกี่ยวกับวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ดี มีแรงเทขายจากการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.2% ที่ระดับ 3,320.89 จุด หลังปรับตัวลงไปเล็กน้อยในช่วงบ่าย ขณะที่เมื่อวานนี้ดัชนีพุ่งขึ้น 3.1%
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับขึ้นหลังผู้นำอียูบรรลุข้อตกลงจัดตั้งกองทุน วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร
เพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจภูมิภาคจากวิกฤตไวรัสโคโรนา โดยดัชนี Stoxx600 เปิดปรับขึ้น 1% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เปิด +2.1% และหุ้นกลุ่มอื่นๆที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
· UBS เผยผลประกอบการ Q2 ร่วงลง 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยมีผลกำไรสุทธิที่ 1.23 พันล้านเหรียญ เดิมช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 1.4 พันล้านเหรียญ โดยได้รับกระทบจากการะบาดของไวรัสโคโรนาที่เข้ากดดันผลประกอบการ ขณะเดียวกัน UBS ก็มีคำเตือนถึงการสูญเสียจากการให้เครดิตและขยายเครดิต
อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ข้อสรุปเตรียมเสนอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะหมดอายุวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ต่อไปอีก 1 เดือน หรือสิ้นเดือนสิงหาคม 2563 โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นผู้พิจารณา ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค. )
อ้างอิงสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า สถานการณ์ราคาทองคำรูปพรรณที่ปรับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากในช่วง 8 ปี ที่ราคา
ทองคำอยู่ที่บาทละ 27,100 บาท เวลานี้ทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ 27,200 บาท สาเหตุที่ราคาขยับขึ้นเนื่องจากกองทุนขนาดในสหรัฐซื้อทองใน
ตลาดโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ราคาทองปรับตัวสูง
- สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวภายหลังการประชุมหารือการส่งออกข้าว ระหว่างภาครัฐและเอกชนว่า สมาคมได้รายงาน
สถานการณ์ในภาพรวมของการส่งออกข้าวในครึ่งปีหลังปี 63 ต่อที่ประชุม โดยสมาคมจะปรับลดเป้าส่งออกในปี 63 ลงจาก 7.5 ล้านตัน
เหลือ 6.5 ล้านตัน เป็นเป้าที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี และเป็นปริมาณการส่งออกเป็นรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากอินเดียที่คาดว่าจะส่ง
ออกได้ 9.5-10 ล้านตัน และเวียดนาม 7 ล้านตัน เนื่องจากไทยประสบกับปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าวในประเทศลดลง ส่งผลให้ราคาข้าวของไทยสูงขึ้น
- ชาติพัฒนาหลุดโผ ครม.ใหม่ "เทวัญ" ยื่นลาออก จับสัญญาณสลับเก้าอี้กระทรวงเศรษฐกิจนายกฯเล็งยึดเข้าโควตากลาง
ส่งผลพรรคร่วมรัฐบาลป่วน จับตา ดึง "คมนาคม" คืนจาก ภท. "พาณิชย์" คืนจาก ปชป. ขณะที่ "หม่อมเต่า" ยื่นใบ ลาออกจาก รมว.
แรงงานเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
- 4 แกนนำม็อบเยาวชน ลุยต่อ โต้ปม "ม็อบมุ้งมิ้ง" ปราศรัยหน้ากองทัพ โจมตีอดีตรองโฆษก ทบ.หลังโพสต์เฟซฯ งบกองทัพ
สำนักจากสำนักข่าวข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
กลุ่มแบงก์ทยอยประกาศงบ Q2/63 กำไรออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด เหตุตั้งสำรองสูงปรี๊ด รองรับเอ็นพีแอลส่อแววพุ่ง KBANK หนักสุดกำไรต่ำคาด 66% ตามด้วย TISCO 14% และ TMB แม้กำไรโตแต่ยังต่ำกว่าคาด 6% ด้าน "เอเซียพลัส" เตือนโค้ง 2 จับตาหนี้เน่าและลูกหนี้ที่ขอพักชำระหนี้
*** กสิกรไทย กำไร Q2/63 ลดลง 78% YoY
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)หรือ KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ที่ 2,175 ล้านบาท ลดลง 78% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,928 ล้านบาท ส่งผลงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 9,550 ล้านบาท ลดลง 52.18% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ 19,973 ล้านบาท เหตุตั้งสำรองเพิ่มขึ้นรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต พร้อมติดตามคุณภาพหนี้ใกล้ชิด