MTS Help Center

ทองคำฟื้นตัวท่ามกลางกังวลสหรัฐฯ-จีน, ซิลเวอร์ปรับขึ้นทำสูงสุดรอบ 7 ปี

·         ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี จากเหตุตึงเครียดสหรัฐฯจีนที่ช่วยหนุนความต้องการทองคำสินทรัพย์ปลอดภัย โดยทองคำตลาดโลกปิด +1.3% ที่ 1,865.61 เหรียญ และมีการทำสูงสุดวานนี้ตั้งแต่ก.ย. ปี 2011 บริเวณ 1,870.01 เหรียญ ซึ่งดูเหมือนทองคำจะมีการเข้าใกล้ All-Time Peak ในเดือนนี้อย่างต่อเนื่อง และเช้านี้มีการทำสูงสุดต่อใหม่ต่อเนื่องที่ระดับประมาณ 1,876 เหรียญ สำหรับภาพรวมปีนี้ทองคำปรับขึ้นได้แล้ว 23%

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด +1.2% ที่ระดับ 1,865.1 เหรียญ

·         กองทุนทองคำ SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 5.26 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,225.01เป็นการทำสูงสุดใหม่ตั้งแต่ 18 มี.ค. 2013

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ก.ค. – 22 ก.ค. กองทุน SPDR เข้าซื้อแล้วทั้งสิ้น 46.11 ตัน โดยยังคงสถานะการเข้าซื้อต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และทำให้ตั้งแต่ม.ค. – ปัจจุบันกองทุน SPDR เข้าซื้อสุทธิ 331.76 ตัน ซึ่งเป็นระดับรวมรายปีสูงสุดตั้งแต่ปี 2010

·         นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA มองว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากภาวะตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯกับจีนเป็นหลักที่ไม่มีสัญญาณว่าจะยุติข้อขัดแย้งกันได้ จึงกลายเป็นปัจจัยที่ทำลายความเชื่อมั่นในตลาด

·         สหรัฐฯสั่งให้จีนทำการปิดสถานกงสุลในนครฮูสตัน โดยให้เวลาเพียง 72 ชั่วโมงเท่านั้นในการดำเนินการปิดสถานกุงสุลดังกล่าว โดยอ้างเหตุเพื่อป้องกันทรัพย์สินทางปัญหาของสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่าจีนการขโมยข้อมูลลับ และข้อมูลส่วนตัวของชาวสหรัฐฯ และความเคลื่อนไหวล่าสุดดูจะนำมาซึ่งการเพิ่มความตึงเครียดแก่ทั้งสองประเทศ

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ตลอดเวลา” ที่เขาจะสั่งปิดสถานกงสุลจีนแห่งอื่นๆในสหรัฐฯ

·         แหล่งข่าวจีนเปิดเผยว่า จีนเองก็กำลังพิจารณาที่จะปิดสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองอู่ฮั่นเพื่อตอบโต้ และข้อขัดแย้งของสองประเทศดูจะกลายเป็นปัญหาที่กระทบต่อการเติบโตของแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ที่ได้รับผลกระทบของไวรัสโคโรนาในเวลานี้ด้วย

·         ซิลเวอร์ปิด +6.4% ที่ระดับ 22.68 เหรียญ หลังทำสูงสุดตั้งแต่ ต.ค. ปี 2013 บริเวณ 23.03 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมราคาซิลเวอร์ปีนี้ปรับขึ้นได้แล้ว 17% และส่งผลให้นักวิเคราะห์มองซิลเวอร์เข้าสู่ทิศทางขาขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ, การเพิ่มขึ้นทางการลงทุน, อุปสรรคในการผลิต และการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคในภาคอุตสาหกรรม

·         นักวิคราะห์จาก Citi กล่าวว่า ซิลเวอร์ในบางครั้งก็เป็น Safe-Haven เช่นเดียวกันกับทอง แต่ซิลเวอร์จะให้ความสนใจมากกว่าในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของภาคการผลิต

ดัชนี PMI ทั่วโลกมีการรีบาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของทองคำและซิลเวอร์ในไตรมาสนี้

·         ราคาพลาเดียมปิด -1.3% ที่ 2,129.25 เหรียญ และแพลทินัมปิด +2.6% ที่ 904.97 เหรียญ หลังไปทำสูงสุดตั้งแต่ 27 ก.พ. ที่ 918.38 เหรียญได้ในวานนี้

·         ทรัมป์, รีพับลิกันหารือขยายมาตรการคนตกงาน, แต่ความเห็นต่างอาจทำให้การดำเนินการล่าช้า

สมาชิกวุฒิสภาของพรรครีพับลิกัน และเดโมแครตจะทำการเจรจาหารือกันเกี่วกับก้าวต่อไปในการรับมือกับวิกฤตไวรัสโคโรนา โดยหนึ่งในสมาชิกกล่าวเตือนว่าความเห็นต่างอาจทำให้การดำเนินการล่าช้าออกไปหลังจากที่มาตรการสิทธิประโยชน์คนว่างงานจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นเดือนนี้

ทั้งนี้ บรรดาส.ว.พรรครีพับลิกันหลายรายเชื่อว่าการหารือที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องการขยายเวลาออกไปเป็นการชั่วคราวก่อน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่มาตรการดังกล่าวอาจไม่สามารถผ่านมติได้ทันในช่วงเวลา 10 วันนี้ จึงทำให้นายทรัมป์และที่ปรึกษาคนสำคัญต่างๆเร่งหารือกันถึงการหาแนวทางรับมือ

·      รายงานจาก CNBC ระบุว่า พรรครีพับลิกันกำลังพิจารณาขยายเวลาและอาจมีการลดระดับวงเงินช่วยเหลืออยู่ที่ 100 เหรียญ/สัปดาห์ตลอดจนเดือนธ.ค. หรือ 400 เหรียญ/เดือน จากเดิมที่ระดับ 600 เหรียญ/สัปดาห์ หรือ 2,400 เหรียญ/เดือน ขณะที่ภาพรวมอัตราว่างงานยังสูงเหนือ 11% แม้ว่าข้อมูลจ้างงานจะสะท้อนถึงความแข็งแกร่งต่อเนื่อง 2 เดือนติด

·         รัฐแคลิฟอร์เนียพบยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งขึ้นทำสูงสุดประวัติการณ์ใหม่ และนี่อาจเป็นช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดของรัฐฯ โดยยอดล่าสุดมีผู้ติดเชื้อในพื้นที่มากกว่า 12,800 ราย/วัน ถือเป็นระดับรายวันที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมียอดผู้ติดเชื้อรวมสูงกว่า 409,500 ราย ถือเป็นรัฐที่มีสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดในเวลานี้ของสหรัฐฯ

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนา:

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 15,364,925

Ø  จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 629,339 ราย

Ø  จำนวนประเทศติดเชื้อทั่วโลก: 213 แห่ง

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯอยู่ลำดับที่ 1 ของโลก ล่าสุดมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 4.1 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับที่ 1 ของโลกที่ระดับ 146,183 ราย

·         เจ้าหน้าที่จาก WHO ชี้ อย่าคาดหวังถึงวัคซีน COVID-19 จนกว่าจะถึงช่วงต้นปี 2021 เพราะถึงแม้จะมีข่าวคืบหน้าที่ดีในการพัฒนาวัคซีน แต่การจะใช้ได้จริงน่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จนกว่าจะถึงช่วงต้นปี 2021

·         ประธานอีซีบีชี้กองทุนฟื้นฟูวิกฤตไวรัสของอียูจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี มองว่า เธอพอใจกว่าที่สัดส่วนเงินช่วยเหลือนั้นสูงกว่าการวงเงินปล่อยกู้

·         การระบาดของไวรัสส่งผลให้จีดีพีเกาหลีใต้หดตัวลง -3.3% ในไตรมาสที่ 2/2020 โดยลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ระดับ -1.3% และผลที่ออกมายังสูงกว่าที่ Reuters Poll คาดว่าจะออกมาหดตัวที่ -2.3%