· หุ้นเอเชียและดอลลาร์ปรับตัวลง ท่ามกลางนักลงทุนที่รอคอยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนและข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ขณะที่ความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจลดลงและกดดันค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนรอให้รัฐสภาเห็นพ้องกับมาตรการเยียวเศรษฐสหรัฐฯที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นแตะจุดสูงสุดช่วงต้นการซื้อขาย ในรอบหกเดือนครึ่ง แต่กลับมาทรงตัวหลังจากที่ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับลดลง
· หุ้นญี่ปุ่นร่วงลงจากฤดูกาลรายงานผลประกอบการ
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางการประกาศผลประกอบการภาคบริษัทที่ปรับตัวลง แม้ว่าบริษัท Toyota จะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากหลีกเลี่ยงการขาดทุนในไตรมาสที่แล้วอย่างไม่คาดคิด
หลังจากที่บริษัท Toyota รายงานผลประกอบการจากการดำเนินงานที่ 13.9 พันล้านเยน (131.73 ล้านเหรียญ) ในช่วงสามเดือนสิ้นสุดเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งแย่ที่สุดในรอบ 9 ปี แต่ยังดีกว่าที่คาดการณ์ไว้สำหรับผลขาดทุนที่ 179 พันล้านเยน
โดยหุ้น Toyota Motor Corp เพิ่มขึ้น 2.29% ตามการเพิ่มขึ้นของหุ้นผู้ค้าสินค้าโภคภัณฑ์ Mitsui & Co Ltd.
ซึ่งผลประกอบการและการคาดการณ์ที่น่าผิดหวังของบริษัทต่างๆเป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบต่อตลาดญี่ปุ่นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์บางคนยืนยันว่า ผลประกอบการที่ลดลงของบริษัท ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและผลประกอบการจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่บางส่วนมองว่าความน่าจะเป็นของการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯและความพยายามพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาเป็นเหตุผลที่ไม่ควรมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.43% ที่ระดับ 22,418.15 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและบริษัท หลักของผู้บริโภคที่ลดลงมากที่สุด
ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.31% ที่ระดับ 1,549.88 จุด
· หุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดสูงขึ้น ติดต่อกัน 5 วันทำการ ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงิน
ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นวัสดุที่เพิ่มสูงขึ้น จึงช่วยชดเชยความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.26% ที่ระดับ 3,386.46 จุด
· หุ้นยุโรปปรับลงเล็กน้อย ท่ามกลางการประกาศผลประกอบการ ขณะที่บีโออีคงดอกเบี้ยตามคาด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการประกาศผลประกอบการภาคบริษัทที่ออกมาอ่อนแอ และบีโออีประกาศคงดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาการณ์ไว้
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.3% ท่ามกลางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เชื่อมโยงกับดัชนีหุ้นที่สำคัญของสหรัฐฯปิดตัวลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนเฝ้าติดตามความรุนแรงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯ
สำหรับวันนี้ Siemens, ING และ Mediobanca จะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุด
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยซบเซานานถึง 2 ปี โดยตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ในปีนี้อาจหดตัว -7 ถึง -10% ดังนั้นจึงทำให้ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และช่วยกันทำให้ประเทศเกิดความสงบ มีเสถียรภาพ เพื่อทำให้เกิดการค้าขายได้ เพราะหากเกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีกก็ไม่สามารถค้าขายได้ สถานการณ์อาจกลับไปเหมือนก่อนปี 2557
- "ทองคำ" ทำสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุ 3 หมื่นบาทต่อบาททองคำ หลังทองคำโลกพุ่ง 2 พันดอลลาร์ต่อออนซ์ กังวล
เงินเฟ้อพุ่ง-โควิดระบาดลากยาว "นายกสมาคมค้าทองคำ" ชี้ราคามีโอกาสขึ้นต่อ เหตุ แรงซื้อกองทุนทองคำรายใหญ่ของโลกเข้ามาต่อ
เนื่อง
- "ซีไอเอ็มบีไทย" เผยโควิด-19 กระทบธุรกิจเร่งปิดกิจการ ควบรวมกิจการและขายกิจการเพิ่ม ชี้มูลค่าดีลหลักพันถึงสองหมื่นล้านบาท คาดปีหน้าเพิ่มขึ้นต่อหนุนยอดปล่อยกู้รายใหญ่โต 7-9%
- สคร.ตามติดเบิกจ่ายงบลงทุน 44 รัฐวิสาหกิจ เร่งเดินหน้าตามแผน หวังลดผลกระทบโควิด-19 ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ 'รฟท.-ทอท.-กทพ.' เบิกจ่ายต่ำ ด้านคลังเปิดตัวเลขจัดเก็บรายได้ 8 เดือน วืดเป้า 1.89 แสนล้านบาท 3 กรมภาษียอดร่วงหนัก
- เอกชนท่องเที่ยวชงรัฐ ตั้งกองทุน 1 แสนล้าน เยียวยาท่องเที่ยว พยุงก่อนปิดกิจการ เลิกจ้าง ผ่าทางตันกู้แบงก์ยาก จี้รัฐหนุนลดต้นทุน ขยายพัก เงินต้น ดอกเบี้ย-ลดค่าน้ำ ไฟ-อุ้มแรงงาน 4 ล้านคน ด้าน "ททท." หั่นปรับรายได้รวมท่องเที่ยวปี 63 ต่ำล้านล้าน เหลือ 7.5 แสนล้าน