• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2563

    17 สิงหาคม 2563 | Economic News
 

· ดอลลาร์อ่อนค่า จับตาการเมืองสหรัฐฯและรายงานประชุมเฟด

ดอลลาร์อยู่ในทิศทางอ่อนค่า ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดเพิ่มขึ้นจากการเลื่อนการปรับทบทวนข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ไร้ซึ่งปัญหาเพิ่มเติมดูจะช่วยระงับความไม่แน่นอนในตลาดลงไป ท่ามกลางรายงานประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่ามาแถว 93.039 จุด หลังจากที่ไปทำต่ำสุดรอบ 2 ปีเมื่อช่วงสิ้นเดือนก.ค.

ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 106.54 เยน/ดอลลาร์

นักกลยุทธ์ค่าเงินอาวุโสจาก National Australia Bank กล่าวว่า การเลื่อนทบทวนข้อตกลงการค้าอกไป นับเป็นข่าวดีสำหรับตลาดในเวลานี้ แต่ความไม่แน่นอนก็ยงคงมีอยู่และยังไม่ถูกแก้ไข โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาในยุโรปดูจะเห็นการฟื้นตัวได้ดีและทำให้ยูโรอยู่ในทิศทางแข็งค่า

ข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่นสะท้อนถึงภาวะหดตัวทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากไวรัสโคโรนาได้เข้ากระทบภาคธุรกิจและการใช้จ่ายในกลุ่มผู้บริโภค

นิวซีแลนด์มีการเลื่อนเลือกตั้งทั่วไปออกไปในเดือนนี้ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับยอดติดเชื้อในฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และสเปนที่กำลังเพิ่มขึ้น

ค่าเงินยูโรล่าสุดทรงตัวที่ 1.1844 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์ทรงตัวที่ 1.3095 ดอลลาร์/ยูโร

ตลาดจับตาไปยังรายงานประชุมเฟดในวันพฤหัสบดี เพื่อดูความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงสัญญาณชี้นำต่อไปในการประชุมรอบหน้าของเฟด

นักลงทุนกำลังคาดหวังว่าเฟดจะมีการปรับนโยบายด้านเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดพันธบัตรถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หากเฟดดำเนินการลด Real Yeild ขึ้นมาจริง ก็อาจทำให้ดอลลาร์ร่วงตาม และทองคำมีแนวโน้มจะปรับขึ้นต่อ


· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลของไวรัสโคโรนายังคงมีอยู่


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงมาบริเวณ 0.6947% ขณะที่อัตราผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับลงมาที่ 1.4290%


· การเลื่อนทบทวนข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีนอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย!

รายงานจาก CNBC นำเสนอมุมมองนักวิเคราะห์เกี่ยวกับการเลื่อนการปรับทบทวนข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป โดยที่ทั้งสองฝ่ายมีการเลื่อนการคุยกันไปเมื่อวันเสาร์อย่างไม่มีกำหนด ก็อาจเป็นการให้เวลาแก่จีนมากขึ้นในการเข้าซื้อสินค้าส่งออกของสหรัฐฯเพิ่ม


ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกนั้นจีนซื้อสินค้าจากสหรัฐฯได้ไม่น้อยกว่า 25% ของเป้าหมายปีนี้ ตามอ้างอิงของ PIIE


· EUR/USD Forecast: แม้จะเสียความเชื่อมั่นขาขึ้น แต่ยูโรก็ยังไม่เป็นขาลง

นักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวว่า ค่าเงินยูโรปิดแข็งค่าต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ โดยเคลื่อนไหวแถว 1.1840 ดอลลาร์/ยูโร ท่ามกลางตึงเครียดสหรัฐฯและจีน และการปราศจากข้อตกลงแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังมีอยู่ ขณะที่ล่าสุดมีการประกาศเลื่อนการปรับทบทวนข้อตกลงการค้าเฟสแรกออกไปอย่างไม่มีกำหนด

วิเคราะห์ทางเทคนิคในระยะสั้นๆ

ภาพรายวันของยูโรยังคงยืนได้เหนือเส้น Fibonacci Retracement 23.6% ที่ 1.1740 ดอลลาร์/ยูโร และยังยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 20DMA ด้าน RSI ทรงตัวแถว 67 จุด จึงอาจมีการปรับตัวลดลงมาได้ ซึ่งกราฟราย 4 ชั่วโมงยังคงบ่งชี้ถึงการเข้าซื้อแต่ก็อาจเผชิญกับการปรับลงระยะสั้นๆก่อน โดยในทางเทคนิคนั้นภาพหลักยังเป็นทิศทางแข็งค่า

แนวต้าน: 1.1870 1.1915 และ 1.1950

แนวรับ: 1.1830 1.1790 และ 1.1740


· เลขาธิการกระทรวงพาณิชย์ฮ่องกง ชี้ ตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนไม่เอื้อประโยชน์ต่อฮ่องกง

เลขาธิการกระทรวงพาณิชย์และเศรษฐกิจฮ่องกง กล่าวว่า ตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน ไม่เป็นผลดีกับฮ่องกง พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นศัตรูต่อไวรัสโคโรนาเพียงประการเดียว เนื่องจากแค่การระบาดก็ดูจะเป็นอุปสรรคต่อการค้าค่อนขางหนักแล้ว ดังนั้น การที่สหรัฐฯและจีนมีปัญหาข้อขัดแย้งทางการค้ากันจึงไม่เป็นเรื่องที่ดี


· กลุ่มผู้ผลิตโลหะมีค่าญี่ปุ่น เล็งอุปสงค์เพิ่มขึ้นการกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์หลังทรุดตัวหนักในช่วงไตรมาสแรก

กลุ่มผู้ผลิตญี่ปุ่น ทั้งเหล็ก และอะลูมิเนียม กล่าวว่าจากที่ผลผลิตร่วงลงในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นผลจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์เป็นการชั่วคราวเท่านั้นอันเนื่องจากการปิดโรงงานเพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนาและการร่วงลงของอุปสงค์

ดังนั้น ในระหว่างเดือนก.ค. - ก.ย. คาดจะเห็นอุปสงค์เพิ่มสูงขึ้นแต่ก็อาจไม่ได้กลับไป 100% ดังที่เคยผลิตได้ในช่วงเดือนมี.ค.ก่อนหน้า เนื่องจากยังมีกำลังไม่เพียงพอจะให้อุปสงค์กลับไปสู่ช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโคโรนาได้


· เศรษฐกิจญี่ปุ่นร่วงลงเป็นประวัติการณ์ทำลายความสำเร็จยุคอาเบะ

ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจทางเศรษฐกิจดิ่งสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 2/2020 จากการระบาดของไวรัสโคโรนาท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา ที่กระทบกับห้างสรรพสินค้า, อุปสงค์รถยนต์ และการส่งออกอื่นๆ จึงยิ่งอาจทำให้เกิดการดำเนินนโยบายที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยเชิงลึก

เศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวลงต่อเนื่อง 3 ไตรมาส ท่ามกลางจีดีพีที่เข้าสู่ระดับต่ำสุดรอบ 10 ปี จึงขจัดความสามารถของนโยบาย Abenomics ที่ดำเนินการได้ดีตั้งแต่ช่วงปลายปี 2012

ขณะที่เศรษฐกิจเผชิญปัญหาจากการ Lockdown ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าจะเห็นการรีบาวน์ได้ในไตรมาสปัจจุบัน


· เกาหลีใต้สู้กับการระบาดที่เพิ่มขึ้นในรอบเดือน เตือนถึงวิกฤตที่กลับมาอีกครั้ง

เกาหลีใต้กล่าวเตือนวิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งใหม่ อันประกอบด้วยกลุ่มคนที่มีการไปโบถส์กว่า 300 คนล่าสุดที่ตรวจพบผู้ติดเชื้ออีกครั้ง โดยล่าสุดพบยอดติดเชื้อใหม่กว่า 197 รายในช่วงค่ำของวันเสาร์


· รายงานรัสเซียชี้มียอดติดเชื้อโคโรนาใหม่สูงเกือบ 5,000 ราย

รายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของรัสเซียเพิ่มขึ้น 4,892 ราย ส่งผลให้มียอดติดเชื้อรวมสูงถึง 927,745 ราย ซึ่งถือเป็นประเทศที่มียอดติดเชื้อมากที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ของโลก


· ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น รับข่าวจีนเล็งนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า จีนวางแผนที่จะนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐในเดือนส.ค.-ก.ย. ซึ่งมีมากกว่าความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่ชะลอตัวหลังจากการระบาดของไวรัสโคโรนาและอุปทานที่เพิ่มสูงขึ้

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 21 เซนต์หรือคิดเป็น 0.5% ที่ระดับ 45.01 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.6% ที่ระดับ 42.28 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com