· ดัชนี S&P500 ชะลอการทำสูงสุดประวัติการณ์หลังประชุมเฟด ภาพหลักยังเป็นขาขึ้น
ดัชนี S&P500 ทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,399.54 จุด แต่แล้วก็อ่อนตัวลงหลังจากที่ทราบรายงานประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ และปิดที่ 3,374.85 จุด โดยทิศทางหลักยังเป็นขาขึ้น
นักวิเคราะห์จาก ActionForex กล่าวว่า ทิศทางดัชนี S&P500 ยังเป็นขาขึ้นตราบที่ยังอยู่เหนือ 3,279.99 จุด แต่หากดัชนี S&P500 ปรับขึ้นได้ต่อและยืนเหนือ 3,393.52 จุดก็จะยืนยันภาวะขาขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี เราแนะนำให้จับตาบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 55 วัน ที่ระดับ 3,209.72 จุด จะบ่งชี้ภาวะขาลงในระยะสั้นๆ
· หุ้นเอเชียปรับลดลง ขณะที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้นหลังมาตรการผ่อนคลายนโยบายของเฟด
ตลาดหุ้นเอเชียและดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลง โดยได้รับผลกระทบจากมุมมองที่ระมัดระวังของเฟดเกี่ยวกับเศรษฐกิจ
ความตึงเครียดกับจีนและกลุ่มผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนารายใหม่
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง 1.79% ซึ่งเป็นการปรับลดลงรายวันมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง 0.55%
· หุ้นญี่ปุ่นร่วงลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากที่เฟดรายงานการประชุมในเดือนก.ค.เมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 229.99 จุด หรือคิดเป็น 1% ที่ระดับ 22,880.62 จุด ด้านดัชนี Topix ลดลง 14.53 จุด หรือคิดเป็น 0.90% ที่ระดับ 1,599.20 จุด
ทั้งนี้ การปรับลง นำโดย หุ้นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อสังหาริมทรัพย์และผลิตภัณฑ์โลหะ
· ดัชนี Shanghai ร่วงลงมากที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์ ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เบาบางลงไป
ดัชนี Shanghai ร่วงลงมากที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์ โดย Shanghai Composite ร่วงลง 1.3% ที่ระดับ 3,363.90 จุด ซึ่งเป็นรายวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะทีด่ัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 ลดลง 1.3%
· หุ้นยุโรปปรับลง หลังเฟดแสดงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง หลังจากที่รายงานประชุมเฟดยังมีการย้ำถึงภาวะเศรษฐกิจขาลงจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่สร้างความไม่แน่นอนต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มนโยบายกระตุ้นทางการเงินเพื่อสนับสนุนทางเศรษฐกิจ
โดยดัชนี Stoxx600 ร่วงลง 1.2% ด้านหุ้นกลุ่มทรัพยากรร่วงลง 2.5% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
· SET จ่อหลุด 1,300 จุด ผวา! ไทยติดโควิดรายแรกรอบ 86 วัน
ดัชนีหุ้นไทยร่วงแรงต่ำสุดกว่า 29 จุด หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายแรกในรอบ 86 วัน หวั่นเกิดระบาดระลอก 2 "โบรกเกอร์" ชี้ทำตลาดผันผวน ห่วงฉุดดัชนีหลุด 1,300 จุด แนะเลี่ยงลงทุนระยะสั้น ด้าน "ทิสโก้" หั่นดัชนีปีนี้เหลือ 1,400 จุด หลังปรับลดประมาณการกำไรบจ.ลง
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทย วันที่ 19 ส.ค.63 ปรับตัวลดลงแรงต่ำสุดกว่า 29 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,308.67 จุด ลดลง 21.44 จุด คิดเป็น 1.61% มูลค่าการซื้อขาย 57,283 ล้านบาท โดยมีหุ้น AOT-PTT-ADVANC-BDMS-SCC ฉุดตลาด หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายแรกรอบ 86 วัน
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.63 อยู่ที่ระดับ 82.5 เพิ่มขึ้นจากระดับ 80.0 ในเดือนมิ.ย.63 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ทั้งนี้ การฟื้นตัวของภาคการผลิตมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้กิจการต่างๆ กลับมาดำเนินการได้มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้สินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม สินค้าวัสดุก่อสร้าง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ เช่น งาน Motor Show และโปรโมชั่น Mid Year Sale เป็นต้น
· กรมควบคุมโรค แถลงค่ำวานนี้ว่า รพ.รามาธิบดี พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 2 ราย แต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งเป็นผู้มาจากต่างประเทศและพักในสถานกักตัวของรัฐจนครบกำหนดแล้วซึ่งเชื้อที่พบในรายแรกเป็นซากเชื้อไวรัสที่ตายแล้วและไม่สามารถแพร่เชื้อต่อได้ ขณะที่รายที่ 2 ต้องรอผลตรวจยืนยันอีกครั้ง
· ศบศ.นัดแรกรับลูก ททท.รื้อโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เพิ่มสิทธิ์ที่พักจากคนละ 5 คืน เป็น 10 คืน พร้อมเพิ่มตั๋วเครื่องบินจาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท หลังโครงการฝืด พร้อมดึงบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เข้าร่วม ตั้ง "สมิทธ์ พนมยงค์" เป็นโฆษกศูนย์ ศบศ. "สุพัฒนพงษ์" เผย ครม.สัญจร ได้เห็นแนวทางจ้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง
· ธปท.เคาะแนวนโยบายรักษาความปลอดภัยในการใช้บริการผ่านมือถือ "โมบายแบงกิ้ง" ห้ามมือถือเวอร์ชั่นต่ำ-เจลเบรกเริ่มมีผล 31 ธ.ค. 63 นี้ ด้าน "กสิกร" ลั่นระบบป้องกันความปลอดภัยแน่น เกินมาตรฐานแบงก์ชาติกำหนด "ยูโอบี" ขีดเส้นให้ลูกค้าอัพเดทเวอร์ชั่นมือถือก่อน 15 ก.ย.นี้
· ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากเดินสายพบผู้ประกอบการหลากหลายธุรกิจทั่วประเทศ ได้เตือนให้ผู้ประกอบการเร่งปรับตัว เพราะประเมินสถานการณ์ได้ยากว่าโควิด-19 จะจบลงเมื่อใด ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับธุรกิจอย่างจริงจังให้สอดรับกับโลกยุคใหม่ (นิวนอร์มัล) การได้แต่สภาพคล่องแต่ไม่ปรับธุรกิจจะทำให้เงินหายไปในแต่ละเดือน แม้เงินสินเชื่อจะเข้ามาช่วยลดรายจ่ายผู้ประกอบการได้ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ลดรายจ่ายด้านภาษีก็ตาม
· ประธานวิปรัฐบาลแถลงมติสส.ฝ่ายรัฐบาลเสนอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ไม่แตะหมวด 1-2 เปิดทางตั้งส.ส.ร.ด้าน "ปชป.- ภท." หนุนแก้รธน.
อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ
· เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 63 พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวว่า ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันนี้มีมติต่อพระราชกำหนดฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน เนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติโรคติดต่อยังแก้ไขไม่แล้วเสร็จ โดยการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะต่อขยายครอบคลุมไปทั้งเดือนกันยายน
ส่วนการประเมินสถาการณ์การชุมนุมของนักศึกษาของหน่วยงานด้านความมั่นคงนั้น พล.อ.สมศักดิ์ ระบุว่า การชุมนุมนั้นเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร พร้อมกับยืนยันว่า จะไม่มีการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาบังคับใช้กับการชุมนุม ส่วนต้องจับตาอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น พล.อ.สมศักดิ์ ย้ำว่า หากการชุมนุมเป็นไปตามกรอบกฎหมายไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่าจะกระจายไปยังโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ
· เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,389 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 58 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,218 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 113 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย เป็นคนไทย ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ซึ่งเดินทางมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย ฮ่องกง (ประเทศจีน) 1 ราย ประเทศสิงคโปร์ 2 ราย และอียิปต์ 1 ราย