· ตลาดหุ้นเอเชียรีบาวน์ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เป็นสัปดาห์ที่อ่อนแอที่สุดในรอบหนึ่งเดือน เนื่องจากนักลงทุนต่อสู้กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่สงบและการร่วงลงไป จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาที่จะกระทบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 1.1%
· ดัชนี Nikkei รีบาวน์ ตามหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ยังคงปรับลง
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยให้หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ตามกสนเพิ่มขึ้นของหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา แม้ว่านักลงทุนจะเทขายทำกำไรก่อหน้าวันหยุดสัดสัปดาห์
โดยดัชนี Nikkei ปิดเพิ่มขึ้น 0.17% ที่ระดับ 22,92030 จึด หลังจากที่เพิ่มขึ้นกว่า 1% ในช่วงก่อนหน้านี้ ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,604.06 จุด
อย่างไรก็ดี ภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนี Nikkei ร่วงลงไป 1.58%
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น และภาพรวมรายสัปดาห์ปรับตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังข้อมูลการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แม้ว่าความไม่แน่นอนระหว่างสหรัฐฯและจีนยังคงกดดันการปรับตัวสูงขึ้นอยู่
โดยดัชนี blue-chip CSI300 เพิ่มขึ้น 0.9% ที่ระดับ 4,718.84 จุด และดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.5% ที่ระดับ 3,380.68 จุด
ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนได้แรงหนุนจากผลประกอบการครึ่งปีแรกที่แข็งแกร่งจากบริษัท จีนเนื่องจากการเพิ่มแรงกระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัสโคโรนา
· หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น ก่อนหน้าจากประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของยูโรโซน หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาผสมผสาน
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ก่อนหน้าการประกาศข้อมูลที่สำคัญของยูโรโซนและอังกฤษ ท่ามกลางตลาดที่ยังคงให้ความสนใจไปยังประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมือง
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.5% ด้านหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการพักผ่อนพุ่งขึ้น 1.4% ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหในแดนบวก
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· สภาธุรกิจตลาดทุน เตรียมหารือ "คลัง" สัปดาห์หน้า ชง 2 ข้อเสนอ หวังใช้ "ตลาดทุน" ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ โดยดันตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมเพิ่มช่องทางช่วย "เอสเอ็มอี" ระดมทุน เชื่อช่วยลดภาระรัฐกู้ยืมเงิน ลดหนี้สาธารณะ พร้อมประเมินหุ้นไทยดาวน์ไซด์จำกัด สิ้นปีมีลุ้นแตะ 1,400 จุด
· ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม. สัญจรที่ จ.ระยอง วันที่ 24-25 ส.ค. 63 นี้ ภาคเอกชนจะเสนอโครงการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก 4 ด้านหลักประกอบการ การพัฒนาน้า, โครงสร้างพื้นฐาน, การท่องเที่ยว และภาคเกษตร เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของภาคตะวันออกขยายตัวอย่างยั่งยืนในทุกด้าน ไม่ใช่เฉพาะภาคอุตสาหกรรมด้านเดียว โดยงบประมาณและจำนวนโครงการนั้นต้องมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งระหว่างภาคเอกชน กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกัน
· รัฐบาลเร่งดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติปลอดโควิดเข้าไทยรับไฮซีซั่น นายกฯ สั่งให้ดำเนินการ 6 ภาคพร้อมกันทั่วประเทศการท่องเที่ยวประสาน 4 กระทรวงหลักสำรวจความพร้อมของชุมชน คาดเป้าหมายแรกคือกลุ่มสแกนดิเนเวีย
อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ
· วันที่ 21 สิงหาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า ในที่ประชุม ศบค. มีมติผ่อนคลายกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่
1. การเปิดเรียนปกติ 100%
2.การแข่งขันกีฬา แบบมีผู้ชม แต่ต้องลดความแออัดของผู้ชมให้ได้ ไม่ใช่นั่งเต็มพื้นที่เหมือนเวทีมวย ต้องปฏิบัติตามวิถีนิวนอร์มอล โดยกีฬาที่ต้องตะโกนเชียร์ ต้องเน้นรักษาระยะห่าง และแบ่งระดับกีฬาเป็น “ขาว เขียว เหลือง ส้ม แดง” รวมถึงจัดสัดส่วนพื้นที่กับจำนวนผู้ชมที่จะเข้าไปนั่งชมได้
3.ระบบขนส่งสาธารณะ อนุญาตให้นั่งได้เต็มความจุ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ซึ่งได้เห็นชอบ และทดลองแล้วตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563
· ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์ก.ค. ร่วงต่อ47.71% แต่พบสัญญาณบวก24.59% เทียบมิ.ย.เหตุอุตฯยานยนต์ส่วนใหญ่กลับมาเปิดทำการและโรงงานเริ่มเปิดสายการผลิตเพิ่มขึ้น
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนก.ค. 2563 โดยจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ ทั้งสิ้น 89,336 คัน ลดลง 47.71% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน จากการผลิตเพื่อส่งออกลดลง47.42% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 47.98% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา24.59% เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่กลับมาเปิดทำการ และโรงงานเริ่มเปิดสายการผลิตเพิ่มขึ้น