• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2563

    24 สิงหาคม 2563 | SET News
    
นักกลยุทธ์ 20 รายทำนายการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการส่งผลต่อหุ้น

จากการสำรวจนักกลยุทธ์ส่วนใหญ่โดย CNBC คาดการณ์ว่า นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ แต่ยังคงมีนัยยะสำคัญที่เกี่ยวกับหุ้นอยู่
นักกลยุทธ์ 20 คนเลือกให้ นายไบเดน ชนะ นายทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ครึ่งหนึ่งของนักกลยุทธ์คาดการณ์ว่า หุ้น S&P 500 จะลดลงในช่วงเดือนแรกหลังการเลือกตั้ง 5จาก20 ราย คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 ราย คิดว่าจะมีขอบเขต และ 1 ราย เลือกที่จะไม่ตอบ

8 ราย กล่าวว่าพวกเขาคาดว่า S&P 500 จะลดลงต่ำ5% จาก 3 ราย ที่เลือกนายไบเดน 2 ราย ที่เลือกนายทรัมป์ และ 2 ราย จากกมารคาดเดาการเลือกตั้งที่มีการแข่งขันกันนี้ นักกลยุทธ์ 2 ราย คาดการณ์ว่า S&P 500 จะลดลง 10% หลังการเลือกตั้งหนึ่งในนั้นเลือก นายไบเดน และ อีก 1 คน เลือกทรัมป์

เมื่อถูกถามว่าปฏิกิริยาของตลาดต่อชัยชนะของนายทรัมป์จะเป็นอย่าง ไรผู้ตอบแบบสอบถาม 11 ราย กล่าวว่า S&P 500 สามารถเพิ่มขึ้นได้อีก 5% อีก 5 ราย กล่าวว่าตลาดจะยังคงมีขอบเขต บางรายแย้งว่าในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์มีผลดีต่อตลาดทุนในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่ง แต่ส่วนต่างของตลาดจะลดลงในปี 2021 เนื่องจากข้อ จำกัด ด้านการค้าและการย้ายถิ่นฐานอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจ

นักกลยุทธ์ 3 ราย กล่าวว่า S&P 500 จะสามารถปิดได้เหนือ 3,600 ในขณะที่อีก 2 ราย กล่าวว่า จะต่ำกว่า 3,000

พวกเขากล่าวว่านายทรัมป์จะมีท่าทีแข็งต่อต้านจีนรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามแต่จะเป็นการส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคเทคโนโลยี
มีการคาดว่าหาก นายไบเดนได้เป็นประธานาธิบดี จะใช้แนวทางระดับปานกลางในการสร้างความสัมพันธ์กับจีนผู้ตอบแบบสอบถามหลายคนกล่าว ในขณะที่ นายไบเดน จะพยายามส่งงานด่านอุตสาหกรรมการผลิตไปยังสหรัฐอเมริกาต่อไป แนวทางดังกล่าวจะทำให้เกิดการเผชิญหน้าน้อยลง

· หุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น หลังเหล่านักลงทุนได้รับความหวังเกี่ยวกับการรักษาไวรัสโคโรนา

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากที่สหรัฐฯอนุญาตให้ใช้พลาสมารักษาผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาได้

โดยสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรืออย.สหรัฐฯ แถลงถึงการอนมัติให้ใช้พลาสมาในการรักษาไวรัสโคโรนาได้แล้ว โดยพลาสมาสเหล่านี้คือเลือดที่ได้รับบริจาคโดยผู้ที่ได้รับการรักษาไวรัสโคโรนาจนหายดีแล้

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.8%


· หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของนายซินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกำไรใน e-mini futures และหุ้นเอเชีย อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นเป็นไปได้อย่างจำกัด เนื่องจากสุขภาพของนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่กดดันความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.28% ปิดที่ระดับ 22,985.51 จุด ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.19% ที่ระดับ 1,607.13 จุด

ทั้งนี้ บรรดานักลงทุนต่างระมัดระวังการลงทุน หลังจากที่นายอาเบะเข้าโรงพยาบาลในโตเกียวเพื่อรับการตรวจสุขภาพในสัปดาห์ที่แล้ว

การตรวจสุขภาพเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของนายอาเบะ ในการดำรงตำแหน่งผู้นำต่อไปเนื่องจากปัญหาสุขภาพและความเหนื่อยล้าจากการจัดการกับวิกฤตไวรัสโคโรนา


· หุ้นจีนปิดปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวของหุ้น Start-Up

ตลาดหุ้นจีนปิดปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวของหุ้น Start-Up กลุ่มเทคโนโลยีใน ChiNext ท่ามกลางนักลงทุนตอบรับกับแผนปฏิรูปตลาดของจีนที่หนุนให้หุ้นเทคโนโลยีปรับขึ้นแข็งแกร่ง

โดยดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 เพิ่มขึ้น 0.8% ที่ระดับ 4,755.85 จุด ด้านดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.2% ที่ระดับ 3,385.64 จุด

ขณะที่ดัชนี ChiNext ปิดพุ่ง 2% และดัชนี STAR50 เพิ่มขึ้น 0.2%

· หุ้นยุโรปเริ่มต้นสัปดาห์ในแดนบวก

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังข่าวการเงิน การเมืองและสถานการณ์ไวรัสโคโรนาทั่วโลก

โดยดัชนี Stoxx600 พุ่งขึ้น 1.4% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก

ขณะที่รายงานจาก Financial Times เผยว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์ เปิดเผยถึงการพิจารณาการใช้ Fast Tracking สำหรับการอนุมัติการพัฒนาวัคซีนไวรัสโคโรนาในอังกฤษสำหรับการใช้ในสหรัฐฯให้ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ


อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

· กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน ก.ค.63 โดยการส่งออกไทยมีมูลค่า 18,819.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลง -11.4% จากตลาดคาดว่าจะหดตัว -15 ถึง -19.5% โดยเป็นการหดตัวต่อเนื่องจากเดือน มิ.ย.ที่ติดลด -23.17% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 15,476.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว -26.4% ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 3,343.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่ภาพรวมช่วง 7 เดือนแรกของปี 63 (ม.ค.-ก.ค.) การส่งออกมีมูลค่ารวม 133,162.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว -7.7% ส่วนการนำมีมูลค่ารวม 119,118.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว -14.7% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 14,044.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

· "คลัง" รับแผนรีดรายได้ปีงบ 63 หลุดเป้าหมายไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านบาท คาดปีงบ 64 จัดเก็บยังไม่ฟื้น หลังโควิด-19กระทบอ่วม ด้าน "ธปท." การันตีฐานะการดำเนินงานและเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ยังแข็งแกร่งรับมือวิกฤติโควิด-19 และเศรษฐกิจได้

· ธปท.ยืนยันฐานะการดำเนินงานและเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยังมีความแข็งแกร่ง สามารถรองรับวิกฤตใน

ระดับที่รุนแรงได้ หลังกันสำรองเข้มงวดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมดูแลลูกหนี้ช่วงโควิด-19 ป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสียเพิ่ม

หลัง "รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์" ศาสตราภิชาน ธรรมศาสตร์ ระบุเศรษฐกิจแย่อาจต้องใช้เวลาแก้ถึง 5 ปี และมีอย่างน้อย 3 แบงก์จ่อล้ม

· นักเศรษฐศาสตร์ ห่วง "ม็อบ" ลากยาวฉุดลงทุนชะงัก กระทบเศรษฐกิจ หวั่นนักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่น โยกลงทุน

ประเทศอื่น ย้ำไทยไม่ใช่ตัวเลือกเดียวเหมือนอดีต แต่เชื่อระยะสั้นยังไร้ผลกระทบ เหตุพิษโควิดทำนักท่องเที่ยว-นักลงทุนเดินทางไม่ได้อยู่

แล้ว หวังทุกฝ่ายหาข้อสรุปที่ดีร่วมกันได้ ด้าน "นักวิเคราะห์'" ยอมรับมีผลต่อ "ตลาดหุ้น-ค่าเงินบาท" หลังพบต่างชาติเริ่มเทขายหนักทั้ง ใน ตลาดหุ้น-บอนด์


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com