• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2563

    25 สิงหาคม 2563 | Economic News
 
ดอลลาร์อ่อนค่า จากความสำเร็จในการเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน

ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง ขณะที่หยวนและออสเตรเลียดอลลาร์แข็งค่าหลังจากที่มีการเผยถึงความสำเร็จของสรหัฐฯและจีนในการเจรจากันทางโทรศัพท์ หลังจากที่มีการเลื่อนกำหนดการประชุมออกมาจากวันที่ 15 ส.ค.

โดยล่าสุดนั้นทางฝั่งสหรัคฐฯ มีการกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยมีความคืบหน้ามากขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน เรียกการเจรจาครั้งนี้มีความก้าวหน้าอย่างมาก

ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% ที่ 0.7171 ขณะที่หยวนแข็งค่าลงมาที่ 6.9070 หยวน/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.2% ที่ 1.1813 ดอลลาร์/ยูโร และปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.2% ที่ 1.3088 ดอลลาร์/ปอนด์ ขณะที่เงินเยนแข็งค่าลงมา 0.2% ที่ 106.17 เยน/ดอลลาร์

อย่างไรก็ดี ควมเชื่อมั่นของดอลลาร์ยังมีแรงหนุนจากข่าวที่ว่าทีมบริหารนายทรัมป์กำลังพิจารณาใช้ Fast-Track ในการอนุมัติวัคซีน Covid-19 ที่กำลังพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัท AstraZeneca และมหาวิทยาลลัย Oxford

นักลงทุนคาดว่าจะเห็นท่าทีผ่อนคลายทางการเงินจากประธานเฟดในการประชุมธนาคารกลางประจำปีในคืนวันพฤหัสบดีนี้ รวมทั้งอาจเห็นเขามีท่าทีในการผ่อนปรนต่อระดับอัตราเงินเฟ้อมากยิ่งขึ้นด้วย


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางนักลงทุนกำลังรอคอยข้อมูลที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นมาบริเวณ 0.6607% ขณะที่อัตราผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับขึ้นมาที่ 1.3623%

สำหรับสัปดาห์นี้ ตลาดให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ในการประชุมธนาคารกลางประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล, รัฐไวโอมิง

· ทรัมป์และสมาชิกรีพับลิกันชี้ถึงความย่ำแย่ของสหรัฐฯหากไบเดนชนะเลือกตั้ง

นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและสมาชิกพรรครีพับลิกัน เผยรายละเอียดการประชุมพรรค โดยมีการกล่าวถึง นายไบเดน ตัวแทนผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเชิงลบหากได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้ และจะก่อให้เกิดการโต้เถียงที่นำไปสู่ความรุนแรงและความวุ่นวายทางสังคม ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐานที่ว่าพรรคเดโมแครตกำลังพยายามโกงการเลือกตั้ง

พรรครีพับลิกันได้ให้คำสัญญาว่าจะเสนอข้อความเชิงบวกที่สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งต่างจากสิ่งที่การประชุมของพรรคเดโมแครตในสัปดาห์ที่แล้วที่เป็นไปในเชิงลบ

อย่างไรก็ดี บรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันก็ดูจะพูดในเชิงลบต่อสหรัฐฯ หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง


· เศรษฐกิจเยอรมนีไตรมาส 2 หดตัวครั้งประวัติการณ์ -9.7% เมื่อเทียบรายไตรมาส

เศรษฐกิจเยอรมนีในไตรมาสที่ 2/2020 หดตัวลงครั้งเป็นประวัติการณ์ที่ -9.7% อันเนื่องจากการดิ่งลงของการอุปโภคบริโภคของการลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกที่ตอกย้ำถึงผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

อย่างไรก็ดี ข้อมูลล่าสุดก็ดีกว่าข้อมูลประมาณการณ์ที่ออกมาที่ -10.1%


· จีนเห็นพ้องสหรัฐฯในการเดินหน้าข้อตกลงเฟส 1

วันนี้ทางการจีนแสดงความเห็นพ้องกับสหรัฐฯในการเดินหน้าตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสองประเทศที่ได้ลงนามไว้ในช่วงต้นปี โดยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน เผย นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน ร่วมกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ตัวแทนการค้าสหรัฐฯ ร่วมกับ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เห็นพ้องกันในการเดินหน้าปฏิบัติตามข้อตกลงการค้า และเงื่อนไขในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจระดับมหาภาคที่แข็งแกร่ง


· ประธานาธิบดีจีน เตือน ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจากปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่เพิ่มขึ้น

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวเตือนว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างหนักจากความเสี่ยงของตลาดนอกประเทศที่กำลังเพิ่มขึ้น พร้อมเรียกร้องให้บรรดากลุ่มผู้กำหนดนโยบายมีการเพิ่มการสนับสนุนอุปสงค์ภายในประเทศเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ นายสี ร่วมกับที่ปรึกษาด้านนโยบาย และนักเศรษฐศาสตร์ของประเทศ จะร่วมหารือกันถึงแนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาวเพื่อเตรียมร่างแผนเศรษฐกิจ 5 ปี ครั้งที่ 14

ทั้งนี้ แผนเศรษฐกิจแบบพิมพ์เขียวราย 5 ปี ถูกคาดว่าจะเปิดเผยในที่ประชุมรัฐสภาจีนประจำปีในปีหน้า และนายสีก็มีการระบุถึงการที่จีนต้องเตรียมพร้อมรับมือกับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง อันเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่สร้างให้เกิดการกีดกันทางการค้าอย่างรุนแรง และยังมีการกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นอุปสรรคกับห่วงโซ่อุปทานด้วย


· เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางจีน ชี้ยังคงนโยบายการเงินแบบปกติ

หัวหน้าฝ่ายนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน กล่าวว่า จีนจะยังคงนโยบายการเงินแบบปกติ หลังจากที่จีนมีการยุติการผ่อนคลายทางการเงินหลังเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา ดังนั้น ธนาคารกลางจีนจึงจะยังไม่เปลี่ยนแปลงทิศทางการดำเนินนโยบายหรือปรับนโยบายให้มีความยืดหยุ่น

ขณะที่สภาพคล่องทางการเงินก็ยังคงดำเนินไปอย่างเพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจจีนมีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ตามเดิม


· นักเศรษฐศาสตร์ เผย การระบาดของไวรัสโคโรนาอาจทำให้เงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่ง และธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจไม่สามารถทำอะไรได้

นายไฮดิโอะ ฮายาคาวา อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะทำให้มีเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นและอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นและทำให้การผ่อนคลายทางการเงินฉบับพิเศษล้มเหลวในการดำเนินการ

บีโอเจมีการพิมพ์พันธบัตรเป็นจำนวนมากมาหลายปีอันเป็นส่วนหนึ่งจากการใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและเพื่อให้บรรลุ เป้าหมายเงินเฟ้อ 2%

อย่างไรก็ดี จำนวนเงินส่วนมากกลับไปอยู่ที่สถาบันการเงินแทนที่จะกระจายออกไปทั่วระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากบริษัทของญี่ปุ่นเลี่ยงความเสี่ยงและระมัดระวังในการกระตุ้นการใช้จ่าย


· จะเกิดอะไรขึ้นหาก "อาเบะ" ผู้นำญี่ปุ่นไม่สามารปฏิบัติงานได้หรือมีการลาออก

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีการรักษาตัวในโรงพยาบาลและทำให้ตลาดมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการดำรงอยู่ในฐานะบทบาทของผู้นำประเทศญี่ปุ่นจนถึงปี 2021 ที่จะเป็นการสิ้นสุดสมัยการดำรงตำแหน่งนายกฯ และหัวหน้าพรรคของเขา

ทั้งนี้ รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า หากนายอาเบะ ประกาศถึงความตั้งใจที่จะลาออกจากตำแหน่ง ก็จะส่งผลให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ภายในพรรค (LDP) เพื่อหาคนมาดำรงตำแหน่งผู้นำพรรค ตามด้วยการโหวตจากรัฐสภาญี่ปุ่นในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่

นายอาเบะ และคณะรัฐมนตรีอาจยังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐบาลต่อจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งรอบใหม่ แต่ก็อาจไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่ใดๆ ขณะที่นายอาเบะ และรัฐบาลจะยุติบทบาทลงตามวาระในช่วงเดือนก.ย. ปี 2021


· อินเดียรายงานพบยอดติดเชื้อใหม่สูงกว่า 60,000 ราย 7 วันต่อเนื่อง

อินเดียรายงานยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาภายใน 24 ชั่วโมง สูงถึง 60,975 ราย ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมของประเทศพุ่งแตะ 3.17 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตใน 1 วันอยู่ที่ 848 ราย ล่าสุดรวม 58,390 ราย ท่ามกลางการระบาดในเมืองใหญ่และการแพร่กระจายไปยังเมืองเล็กๆของประเทศ



น้ำมันดิบเคลื่อนไหวผสมผสาน จากการลดปริมาณผลผลิตที่เกิดจากพายุและผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวผสมผสานในวันนี้ เนื่องจากเหล่าเทรดเดอร์ปรับลดกำลังการผลิตจำนวนมากในชายฝั่งอ่าวสหรัฐฯจากเหตุพายุโซนร้อน s Marco และ Laura รวมทั้งกรณียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นในเอเชียและยุโรป

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.3% ที่ระดับ 45.27 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 4 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.1% ที่ระดับ 42.58 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com