· หุ้นเอเชียทรงตัว ท่ามกลางการเทขายพันธบัตรรัฐบาลเนื่องจากตลาดให้ความสนใจไปยังประชุมธนาคารกลางประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล
พันธบัตรรัฐบาลถูกเทขายและหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนกำลังรอคอยถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ที่อาจส่งสัญญาณในการจะจัดการกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจระยะยาวจากปัญหาไวรัสโคโรนา และเหล่านักลงทุนคาดว่าเขาสามารถร่างแนวทางที่เอื้อต่ออัตราเงินเฟ้อได้มากขึ้นซึ่งจะเปิดประตูสู่นโยบายที่ง่ายขึ้นในระยะยาว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากพายุลดการปรับลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลง 0.1% โดยลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
· หุ้นจีนปิดตัวลงหลังจาก ChiNext ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบสองวัน
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีใน ChiNext ที่อ่อนตัวลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากปรับตัวสูงขึ้นได้ติตด่อกันในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา
โดยดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 ร่วงลง 1.2% ที่ระดับ 4,706.13 จุด และดัชนี Shanghai Composite ร่วงลง 1.3% ที่ระดับ 3,329.74 จุด
ขณะที่ดัชนี ChiNext ปิดร่วง 2.1% และดัชนี STAR50 ร่วงลง 3.1%
· หุ้นญี่ปุ่นทรงตัวหลังปรับตัวขึ้นได้ในช่วงก่อนหน้านี้
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทรงตัว เนื่องจากเหล่านักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากที่ ดัชนี Nikkei ดีดตัวขึ้นสู่ระดับก่อนการระบาดในช่วงก่อนหน้านี้ ท่ามกลางการปรับอ่อนค่าขอวค่าเงินเยนและความหวังเกี่ยวกับการรักษาไวรัสโคโรนาที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน
โดยดัชนี Nikkei ปิดลดลง 0.03% ที่ระดับ 23,290.86 จุด หลังจากที่ปิดเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 1.35% เมื่อวานนี้ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.05% ที่ระดับ 1,624.48 จุด
ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการกล่าวถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งรายระเอียดเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
· ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัวในวันนี้ หลังจากสูญเสีย momentum เชิงบวกบางส่วนที่เห็นเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยดัชนี Stoxx600 เปิดลดลง 0.24% ก่อนจะปรับตัวสูงขึ้นได้ 0.1%
· อ้างอิงจากสำนักข่าว ฐานเศรษฐกิจ
- รมว.คลัง เชื่อเศรษฐกิจไทยปีหน้าโต 4-5% นายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และสามารถดูแลให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งกระทรวงการคลังมองว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 ไปแล้ว และเชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนได้ในปี 2564 โดยกระทรวงการคลังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 64 กลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ที่ 4-5%
ดังนั้น จึงอยากให้นักลงทุนและประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะดูแลเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวตามทีทคาดไว้ให้ได้
อย่างไรก็ตามจากนี้ไปรัฐบาลจะยังคงให้ความสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยจะมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐให้ออกมาใหเร็วขึ้น เพื่อเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมภาคท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวขึ้น หลังจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างมาก จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หายไป ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีมาตรการเพิ่มเติมออกมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กลับมาในเร็วนี้
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ก.ค. หดตัว -14.69%YoY หั่นคาดการณ์ทั้งปีหดตัวเพิ่มเป็น -8 ถึง -9%
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค.63 อยู่ที่ระดับ 85.47 หดตัว -14.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ MPI ในเดือนก.ค.63 ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ หดตัว -53.3% กลุ่มการกลั่นปิโตรเลียม หดตัว -8.1% และน้ำตาล หดตัว -57.4%
ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือน ก.ค.63 อยู่ที่ 56.01%
ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) MPI หดตัว -13.13%
สศอ. ยังได้ปรับคาดการณ์ MPI ปีนี้เป็น -8 ถึง -9% จากเดิมที่คาดไว้ -6 ถึง -7% รวมทั้ง GDP ภาคอุตสาหกรรม คาดหดตัว -8 ถึง -9% จากเดิมคาด -5.5 ถึง -6.5%