· หุ้นเอเชียแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี จากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ท่ามกลางนโยบายดอกเบี้ยระดับต่ำของเฟดหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2018 ที่ผ่านมา
ด้านนักลงทุนในตลาดเอเชียกลับมาระมัดระวังการลงทุนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรบริษัทของจีน 24 แห่งและบุคคลจำนวนหนึ่ง โดยสหรัฐฯ กล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในการสร้างและใช้ประโยชน์ทางทหารจากหมู่เกาะเทียมในทะเลจีนใต้
แต่ตลาดทั่วโลกยังคงมุ่งเน้นไปที่นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของบรรดาธนาคารกลาง
ทั้งนี้ นายเจอโรม โพเวลล์ ถูกคาดว่าจะกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และการส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
· หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลง ท่ามกลางความกังวลทางการค้าสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ตลาดจับตาไปยังถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นผู้บริโภคและหุ้นโทรคมนาคม เนื่องจากเหล่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน รวมทั้งตลาดรอคอยถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดในคืนนี้ ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง เวลาประมาณ 20.00น. ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.35% ที่ระดับ 23,208.86 จุด ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.53% ที่ระดับ 1,615.89 จุด
· หุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น และบริษัทเทคโนโลยีกลับมาปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีใน ChiNext
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.61% ที่ระดับ 3,350.11 จุด ด้านดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 เพิ่มขึ้น 0.54%
· หุ้นยุโรปเคลื่อนไหวทรงตัว ก่อนหน้าการกล่าวถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวในทรงตัวในวันนี้ หลังจากที่ย่อตัวลงมาเนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการกล่าวถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด
โดยดัชนี Stoxx600 ปรับขึ้น 0.01% ก่อนที่จะเคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการ
ประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เวลา 09.10 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.10 น.ตามเวลาในไทย
· นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติให้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในนามพรรคร่วมรัฐบาลเพียงร่างเดียว เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ขอให้กฤษฎีกาไปปรับปรุงร่างก่อนนำมาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยยึดหลักการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่าง ซึ่งเป็นหลักการในทิศทางเดียวกับฝ่ายค้าน แต่จะเพิ่มรายละเอียดที่มาของ ส.ส.ร. คือ มาจากการเลือกตั้ง 150 คน การสรรหาของ ส.ว.10 คน จากการสรรหาของอธิการบดี 20 คน และตัวแทนนักเรียน-นักศึกษา 10 คน
โดยกำหนดกรอบเวลาให้ ส.ส.ร.ยกร่าง 240 วัน จากนั้นให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่หากสภาฯ ไม่เห็นชอบ ก็ให้ไปสู่ขั้นตอนการทำประชามติ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับรัฐธรรมนูญปี 2540 ส่วนอำนาจหน้าที่ของ ส.ว.ก็ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ร.เป็นผู้พิจารณา
· ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอินเดีย ผ่านการคัดกรองและเข้าพัก State Quarantine ในกรุงเทพมหานคร
โดยผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เป็นชายสัญชาติอินเดีย อายุ 35 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 8 ส.ค.63 (เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 22 ราย) เข้าพัก Alternative State Quarantine และเมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
· PTTEP ลั่นยอดขายปีหน้า 3.8 แสนบาร์เรล/วัน จ่อซื้อแหล่งปิโตรฯ
"ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม" มั่นใจยอดขายปิโตรเลียมปี 64 แตะ 3.8 แสนบาร์เรลต่อวัน จากปีนี้ที่ 3.5 แสนบาร์เรลต่อวัน รับดีมานด์ฟื้น พร้อมเร่งสรุปการลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในเมียนมา กำลังผลิต 600MW ภายใน 1-2 เดือนนี้ จ่อปิดดีลซื้อแหล่งปิโตรเลียมอีก 1 แห่งในปีนี้
ปี 64 ยอดขายโตแตะ 3.8 แสนบาร์เรล/วัน
นาย พงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ปี 64 บริษัทคาดว่าจะมีปริมาณขายปิโตรเลียมที่ระดับ 380,000 บาร์เรลต่อวัน จากในปีนี้คาดมียอดขาย 350,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นผลจากคาดการณ์ของกลุ่ม ปตท.ที่ประเมินว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีปริมาณการเรียกรับก๊าซที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันคาดว่าราคาขายจะเฉลี่ยอยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล