· บริษัท SoftBank ลดจำนวนผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายลงเหลือ 40.4% และสามารถรวบรวมเงิน ได้ 14 พันล้านเหรียญ
ในวันนี้ SoftBank Group Corp (9984.T) กล่าวเมื่อวันนี้ว่า ได้วางแผนที่จะลดจำนวนผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย SoftBank Corp (9434.T) ลงเหลือ 40.4% จาก 62.1% ในขณะนี้ โดยในการขายมูลค่า 1.47 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 13.8 พันล้านเหรียญ ตามราคาปิดวันนี้
โดยราคาเสนอซื้อสำหรับหุ้นอยู่ที่ 1.02 พันล้านหุ้น รวมถึงการจัดสรรส่วนเกิน จะกำหนดให้อยู่ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย.
หุ้นของ SoftBank ปิดตัวที่ -1.6% อยู่ที่ 1,431 เยน ในวันนี้
นายมาซาโยชิ ซัน ประธานบริษัท Softbank ได้ขายสินทรัพย์หลักของกลุ่มเพื่อรักษาเสถียรภาพของงบดุลท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
· ดัชนี Nikkei ร่วงลง หลังมีข่าว"อาเบะ" จะลาออกจากนายกฯญี่ปุ่น
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงมากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือนจากข่าวนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีชินโซอาเบะจะลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ส่งผลให้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพของเขาสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันและนโยบายของการกระตุ้นทางการเงินและการคลังเชิงรุกที่เรียกว่า Abenomics
โดยดัชนี Nikkei ร่วงลง 2.65% ก่อนจะปิดลง 1.41% ที่ระดับ 22,882.65 จุด
· หุ้นจีนเพิ่มขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีกลุ่มบลูชิพทำระดับรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์ โดยปรับเพิ่มขึ้น 2.4% โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนเกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจ ซึ่งแสดงผลกำไรภาคอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นและการเติบโตของหุ้นกระดาน Chinext ที่ปรับตัวสูงขึ้น
โดยดัชนี Shanghai Composite ปิดเพิ่มขึ้น 1.6% ที่ระดับ 3,403.81
· หุ้นยุโรปขยับลดลงตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟด ขณะที่มีรายงานว่านายกฯญี่ปุ่นเตรียมลาออก
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังนโยบายของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด และรายงานว่านายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีกำหนดการลาออก
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.48% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ลงมาอยู่ที่ -10% จากเดิมที่ -6% พร้อมมองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความไม่แน่นอนสูง จากทั้งสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 การแข็งค่าของเงินบาท รวมถึงประเด็นทางการเมือง ความไม่แน่นอนดังกล่าว จะทำให้เห็นการฟื้นตัวในรูปแบบยูเชฟ (U-Shaped) ทั้งนี้ แม้รัฐบาลมีแผนการใช้จ่ายรออยู่อีกมากในระยะข้างหน้า แต่ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายที่จำเป็นในการฟื้นเศรษฐกิจและเพิ่มการจ้างงาน จึงยังไม่กังวลระดับหนี้สาธารณะในขณะนี้
ส่วนด้านนโยบายการเงิน คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงจะยังไม่ลดดอกเบี้ยนโยบาย และเลือกติดตามสถานการณ์ก่อน โดยเฉพาะช่วงหลังจากสิ้นสุดมาตรการพักหนี้ฯ ในช่วงปลายไตรมาส 3
· ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,329.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.39 จุด (+0.18%) มูลค่าการซื้อขายราว 29,498.90 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,337.61 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,326.30 จุด
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ถึงการดูแลอัตราเงินเฟ้อจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ให้สามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนการกำหนดเป้าหมายตายตัว ทำให้เห็นแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะทรงตัวในระดับต่ำได้นานขึ้น
อย่างไรก็ดี บ้านเรายังต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มต่าง ๆ เกิดขึ้นอีก และสัปดาห์หน้าให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.ค.63 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการแถลงออกมา
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังยืนในแดนบวกได้ โดยมีแนวรับ 1,325 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด