· หุ้นเอเชียแตะระดับสูงสุดรอบ 29 เดือน ท่ามกลางดัชนีกลุ่มบลูชิพแตะระดับสูงสุดรอบ 5 ปี
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสดในรอบ 29 ปี เนื่องจากเหล่านักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะยังคงเติมเต็มนโยบายต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้าขณะที่ข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนส.ค. อยู่ที่ระดับ 51.0 ลดลงจากระดับ 51.1 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 51.2
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว ขณะที่ดัชนีต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
ด้านดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 เพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่กลางปี 2015 ขณะที่ค่าเงินหยวนแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ปี 2018 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมรายเดือนเพิ่มขึ้น 5.1%
· หุ้นญี่ปุ่นฟื้นตัว จากความหวังเกี่ยวกับนโยบายนายอาเบะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นฟื้นตัว ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่านโยบายเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการซื้อคืนจากร่วงลงไปเมื่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังนายชินโซะ อาเบะ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 257.11 จุด หรือคิดเป็น 1.12% ที่ระดับ 23,139.76 จุด ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 13.31 จุด หรือคิดเป็น 0.83% ที่ระดับ 1,618.18 จุด
· หุ้นจีนปรับตัวลง ถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นกลุ่มสุขภาพ
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มสุขภาพ หลังจากที่เหล่านักลงทุนเทขายทำกำไร เนื่องจากดัชนีหลักเข้าใกล้แนวต้านที่สำคัญ
ทั้งนี้ ดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 ปรับตัวลดลง 0.6% ที่ระดับ 4,816.22 จุด หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.2% ที่ระดับ 3,395.68 จุด
· หุ้นยุโรปปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และข้อมูลเชิงบวกของจีน
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นน้ำมันและก๊าซได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ข้อมูลภาคบริการในเชิงบวกจากจีนยังส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โดยกิจกรรมในภาคบริการของจีนประจำเดือนส.ค.ขยายตัวเร็วขึ้นมาก แสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ทั่วทั้งเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.4% ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการรักษาไวรัสโคโรนา ขณะที่ในวันนี้ตลาดอังกฤษปิดทำการเนื่องในวันหยุด อาจจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายลดลง
อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
· นายกฯ ถอยสุดซอย ชะลอซื้อเรือดำน้ำ 2.25 หมื่นล้านบาท เร่งกองทัพเรือแจง กมธ.งบ 64- เจรจาจีน
วันที่ 31 สิงหาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็น 7 งวด งวดแรก วงเงิน 3,375 ล้านบาท ภายใต้งบประมาณปี 2564 ว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือกับได้ข้อสรุปว่า ให้กองทัพเรือพิจารณาชะลอการสั่งซื้อเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ ลำที่ 3 ออกไป ทั้งนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนักว่า พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะกำกับกระทรวงกลาโหม และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญงบประมาณปี 64 ที่จะนำงบประมาณจำนวน 3,375 ล้านบาท ไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น เรื่องการดูแลพี่น้องประชาชาชน เศรษฐกิจและแก้ปัญหาปากท้อง
· หุ้นไทยวันนี้ (31 ส.ค.) ปิดตลาดภาคเช้า +3.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,327 จุด
การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 ส.ค.) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,326.88 จุด ปรับขึ้น +3.57 จุด หรือคิดเป็น +0.27% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 20,133 ล้านบาท โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,325.00-1,333.30 จุด โดย BAM SCC และ MINT มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด
ขณะที่ดัชนี SET50 ปรับขึ้น +3.44 จุด หรือ +0.40% อยู่ที่ 858.73 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขายรวม 10,662 ล้านบาท (คิดเป็นราว 52.96% ของ SET)
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนก.ค.63 ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ตามการใช้จ่ายภาครัฐและการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน มูลค่าการส่งออกสินค้า และการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลง
อย่างไรก็ดี ภาวะการลงทุนยังเปราะบาง สะท้อนจากเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวหดตัวสูงต่อเนื่อง จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังคงมีอยู่
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลง ตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ปรับสูงขึ้นเป็นสำคัญ เนื่องจากมาตรการบรรเทาค่าครองชีพของรัฐบาลบางมาตรการสิ้นสุดลง สำหรับตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นบ้าง สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ภาวะการจ้างงานในภาพรวมยังอ่อนแอ ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลจากการส่งออกทองคำเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายใกล้สมดุล