"ก.ย." เดือนแห่งความย่ำแย่ในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้น แต่การอ่อนตัวอาจเกิดขึ้นไม่นานจากนักลงทุนรอเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ
รายงานจาก CNBC ระบุว่า ตลาดหุ้นบ่อยครั้งมักจะเกิดความผันผวนในช่วงเดือนก.ย. และปีนี้ก็จะมีการเลือกตั้งที่ดูจะยิ่งเพิ่มความผันผวนมากขึ้น
อ้างอิงโพลล์จาก RealCearPolitics.com ระบุว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรับฯที่ดูเหมือนนายไบเดน จะมีคะแนนนิยมนำนายทรัมป์ ประมาณ 6.9% แต่ผลการเลือกตั้งที่ยังไม่แน่ชัดก็ยังดูจะสร้างความกังวลได้ไม่มากเท่ากับช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์จาก Ironsides Macroeconomics กล่าวว่า ในวันแรงงานก็ดูเหมือนโพลล์จริงจะเริ่มต้นขึ้น และหากยิ่งใกล้เดือนก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งก็อาจจะยิ่งเป็นปัญหา และสำหรับเขาเชื่อว่า "นายทรัมป์" ดูจะยังได้รับชัยชนะอีกครั้ง ดังนั้น นักลงทุนจึงคาดว่าเราน่าจะเห็นความผันผวนมากขึ้นในเดือนต.ค. และเดือนพ.ย. มากกว่าในเดือนก.ย.
หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการลงทุนจาก Leuthold Group กล่าวว่า หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญคือการโต้วาทีระหว่างกัน ที่อาจทำให้โพลล์คะแนนของทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนแปลงไป และตลาดอาจรู้สึกดีขึ้นไม่ว่านายทรัมป์จะมีโพลล์นำหรือไม่ ท่ามกลางพรรครีพับลิกันที่มีแนวโน้มจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้ และนักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะไม่พอใจหากพรรคหนึ่งพรรคใดสามารถกุมอำนาจทั้งหมดหรือความเสรีทั้งหมดในช่วงเวลา 2 ปี หรือความต้องการเพื่อให้บรรลุผลในบางสิ่งบางอย่าง
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก CFRA ระบุว่า โดยปกติเดือนก.ย. จะเป็นเดือนที่ตลาดอ่อนตัวมากสุด และตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเห็นได้ว่าดัชนี S&P500 มีการปรับตัวลดลงประมาณ 0.5% ขณะที่เดือนส.ค. มักเป็นเดือนที่ดัชนีเคลื่อนไหวทรงตัว แต่ปีนี้ในเดือนส.ค. กลับเห็นดัชนีดีดตัวขึ้นมาได้กว่า 7% ถือว่า S&P500 ปรับขึ้นดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1984 ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ คาดว่า ตลาดอาจปรับขึ้นต่อแต่ก็ต้องระวังภาวะ Overbought และการปรับตัวลงอย่างรวดเร็วได้ก่อนที่ราคาจะปรับตัวขึ้น
ที่มา: CNBC