· ดอลลาร์อ่อนค่าท่ามกลางภาวะขาลงจากแนวโน้มดอกเบี้ย
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากที่ไปทำต่ำสุดในรอบหลายปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เพิ่มคาดการณ์เกี่ยวกับการดำเนินกรอบนโยบายการเงินของเฟดที่น่าจะยังคงดอกเบี้ยระดับต่ำมากกว่าของประเทศอื่นๆ
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงทำต่ำสุดรอบ 2 ปีที่ 91.775 จุด
ออสเตรเลียดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับแข็งค่ามากสุดรอบ 2 ปี หลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลียคงดอกเบี้ยในระดับต่ำ 0.25% และมีการขยายกองทุนเพื่อภาคธนาคารต่างๆ โดยคาดจะขยายเวลากองทุนออกไปถึงช่วงกลงาปี 2021
เงินหยวนแข็งค่าขึ้น ตลาดเมินความกังวลเกี่ยวกับตึงเครียดทางการทูตจากกรณีไต้หวัน โดยเงินหยวนแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อเท่ียบดอลลาร์ที่ระดับ 6.8181 หยวน/ดอลลาร์
ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ข้อมูลภาคการผลิต, ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และการจ้างงาน แต่ผลเชิงบวกทั้งหมดไม่มีแนวโน้มจะช่วยลดภาวะอ่อนค่าของดอลลาร์ได้ เนื่องจากตลาดยังมีคาดการณ์ที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ยของเฟดในระดับต่ำอยู่
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมาที่ 1.1997 ดอลลาร์/ยูโร ถือเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่ พ.ค. ปี 2018
ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 1.3413 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากสุดนับตั้งแต่ธ.ค. ปีที่แล้ว ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น กล่าวว่าข้อตกลงการค้า อังกฤษ-ญี่ปุ่นใกล้บรรลุข้อตกลงแล้ว
ค่าเงินเยนแข็งค่ามาที่ 105.75 เยน/ดอลลาร์ โดยเงินเยนเคลื่อนไหวตามกลุ่มนักลงทุนที่ให้ความสนใจว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่
ทั้งนี้ นายโยชิฮิเดะ ซูกะ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าโฆษกคณะรัฐมนตรี ดูจะได้รับการสนับสนุนและเสนอชื่อในการดำรงตำแหน่งนายกฯญี่ปุ่นคนต่อไป และดูเหมือนเขาจะเป็นหนึ่งในคนที่ใกล้ชิดกับนายอาเบะ และนั่นทำให้มีแนวโน้มที่จะมีการสานต่อนโยบายของนายอาเบะ ในฐานะนายกฯญี่ปุ่นคนต่อไปได้
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น ก่อนหน้าการประกาศข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภค
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นมาที่บริเวณ 0.7081% ขณะที่อัตราผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับลงมาที่ 1.4832%
· สหรัฐฯเพิ่มการสนับสนุนไต้หวัน เพิ่มแรงกดดันจีน
สหรัฐฯประกาศเริ่มต้นเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไต้หวัน โดยมีวัตถุประสงค์ในการผูกสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับไต้หวันมากขึ้น พร้อมกับให้การสนับสนุนไต้หวันที่มีการเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ สหรัฐฯยังมีการระบุถึง "หลักประกัน 6 ประกัน" ที่นายโรนัลด์ เรแกน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯเคยใช้โทรเลขลับในการรับรองต่อไต้หวัน และการเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการประกาศจุดยืนในการสนับสนุนไต้หวันและยิ่งท้าทายอำนาจของจีนมากขึ้น ประกอบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. นี้ ด้วยการประกาศจุดยืนที่แข็งกร้าวกับจีนในการปฏิรูปนโยบายการต่างประเทศ
· อัตราการว่างงานยูโรโซนประจำเดื
หลังจากที่อัตราการว่างงานฉบั
ยูโรกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิ
· · · ภาคผลิตเอเชียฟื้นตัว หลังวิกฤตโคโรนา ท่ามกลางการผลิตจีนที่ออกมาสดใส
ภาคการผลิตเอเชียประจำเดือนส.ค. เริ่มฟื้นตัว หลังจากที่เผชิญวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสัญญาณที่สดใสมากขึ้นในจีนทำให้ความหวังในการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั่วโลกกลับมาดีขึ้น จึงช่วยลดแรงกดดันให้ผู้กำหนดนโยบายดำเนินการที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรง
ขณะที่ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนส.ค.ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ เนื่องจากโรงงานต่างๆเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่ดีดตัวขึ้น ท่ามกลางยอดคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกใหม่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้
· ผลสำรวจภาคเอกชนจีน ระบุการผลิตจีนในเดือนส.ค. ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ
ผลสำรวจภาคเอกชนจีนแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคการผลิตในเดือนส.ค.นั้นขยายตัวได้รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบสิบปี นับตั้งแต่ม.ค. ปี 2011 โดย Caixin/Markit เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ออกมาที่ 53.1 จุดในเดือนส.ค. จาก 52.8 จุดในเดือนก.ค.
และการที่ดัชนียังยืนได้เหนือ 50 จุดถือเป็นสัญญาณแห่งการขยายตัว แต่หากต่ำกว่าจะเป็นการหดตัว
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส กล่าวว่า อุปสงค์การผลิตและอุปทานต่างก็มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุปสงค์ในต่างประเทศที่เริ่มจะมีการปรับตัวสูงขึ้นได้บ้างแล้ว
· นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่นอาจหาวิธีขยายตลาดแรงงานด้วยนโยบาย “Abenomics”
ผู้ที่จะมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต่อจากนายชินโซ อาเบะ จะต้องเผชิญกับตลาดแรงงานที่ได้รับความเสียหายจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกระดับสูงของรัฐบาล ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น จึงยิ่งตอกย้ำถึงโอกาสในการที่รัฐบาลจะสามารถดำเนินตามนโยบายที่นายอาเบะวางไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลยุทธ์ “Abenomics” ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ การระบาดของไวรัสโคโรนาได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และสร้างความเสียหายต่อตลาดแรงงาน โดยอัตราการว่างงานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนก.ค. และมีการจ้างงานที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 6 ปี รวมทั้งมีประชาชนตกงานกว่า 2 ล้านคนในเดือนก.ค. หรือปรับขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 410,000 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนคนตกงานที่เพิ่มมากขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนก.ค.
· สถานการณ์การเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในอินเดียเริ่มบรรเทาลง ท่ามกลางการสอบแอดมินชันของนักศึกษานับล้านคน และผับกลับมาเปิดให้บริการ
· ผลสำรวจโลก เผยแผน เกือบ 3 ใน 4 ของผู้สูงอายุจะได้รับวัคซีนไวรัสโคโรนา
CNBC เผยผลสำรวจ World Economic Forum และ Ipsos ที่สะท้อนว่ากว่า 74% ของผู้สูงอายุทั่วโลก หรือคิดเป็นผู้สูงอายุเกือบ 20,000 รายจาก 27 ประเทศทั่วโลก คาดจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนต้าน Covid-19 เมื่อวัคซีนนั้นพร้อมใช้งาน แต่การดำเนินการนี้ก็อาจไม่เพียงพอต่อการยับยั้งการระบาดอย่างรวดเร็วขอไวรัสได้
· น้ำมันดิบพุ่งขึ้น 1% จากการอ่อนค่าของดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลดลงไปในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากเหล่านักลงทุนกลับเข้ามาสินทรัพย์เสี่ยง และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายๆปี
โดยราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือคิดเป็น 1% ที่ระดับ 45.75 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 43 เซนต์ หรือคิดเป็น 1% เช่นเดียวกัน ที่ระดับ 43.04 เหรียญ/บาร์เรล
ทั้งนี้ น้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิด ปรับตัวลดลงประมาณ 1% เมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด โดยอุปสงค์ทั่วโลกติดอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา