· วิเคราะห์ E-mini Nasdaq-100
นักวิเคราะห์จาก FXEmpire วิเคราะห์ว่า ดัชนี E-mini Nasdasq-100 Index Futures มีการปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยภาพรวมดัชนีปรับตัวขึ้นได้แล้วกว่า 20% ยืนเหนือระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในช่วงก่อนเกิดวิกฤต โดยเมื่อวานนี้ E-mini Nasdasq-100 ส่งมอบเดือนก.ย. ปิด +122.25 จุด หรือ +1.01% ที่ 12,114 จุด
วิเคราะห์ภาพรายวัน
ดัชนีรายวันแกว่งตัวในกรอบที่ดูจะส่งสัญญษณกลับมาเป็นขาขึ้นต่อในวันนี้ โดยภาพรวมตลาดยังคงมีความผันผวนและน่าจะยังไม่เปลี่ยนเป็นเทรนขาลงในเร็วๆนี้ แต่ภาพทางเทคนิคก็จะเห็นได้ถึงสัญญาณขายเข้ามามากกว่าระดับที่ควรเข้าซื้อในปัจจุบัน และหลังจากที่ปิดสูงวานนี้ก็คาดดัชนีจะมีกรอบระหว่าง 11,221.05 - 12,165 จดที่จะเป็นแนวต้านด้านบน ขณะที่แนวรับด้านล่างอยู่ที่ 11,693.52 จุด และแนวรับต่อมา 11,582 จุด
ดังนั้น หากดัชนีหลุดแนวรับ ก็มีโอกาสกลับลงทดสอบเป้าหมายขาลงอีกครั้งบริเวณ 11,505.25 จุด
· หุ้นเอเชียปรับสูงขึ้น หลังภาคผลิตจีนออกมาแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น หลังจากข้อมูลภาคการผลิตของจีนที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง จึงช่วยชดเชยการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อการผลิตของ Caixin / Markit (PMI) แสดงให้เห็นว่า ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนส.ค.ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อส่งออกใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้
หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านการลงทุนประจำ BlackRock’s Investment Institute ระบุว่า ข้อมูลภาคการผลิตที่ออกมาดีขึ้น แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ท่ามกลางทั่วโลกที่เริ่มจะคลายมาตรการ Lockdown จากการแพร่ระบาดของไวรัส
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.3%
· หุ้นญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ท่ามกลางหุ้นบริษัทที่ถูกบริษัท Berkshire Hathaway ของนายวอเร็น บัฟเฟตต์ปรับตัวสูงขึ้นต่อ
ตลาดหุ้นญี่ปุุ่นส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเข้าซื้อหุ้น 5% โดย Berkshire Hathaway ของนายวอเร็น บัฟเฟตต์
จึงช่วยชดเชยการเทขายทำกำไรของเหล่านักลงทุนหลังจากที่ดัชนีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา
โดย Mitsubishi Corp เพิ่มขึ้น 3.12% Mitsui & Co เพิ่มขึ้น 1.99% และ Sumitomo Corp เพิ่ม 1.86% Marubeni และ Itochu Corp เพิ่มขึ้น 1.22% และ 1.41% ตามลำดับ
ด้านดัชนี Nikkei ลดลง 0.01% ที่ระดับ 23,138.07 จุด ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.15% ที่ระดับ 1,615.81 จุด
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตจีนขยายตัวเร็วที่สุดในรอบเกือบทศวรรษในเดือนสิงหาคม โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อส่งออกใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้
· หุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางภาคการผลิตจีนที่ออกมาแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้นนำโดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์พลังงานและเหมืองแร่ เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่ออกมาอย่างแข็งแกร่งสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัสโคโรนาทำให้ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิดเพิ่มขึ้น 0.44% ที่ระดับ 3,410.61 จุด ด้านดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 เพิ่มขึ้น 0.54%
· หุ้นยุโรปเริ่มต้นเดือนในแดนบวก
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ข้อมูลภาคการผลิตของจีนออกมาแข็งแกร่ง อยู่ที่ระดับ 53.1 ในเดือนส.ค. พุ่งขึ้นจากระดับ 52.8 ในเดือนก.ค. ทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนจะอยู่ที่ 52.7 ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.6% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· ธปท.จ่อปรับลดประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปีนี้ลง 1.3 ล้านคน เหลือ 6.7 ล้านคน จากเดิม 8 ล้านคนฉุดจีดีพีดิ่งลงอีก 0.5% แต่เศรษฐกิจโดยรวมเดือน มิ.ย.-ก.ค.63ดีเกินคาดจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและคนเริ่มท่องเที่ยว-ใช้จ่ายมากขึ้น จับตาการลงทุนภาคเอกชน ยังหดตัวต่อเนื่อง
· ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงินเริ่มโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งภาคธุรกิจและลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ลูกหนี้รายย่อย วิธีคือสามารถนำสินเชื่อรายย่อยของผู้ให้บริการทางการเงินเดียวกัน เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ มาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยวิธีการรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ประโยชน์จากหลักประกัน ทำให้ดอกเบี้ยลดลงเหลือไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเงินกูลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) และทำการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ตามความสามารถของลูกหนี้ รวมทั้งทางเลือกในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้รูปแบบอื่น ๆ ที่ลูกหนี้สามารถจะดำเนินการทำให้ได้เพื่อประโยชน์ทุกฝ่าย
· สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยรายงานการส่งออก ข้าวในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-กรกฎาคม) มีปริมาณ3,295,046 ตัน มูลค่า 69,470 ล้านบาท (2,222.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยปริมาณส่งออกลดลง 32.9% และมูลค่าลดลง 15.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีการส่งออกปริมาณ 4,907,467 ตัน มูลค่า 81,847 ล้านบาท (2,596.9 ล้านเหรียญสหรัฐ)
· สศช.เปิดเวทีระดมความเห็น ปฏิรูปประเทศ 13 ด้าน 2-3 ก.ย.นี้ เตรียมแผน ปี 64-65 ด้าเศรษฐกิจ เร่ง "โลคัลอีโคโนมี" ควบคู่จุดแข็งเมดิคอลฮับ ด้าน "พลังงาน" หนุนเสรีก๊าซ เสรีซื้อขายไฟ"มนูญ" ชี้สำรองไฟสูง แนะปรับพีดีพี
· นายกฯ เตือนม็อบนัดชุมนุมใหญ่ 19 กันยายนนี้ ต้องถามคนไทย 67 ล้านคนว่า "เห็นด้วย" หรือไม่? เชื่อไม่มีเหตุรุนแรงมั่นใจเจ้าหน้าที่รับมือได้
อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติชาติธุรกิจ
· ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ วันนี้(1 ก.ย.) เพิ่ม 5 ราย มาจาก “ฟิลิปปินส์” เป็นครูสอนภาษา 3 ราย
วันที่ 1 กันยายน 2563 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ของรัฐบาล รายงานเมื่อเวลา 11.00 น. ว่า สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 วันนี้ มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 5 ราย สัญชาติ ฟิลิปปินส์ 3 ราย เป็นครูสอนภาษา สัญชาติฝรั่งเศส 2 ราย เป็นนักเรียน ทั้งหมดเดินทางมาจากประเทศฟิลิปปินส์ เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (Alternative State Quarantine)
สรุปสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 วันอังคารที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 11.00 น.
-ผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย
-ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,417 ราย
-หายป่วยแล้ว 3,274 ราย
-เสียชีวิตสะสม 58 ราย