ดอลลาร์แข็งค่าทำสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่เงินปอนด์-หุ้นสหรัฐฯร่วง
ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นในฐานะ Safe-Haven ทำสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ แต่ก็ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่กำลังกังวลเกี่ยวกับ Brexit ขณะที่ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัวจากแรงขายในหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการแข็งค่าของดอลลาร์ไม่มีแนวโน้มจะเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
ค่าเงินปอนด์ปรับอ่อนค่าลงทำต่ำสุดรอบ 4 สัปดาห์ โดยล่าสุดปิด -1.2% ที่ระดับ 1.2987 ดอลลาร์/ปอนด์ ขณะที่อังกฤษเข้าสู่การเจรจา Brexit รอบใหม่กับทางอียูที่พร้อมกล่าวเตือนถึงความเป็นไปได้มากขึ้นในการเตรียมการแบบ No-Deal
ขณะที่ Financial Times มีรายงานว่าหัวหน้าทีมกฎหมายของอังกฤษประกาศลาออกบ่งชี้ถึงการที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษต้องการที่จะแก้ไขข้อตกลงบางส่วนที่มีอยู่
ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.4% ที่ 93.445 จุด หลังทำแข็งค่ามากที่สุดรอบ 4 สัปดาห์บริเวณ 93.483 จุด
ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าลง 0.3% ที่ 106.04 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงทำต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ ปิด -0.3% ที่ 1.1779 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนการประชุมอีซีบีในวันพรุ่งนี้
นักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่คาดว่าจะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ แต่อาจจะมีการส่งสัญญาณถึงเรื่องเงินเฟ้อ และตลาดต้องการทราบว่าอีซีบีมีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของค่าเงินยูโรหลังจากที่เมื่อไม่นานนี้ไปแตะ 1.2 ดอลลาร์/ยูโรหรือไม่
ข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนสะท้อนว่าทิศทางเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2/2020 เติบโตได้ช้ากว่าที่คาด แต่เป็นการปรับลงท่ามกลางค่าใช้จ่ายผู้บริโภคที่ดิ่งลงในช่วงการใช้มาตรการคุมเข้มช่วง Covid-19 และส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อค่าเงินยูโร