· ดอลลาร์ทรงตัว ขณะที่เยนแข็ง - แรงขายหุ้นเทคโนโลยีกดดันตลาดค่าเงิน
ดอลลาร์ทรงตัวใกล้แนวรับ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ปรับลงและส่งผลให้นักลงทุนมีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาด้วยเช่นกัน ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับ Brexit ดูจะกดดันให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดใหม่รอบ 6 สัปดาห์
กดอลลาร์หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาเกือบ 2% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ก็จะเห็นได้ถึงการที่เงินเยนเองก็มีการแข็งค่ามากสุดรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 105.83 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินปอนด์ยังคงไม่สามารถก้าวผ่านแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากเรื่องที่อังกฤษเตรียมพร้อมจะออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงการค้า จึงทำให้ปอนด์อ่อนค่าอีก 0.2% มาที่ 1.2950 ดอลลาร์/ปอนด์ ถือเป็นต่ำสุดตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนก.ค.
ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1772 ดอลลาร์/ยูโร
สำหรับค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียก็ได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับธนาคารกลางอินโดนีเซีย หลังจากที่รัฐสภาเริ่มพิจารณาทบทวนข้อเสนอของสภาการเงินที่อาจอนุญาตให้รัฐมนตรีเข้าร่วมการโหวตนโบายในการประชุมการกำหนดนโยบายการเงินได้ ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวถึงการแทรกแซงดังกล่าวอาจช่วยลดความผันผวนของตลาดได้ แต่ค่าเงินรูเปียกลับตอบรับโดยอ่อนค่าไป 0.6%
· AstraZeneca ผู้นำด้านการทดลองวัคซีนหยุดทดลอง กังวลด้านความปลอดภัย
บริษัทแอสตร้าเซนเนกา กล่าวถึงการหยุดทดลองวัคซีนไวรัสโคโรนาที่มีการพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัย Oxford เนื่องด้วยไม่สามารถทราบอาการที่แน่ชัดได้ ว่าวัคซีนเป็นต้นเหตุให้เกิดอาการดังกล่าวหรือไม่ จึงทำให้ลดมุมมองความหวังที่จะเห็นความเป็นไปได้ในของวัคซีนดังกล่าวในช่วงสิ้นปีนี้
· ทรัมป์จะทำการถอนกองกำลังในอิรักวันพุธนี้
เจ้าหน้าที่ทีมบริหารระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะทำการประกาศการถอนกองกำลังในอิรักในวันนี้ หลังจากที่เพิ่งมีการประกาศถอนถองกำลังสหรัฐฯในอัฟกานิสถานเมื่อไม่นานมานี้
· สหรัฐฯ-ไต้หวันสานสัมพันธ์ เพิ่มแรงกดดันจีน โดยการพัฒนาสัมพันธ์ของสองประเทศเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่จีนเพิ่มกำลังทหารบริเวณรอบเกาะที่เป็นข้อพิพาทกันเวลานี้
· ข้อมูลภาคโรงงานจีนปรับตัวลงอย่างช้าๆในเดือนส.ค. จากสัญญาณการฟื้นตัว
ข้อมูลภาคโรงงานของจีนปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนส.ค. แต่เป็นการชะลอตัวลงรายปีที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. จึงบ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมจีนเริ่มมีสัญญาการฟื้นตัวหลังได้รับผลกระทบขาลงจากไวรัสโคโรนา
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PPI) อ่อนตัวลง 2.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนในเดือนส.ค. ขณะที่เดือนก.ค. อยู่ที่ 2.4%
ด้านดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับขึ้น 2.4% ในเดือนที่แล้วเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการออกมาตามคาด แต่เป็นการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับระดับ 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี
· "ซูงะ" ฉายแววรับช่วงต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
สำนักข่าว Asahi เผย นายโยชิฮิเดะ ซูงะ ฉายแววรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนต่อไป ท่ามกลางการเริ่มต้นปราศรัยที่จะเริ่มขึ้นในคืนวันนี้ร่วมกับ 3 แคนดิเดต เพื่อสานต่อความสำเร็จในฐานะผู้นำของนายชินโซ อาเบะ
นายซูงะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รับเสียงสนับสนุนในฐานะหัวหน้าพรรคประมาณ 308 เสียง หรือเกือบ 80% ในการเป็นหัวหน้าพรรค LDP
นอกจากนี้ ซูงะยังเผยถึงความจำเป็นในการสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากการใช้แผนปฏิรูปทางการเงิน ซึ่งเขามองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นถือเป็นพื้นฐานสำคัญ ทั้งสวัสดิการทางสังคม, ความมั่นคง และการปฏิรูปทางการเงิน พร้อมกันนี้เขายังมุ่งเน้นไปยังการเสริมสภาพเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ภายใต้การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ "Abenomics"
· น้ำมันดิบปรับตัวลงต่อ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ต่อ หลังร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายๆประเทศ กดดันความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างมั่นคงของอุปสงค์ทั่วโลก
โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 19 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.5% ที่ระดับ 39.59 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลง 24 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.7% ที่ระดับ 36.52 เหรียญ/บาร์เรล