อีซีบีกล่าวถึงการหารือร่วมกันในเรื่องการแข็งค่าในการประชุมการดำเนินนโยบายการเงินเมื่อคืนนี้ และกล่าวว่าจะมีการจับตาด้วยท่าทีระมัดระวังต่อการเคลื่อนไหวของตลาดแลกเปลี่ยนต่อไป ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้ยูโรแข็งค่าต่อทำสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1.1902 ดอลลาร์/ยูโร หลังทราบการตัดสินใจดังกล่าว
ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นมาแล้วกว่า 5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค. และนักวิเคราะห์ต่างก็เกิดคำถามตามมาว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อการดำเนินนโยบายผ่อนคลายของอีซีบีหรือไม่อย่างไร เพราะการแข็งค่าของค่าเงินจะส่งผลให้มีราคาการนำเข้าถูก และกระทบต่อภาคการส่งออก รวมทั้งเงื่อนไขที่เข้มงวดของตลาดการเงิน ซึ่งเป็นองค์รวทางเศรษฐกิจ
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีมีการหารือกันถึงเรื่องการแข็งค่าของค่าเงินยูโร แต่เรายังไม่ได้มีการพุ่งเป้าหมายไปยังเรื่องตลาดแลกเปลี่ยนค่าเงินใดๆ ซึ่งอีซีบีต้องการรับรองความมีเสถียรภาพด้านราคา แต่ก็ยอมรับว่าการแกว่งตัวอย่างมากของตลาดแลกเปลี่ยนอาจส่งผลกระทบทางด้านเงินเฟ้อ และกล่าวโดยสรุปได้ว่าอีซีบีจะเฝ้าจับตาการเคลื่อนไหวของค่าเงินด้วยความระมัดระวัง
ยูโรแข็งค่าต่อเนื่อง
ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากการที่นางลาการ์ด ประกาศถึงเศรษฐกิจมีการรีบาวน์ทางเศรษฐกิจในแถบยูโร โดยข้อมูลที่ประกาศตั้งแต่การประชุมเมือเดือนก.ค. บ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการรีบาวน์ตามคาด โดยอุปสงค์ในยูโรโซนฟื้นตัวจากระดับต่ำสุด
อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจยังคงกดดันเรื่องค่าใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ อีซีบียังมีการปรับคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2020 โดยจีดีพีปีนี้คาดโตได้ -8% จากคาดการณ์เดือนมิ.ย. ทึ่คาดว่าจะอยู่ที่ -8.7% ส่วนปี 2021 อีซีบีคาดจีดีพีจะโตได้ -5% และ 3.2% ในปี 2022
สำหรับเมื่อคืนนี้ อีซีบียังมีการตัดสินใจที่จะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00%, 0.25% และ -0.50% พร้อมกับคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา ด้วยมาตรการ PEPP ที่ระดับ 1.35 ล้านล้านยูโร (1.6 ล้านล้านเหรียญ)
และถึงแม้ข้อมูลเงินเฟ้อจะอยู่ระดับต่ำในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นต่ำสุดตั้งแต่ปี 2001 ที่ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าอีซีบีจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรเพิ่มเติมหรือไม่ แต่อีซีบีก็ยังเลือกที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายหลักๆก่อน พร้อมกับการที่ประธานอีซีบีมีการยอมรับว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบันมีแนวโน้มจะถูกใช้อย่างเต็มรูปแบบ