• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 14 กันยายน2563

    14 กันยายน 2563 | Economic News
 

· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวลดลง ท่ามกลางนักลงทุนให้ความสนใจเกี่ยวกับข่าววัคซีนไวรัสโคโรนา

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวลดลง 0.18% มาที่บริเวณ 0.6658% ขณะที่อัตราผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับลงมาที่ 1.4142%

สำหรับวันนี้ ไม่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญใดๆ


· Standard Chatered ชี้ เฟดยังไม่มีสัญญาณจะเผยถึงแผนการเข้าซื้อพันธบัตร


· ปอนด์ดิ่ง กังวล Brexit ขณะที่เยนทรงตัวจับตาผลโหวตผู้นำญี่ปุ่นคนต่อไป

ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงทำต่ำสุดรอบ 1 เดือนครึ่งเมื่อเทียบดอลลาร์ จากความกังวลเรื่อง No-Deal Brexit ขณะที่นักลงทุนจับตาไปยังการโหวตผู้นำพรรค LDP ของญี่ปุ่น จึงเห็นเยนทรงตัวแนว 106.13 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินปอนด์ในตลาดเอเชียปรับแข็งค่ามาเล็กน้อยที่ 1.2819 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังทำต่ำสุดนับตั้งแต่ 24 ก.ค. ที่ระดับ 1.2767 ดอลลาร์/ปอนด์ในคืนวันศุกร์ และปรับตัวลดลงไปกว่า 4% ในเดือนนี้ ถือเป็นค่าเงินที่ย่ำแย่ที่สุดในบรรดา G10

เมื่อเทียบกับยูโร ค่าเงินปอนด์ทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 5 เดือนครึ่งที่ระดับ 92.9 เพนซ์/ยูโร ก่อนจะทรงตัวล่าสุดที่ 92.39 เพนซ์/ยูโร

ทั้งนี้ ค่าเงินปอนด์ถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าอังกฤษจะสิ้นสุดช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านหลัง Brexit แบบ No-Deal ขณะที่การกระทำของอังกฤษอาจขัดต่อสนธิสัญญาการถอนตัวที่ทำร่วมกันไว้กับอียู

ค่าเงินยูโรทรงตัวในทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง 3 วันทำการ ล่าสุดอยู่แถว 1.18455 ดอลลาร์/ยูโร

นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าค่าเงินยูโรมีโอกาสเผชิญกับระดับ 1.20 ดอลลาร์/ยูโรได้อีกครั้ง จากกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับความกังวลของสมาชิกอีซีบีที่ไม่ต้องการเห็นยูโรแข็งค่ามากไปกว่านี้

เศรษฐกิจบางส่วนของยูโรโซน อาทิ ฝรั่งเศส และสเปน พบรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับสหรัฐฯที่กำลังปรับลง และช่วยหนุนสัญญาณการฟื้นตัวของแนวโน้มเศรษฐกิจ

ดัชนีดอลลาร์ปรับเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยล่าสุดมาที่ 93.317 จุด โดยนักลงทุนให้ความสำคัญกับการประชุมเฟดในคืนวันพุธนี้

ทั้งนี้ คาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายทางการเงินก็ดูจะมีส่วนกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าได้ ซึ่งดัชนีดอลลาร์ในปีนี้ปรับอ่อนค่าลงมาแล้วกว่า 4% ในไตรมาสปัจจุบันนี้

แต่นักวิเคราะห์บางส่วนก็เชื่อว่าตลาดมีการรับรู้ข่าวไปแล้วเกี่ยวกับคาดการณ์ของเฟดในการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป


· แผน Brexit ของนายจอห์นสัน จะเผชิญกับการโหวตค้านในรัฐสภาอังกฤษ!

แผนของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เกี่ยวกับการหนุนให้อังกฤษมีอำนาจบางประการที่ขัดแย้งต่อข้อตกลงการถอนตัวจากอียูที่เคยได้ลงนามไว้ ซึ่งจะมีการลงคะแนนโหวตในรัฐสภาอังกฤษวันนี้ ท่ามกลางเสียงค้านภายในพรรคของเขาเอง

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษจะมีการดีเบตกันในวันนี้เกี่ยวกับ Internal Market Bill ที่ทางอียูเรียกร้องให้นายจอห์นสันยกเลิกร่างกฎหมายนี้ภายในช่วงสิ้นเดือนก.ย. ซึ่งหลังจากการดีเบตกันก็จะทำให้บรรดาสมาชิกสภาอังกฤษตัดสินใจถึงแนวทางที่ควรจะเป็นไป และก็จะเกิดการโหวตลงคะแนนตามมา

การตัดสินใจของนายจอห์นสัน ดูจะฉุดให้ภาวะ Brexit เข้าสู่วิกฤตอีกครั้งก่อนที่อังกฤษจะออกจากอียูอย่างเป็นทางการ และเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านของ Post-Brexit ภายในช่วงสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดี อียูดูจะมีการเตรียมการแบบ No-Deal Brexit ขณะที่อังกฤษปฏิเสธคำขาดของอียูในการยกเลิกร่างกฎหมายดังกล่าวภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้


· รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า เศรษฐกิจเติบโตได้ตามเกณฑ์

นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสกลับมาขยายตัวได้ จึงตอกย้ำถึงภาวการณ์เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาจเป็นไปได้ดีกว่าระดับคาดการณ์ปัจจุบันที่ -11% ในปีนี้


· เศรษฐกิจเยอรมนีอ่อนแอแต่คาดจะเติบโตได้ต่อใน Q2/20

รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีจากวิกฤตไวรัสโคโรนาเป็นไปอย่างอ่อนแอ แต่ก็มีแนวโน้มจะขยายตัวได้ต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้ จึงอาจทำให้เศรษฐกิจไม่อาจโตได้เหมือนช่วง Pre-Crisis ได้จนกว่าจะเข้าสู่ช่วงปี 2022 ท่ามกลางภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ และการชะลอตัวทางการค้าต่างประเทศ


· แหล่งข่าวระบุหลัง ByteDance ดูจะได้พันธมิตรใหม่เป็น Oracle

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน เผยว่า บริษัท ByteDance ตอบรับข้อเสนอกับบริษัท Oracle ที่เป็นบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ และหวังว่าจะช่วยลดการถูกแบนจากสหรัฐฯ ขณะเดียวกันกับที่รัฐบาลจีนมีการออกเกณฑ์ใหม่

ทั้งนี้ บริษัท Oracle สามารถเอาชนะ Microsoft ได้ในการเสนอข้อตกลงกับ TikTok ที่เข้าใก้ลกำหนดเส้นตายตามที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการลงนำคสั่งในการปรับโครงสร้างบริษัทฯ หรือการขายกิจการของสหรัฐฯให้บริษัทอื่นๆ โดยอ้งถึงภัยคุกคามและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

อย่างไรก็ดี TikTok ถือเป็นแอพลิเคชันที่ได้รับความนิยมโดยมากในหมู่วัยรุ่น ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯค่อนข้างวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลผู้ใช้งานที่จะส่งผ่านไปยังพรรครัฐบาลของจีน จากจำนวนผู้ใช้งาน TikTok ในเวลานี้ที่สูงกว่า 100 ล้านรายนั่นเอง


· ราคาบ้านใหม่จีนโตขึ้น หนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ราคาบ้านใหม่ในจีนปรับขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนส.ค. โดยค่าเฉลี่ยจาก 70 เมืองในจีนพบราคาบ้านปรับขึ้น 0.6% จากเดิม 0.5% ในเดือนก.ค. เพราะได้รับอานิสงส์จากความต้องการของผู้บริโภคที่สะท้อนสัญญาณการปรับขึ้นเพื่อหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไวรัสโคโรนา


· ฮ่องกงยันไม่แทรกแซงจีน กรณีจับกุมชาวฮ่องกงหลบหนีเข้าไต้หวัน

รัฐบาลฮ่องกง ยืนยันที่จะไม่แทรกแซงการจับกุมตัวชาวฮ่องกงทั้ง 12 คนที่หลบหนีไปยังไต้หวัน โดยให้เหตุผลว่าการกระทำความผิดดังกล่าวอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของศาลจีน

โดยรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า "การกระทำผิดกฎหมายดังกล่าวอยู่ภายขอบเขตอำนาจศาลจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงให้ความเคารพและจะไม่แทรกแซงการดำเนินการทางกฎหมายของจีน"


· "ซูงะ" คว้าชัยผู้นำพรรค LDP ก้าวต่อไปสู่ตำแหน่งนายกฯญี่ปุ่

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ หัวหน้าคณะโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นวัย 71 ปี ได้รับคะแนนโหวต 377 เสียง จาก 534 เสียงที่ลงคะแนนโฆวต ให้ก้าวเป็นตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ต่อจากนายชินโซ อาเบะ และยังเป็นการปูทางให้เขาก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปด้วย

อย่างไรก็ดี ค่อนข้างแน่ชัดว่าเขาจะก้าวเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นภายใต้การโหวตของสภาญี่ปุ่นในวันพุธนี้ เนื่องจากพรรค LDP มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และนั่นจึงจะทำให้เขารับหน้าที่ผู้นำญี่ปุ่นตลอดจนครบวาระที่นายอาเบะต้องดำรงอยู่ถึงเดือนก.ย. ปี 2021


· ซูงะ เผยต้องการสานต่อนโยบายของนายอาเบะ หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค LDP

รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายซูงะ คือตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่งนายกฯญี่ปุ่นคนถัดไป โดยวันนี้เขาแสดงถึงความต้องการที่จะสานต่อนโญบายของนายชินโซ อาเบะ และผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างและลดกำแพงระหว่างการปกครองลง


· Forexlive วิเคราะห์ "ซูงะ" กับการเป็นนายกฯญี่ปุ่นคนต่อไป

การที่นายซูงะถูกคาดหวังว่าจะคงนโยบาย "Abenomics" ไว้ จะส่งผลให้ค่าเงินเยนนั้นปรับอ่อนค่าลง แต่ต้องจับตาว่าเขาจะมีการเรียกร้องการเลือกตั้งก่อนกำหนด (Snap Election) ที่จะส่งผลให้ค่าเงินเยนนั้นแข็งค่าขึ้น และมีความเสี่ยงที่นโยบาย Abenomics นั้นจะสิ้นสุดลง

ขณะที่บีโอเจที่มีบทบาทรองในทางการเมือง ก็มีกำหนดการเข้าประชุมในเร็วๆนี้ โดยตลาดคาดว่าบีโอเจจะยังไม่ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆในเวลานี้


· ค่าเงินเอเชียเป็น Best Perfomance โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

ยอดนำเข้าฟิลิปปินส์ร่วงท่ามกลางทิศทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอภายในประเทศ แต่ภาพรวมได้รับอานิสงส์จากค่าเงินที่ดูจะกลายมาเป็น Best performer in Asia ในปีนี้ โดยค่าเงินเปโซของฟิลิปปินส์แข็งค่าขึ้นมาแล้วประมาณ 4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เรียกได้ว่าดีที่สุดในภูมิภาคเพราะเป็น 1 ในไม่กี่ประเทศของเอเชียที่มีค่าเงินแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ คู่กับเงินหยวน และไต้หวันดอลลาร์

ผลกระทบของภาคการนำเข้ามาจากปัญหา Lockdown ที่เป็นระยะเวลานานๆเพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนา จึงเห็นนำเข้าปรับตัวลงแย่กว่าส่วนของการส่งออก และทำให้ยอดงบดุลการค้าของฟิลิปปินส์นั้นอยู่ในสภาวะเกินดุล


· ยอดติดเชื้อออสเตรเลียรายวันทำต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 3 เดือน ในวันนี้ ท่ามกลางสัญญาณการเริ่มคลายมาตรการเข้มงวดจากการระบาดที่ลดลง


· น้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จากพายุคุกคามชายฝั่งอ่าวสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เนื่องจากพายุโซนร้อนในอ่าวเม็กซิโกกระตุ้นให้ผู้ขุดเจาะอพยพแท่นขุดเจาะและปิดการผลิต แม้ว่ากำไรจะถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานทั่วโลกที่มากเกินไปและความต้องการเชื้อเพลิงที่ลดลงก็ตาม

โดยราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.4% ที่ระดับ 37.47 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.2% ที่ระดับ 39.89 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com