· หุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้น
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนที่เพิ่มขึ้นหลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาดีขึ้นและมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา
โดยดัชนีกลุ่มบลูชิพเพิ่มขึ้นได้ 0.7% จากข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 5.1% ส่งผลให้ค่าเงินหยวนปรับแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน
เหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการประชุมเฟดในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้ โดยตลาดจะมุ่งเน้นไปที่แนวทางเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของสหรัฐฯและรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เฟดตั้งใจจะทำเพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อ
รวมทั้งรอการประชุมอีโอเจและบีโออีในวันพฤหัสบดีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.5% ติดต่อกัน 4 วันทำการ สำหรับภาพรวมรายปีเพิ่มขึ้นเกือบ 3%
· หุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง จากค่าเงินเยนที่แข็งค่า ท่ามกลางแรงเทขายหลังการเลือกตั้งพรรค
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง เนื่องจากการปรับแข็งค่าของค่าเงินเยนกดดันหุ้นกลุ่มส่งออกและการเทขายทำกำไรของเหล่านักลงทุนหลังจากที่ปรับขึ้นได้ในช่วง 3 วันก่อนหน้านี้ จากการเลือกตั้งพรรค โดยนายโยชิฮิเดะ ซูงะ หัวหน้าคณะโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นวัย 71 ปี ได้รับคะแนนโหวต 377 เสียง จาก 534 เสียงที่ลงคะแนนโหวต ให้ก้าวเป็นตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ต่อจากนายชินโซ อาเบะ และยังเป็นการปูทางให้เขาก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.44% ที่ระดับ 23,454.89 จุด ซึ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 7 เดือนก่อนหน้านี้
ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.62% ที่ระดับ 1,640.84 จุด
· หุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และความหวังเกี่ยวกับวัคซีน
ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจจีนทีออกมาดีขึ้น และความหวังทีเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีน ช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง
โดยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนส.ค.ฟื้นตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากอุปสงค์เริ่มดีขึ้น หลังจากผลกระทบวิกฤตไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ความเชื่อมั่นยังได้รับความช่วยเหลือจากข่าวที่ว่าวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาที่พัฒนาในประเทศจีนอาจพร้อมให้ประชาชนใช้งานได้ในช่วงต้นเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 เพิ่มขึ้น 0.8% ที่ระดับ 4,688.48 จุด ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.5% ที่ระดับ 3,295.68 จุด
· หุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสาน ท่ามกลางนักลงทุนให้ความสนใจไปยังการประชุมบรรดาธนาคารกลางต่างๆ
ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสานกัน เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการประชุมของบรรดาธนาคารกลางสำคัญๆต่างๆในสัปดาห์นี้ ได้แก่ เฟด บีโอเจ และบีโออี
โดยดัชนี Stoxx600 เคลื่อนไหวค่องข้างทรงตัว ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 0.6% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารลดลง 0.7%
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.21/27 แข็งค่าจากวานนี้ หลังมีแรงขายดอลล์รับข่าวผลิตวัคซีนคืบหน้า
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.21/27 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาด เย็นวานนี้ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้นัก ลงทุนเทขายดอลลาร์เพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่น
"บาทแข็งค่าเนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่า หลังมีความคืบหน้าเรื่องวัคซีนโควิด-19 ทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์เพื่อไปลงทุนใน สินทรัพย์เสี่ยงอื่น" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.20-31.40 บาท/ดอลลาร์
· ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) คาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย GDP ในปีนี้จะหดตัวที่ 8.0% ซึ่งหดตัวมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายนที่หดตัว 4.8% ก่อนจะกลับมาฟื้นตัวในปี 64 โดยคาดว่า GDP จะขยายตัว 4.5%
· รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้จัดทำข้อมูลเรื่องแนวทางการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย ภายหลังจากได้เดินทางมาลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบธุรกิจ และชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หนากว่า 90 หน้า เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลชุดนี้มีทั้งแนวทางการปฏิบัติ การเตรียมความพร้อม มาตรการทางสาธารณสุข และการรับฟังความคิดเห็น หากได้รับการเห็นชอบ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะผลักดันการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยคนแรกให้ได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้
· "แอตต้า" วอนรัฐเร่งเคาะเปิดประเทศ ชี้ไตรมาส 4 ไม่เปิดรับทัวริสต์ต่างชาติ คาดอุตฯท่องเที่ยวเลิกจ้างทะลุ 2.5ล้านคนขณะ"กลุ่มแคร์" หนุนตั้งกองทุนเอสเอ็มอี 2 ล้านล้าน เป็นทุนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจผ่านเอสเอ็มอีด้าน "อีไอซี" หั่น "จีดีพี" ปีนี้หดตัวเพิ่มเป็น 7.8%
· ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเปิดเผยว่า จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 ก.ย.นี้ อนุมัติกรอบการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 63 ไปพลางก่อน เพราะงบปี 64 ประกาศใช้ไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.63 ซึ่งจะนำมาให้ทุกส่วนราชการใช้ชั่วคราวในส่วนของงบประจำที่เป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร ส่วนงบลงทุน ขณะนี้ใช้งบไปพลางก่อนในโครงการที่ผูกพันสัญญาไว้แล้ว ซึ่งมีไม่มากนัก แต่โครงการใหม่ขอให้ชะลอไว้ก่อน 2 สัปดาห์
อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
· ไทยพบผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม 5 ราย อยู่ใน State Quarantine
"ศูนย์ข้อมูล COVID-19" รายงาน "ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้" ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,480 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตคงเดิมอยู่ที่ 58 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,315 ราย
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 63 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,480 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 58 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,315 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 107 ราย
· 'ฝ่ายมั่นคง' คาดม็อบ 19 ก.ย. มวลชน 5 หมื่น เชื่อไร้ปะทะ เน้นเจรจาพูดคุย
ล่าสุด "ฝ่ายความมั่นคง" คาดม็อบ 19 ก.ย. มวลชน 5 หมื่น พรรคการเมือง-เสื้อแดงตจว.ตบเท้าร่วมสมทบ ชี้ไม่เด็กล้วนแต่มีผู้ใหญ่ปน เชื่อไร้ปะทะ เน้นเจรจาพูดคุย
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง กล่าวประเมินสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ว่า การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. นั้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่าจะมีมวลชนเดินทางมาร่วมชุมนุมประมาณ 50,000 คน เพราะครั้งแรกที่มีการจัดชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต มีคนมาเข้าร่วมประมาณ 10,000 คน ส่วนครั้งที่สองที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีคนมาร่วมชุมนุมประมาณ 30,000-40,000 คน