ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดปรับขึ้นจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยดัชนี S&P500 ปิด +0.5% ที่ระดับ 3,401.20 เหรียญ ขณะที่ Nasdaq ปิด +1.2% ที่ 11,190.32 จุด ทางด้านดัชนีดาวโจนส์ปิดทรงตัวบริเวณ 27,995.60 จุด หลังจากที่ระหว่างวันปรับขึ้นมากถึง 237 จุด
หุ้นบริษัทไมโครซอฟต์ปิด +1.6% ด้านอะเมซอน และอัลฟาเบธ ต่างก็ปรับขึ้นได้ประมาณ 1.7% ด้านหุ้นเน็ตฟลิกซ์ปิด +4.1% สำหรับเฟซบุคปิด +2.4% และเทสลาเองก็ยังปรับขึ้นได้ 7.2% หลังจากที่วันจันทร์ปิด +12% โดยจะเห็นได้ว่าการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ๆเกิดขึ้นหลังจากทีเผชิญแรงเทขายจากสัปดาห์ก่อนและเข้ากดดันตลาด
หุ้นกลุ่มธนาคารจะเป็นตัวบอกว่าทำไมเศรษฐกินจึงต้องการการกระตุ้นทางเศรษฐกิจเพิ่เติม
นายจิม เครเมอร์ จาก CNBC กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯดูจะยังปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและทำให้เทรนตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น แต่ในส่วนของการลงทุนยังมีความท้าทายในแง่เศรษฐกิจอยู่ เนื่องจากต้องเผชิญกับการที่สถาบันการเงินรายใหญ่จะเริ่มเปิดเผยรายงานผลประกอบการในเดือนหน้านี้ ซึ่งจะส่งผลให้เราเริ่มที่จะเห็น Bad Loans มากขึ้นที่อาจสร้างผลกระทบต่อระบบการเงินโดยส่วนใหญ่ได้ และตลาดไม่ได้ให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจขนาดเล็กนั้น
ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารในปีนี้ดูจะเป็นอีกหนึ่งตัวที่กดดันตลาดได้ โดยจะเห็นได้จาก Citigroup และ JPMorgan ที่ถือเป็นหุ้นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่สามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของตลาดได้ และจะเห็นได้ว่าทั้ง 2 สถาบันการเงินมีหุ้นที่ร่วงลงมามากถึง 6.94% และ 3.11% ตามลำดับ และเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อดัชนีดาวโจนส์