• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 21 กันยายน 2563

    21 กันยายน 2563 | SET News
   


·         S&P500 รีบาวน์จากต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์มีโอกาสแตะ 3,350 จุด ท่ามกลางความเสี่ยงที่กลับมาอีกครั้ง




นักวิเคราะห์จาก FXStreet วิเคราะห์ว่าดัชนี S&P500 ในตลาดเอเชียเช้านี้ปรับขึ้นมาบริเวณ 3,325 จุดอีกครั้ง ท่ามกลางปัจจัยที่เกิดขึ้น

 

- การปราศจากแรงซื้อขายของเทรดเดอร์ญี่ปุ่นเนื่องในวันหยุด (ผู้สูงอายุ และ วันวิษุวัต) ช่วง 2 วันทำการนี้

 

- ตลาดมีความกังวลเรื่องการระบาดที่เพิ่มขึ้นในแถบยุโรปที่อาจกลับมาพิจารณา Lockdown อีกครั้ง โดยการระบาดในอังกฤษที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

- ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านที่เพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯขู่คว่ำบาตร 20 บริษัทที่ให้การช่วยเหลืออิหร่านในการพัฒนาอาวุธ

 

- 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯ นิวซีแลนด์ ประกาศคลายมาตรการคุมเข้มสู่ระดับ 1  ในเมืองที่เป็นศูนย์กลางการระบาดบริเวณมือง Ackland

 

- นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวย้ำการเติบโตทางเศรษฐกิจจีน แม้จะมีความเสี่ยงทางการเมือง (ที่ดูจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อสหรัฐฯ)

 

Global Times รายงานถึงสัญญาณถึงภาวะสงครามระหว่างจีน-ออสเตรเลีย โดยล่าสุดเผยข้อความจากจีนที่ว่า จีนไม่มีทางเลือกแต่อาจมีสงครามได้ แม้ว่าจีนจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งโดยตรงกับสหรัฐฯ แต่เราสามารถเอาชนะประเทศที่เป็นทาสรับใช้สหรัฐฯได้ และนี่คือการส่งสารเตือนของจีน

 

+ ตลาดการเงินทั่วโลกหวังจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากญี่ปุ่นจีน และสหรัฐฯ ที่ดูจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น

 

ทั้งนี้ การปราศจากมาตรการช่วยเหลือเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ดูจะส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีถูกกดดัน ท่ามกลางเฟดที่ส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายแบบแผนสมผสาน

 

อย่างไรก็ดี ตลาดจับตารายงานดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจของเฟดสาขาชิคาโก และถ้อยแถลงประธานเฟด และทั้งหมดนี้ ยังมีโอกาสหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงได้


 

 

 

·         หุ้น HSBC และ Standard Chartered ดิ่ง หลังมีรายงานการโยกย้ายเงินอย่างต้องสงสัย กดดันตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก

 

หุ้นของธนาคาร HSBC และ Standard Chartered ดิ่งลงในวันนี้ หลังมีรายงานการโยกย้ายเงินทุนอย่างต้องสงสัยในช่วงเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งรายงานดังกล่าวอ้างถึงเอกสารลับที่ทางธนาคารส่งต่อไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ

 

โดยหุ้น Standard Chartered -2.69% ขณะที่ HSBC -2.91% ในช่วงต้นตลาด และข้อมูลจาก FactSet ถือว่าหุ้นของ HSBC เป็นการปรับลงมากที่สุดในรอบกว่า 25 ปี

 

HSBC ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ต้องการให้รายละเอียดใดเกี่ยวกับรายงานต้องสงสัยดังกล่าว

 

ขณะที่ Standard Chartered กล่าวในแถลงการณ์ว่า ข้อเท็จจริงคือบ่อยครั้งมักจะเกิดการพยายามฟอกเงินและการใช้มาตรการคว่ำบาตรเสมอ ในฐานะความรับผิดชอบของธนาคารคือการสร้างโปรแกรมคัดกรองและการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องระบบการเงินทั่วโลก ซึ่งทางเรามีความรับผิดชอบอย่างจริงจังในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางการเงิน รวมทั้งการลงทุนในโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

 



·         หุ้นเอเชียเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ท่ามกลางตลาดที่ให้ความสนใจไปยังการเลือกตั้งและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

ตลาดหุ้นเอเชียและค่าเงินส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากเหล่านักลงทุนกำลังรอคอยนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อในฝั่งยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้น

 

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาทั่วโลกพุ่งขึ้นทะลุ 30 ล้านราย ซึ่งส่งผลให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในรูปแบบ V-shaped

 

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.1%

 

สำหรับวันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะปิดทำการเนื่องในวันหยุด


 

 

·         หุ้นจีนปรับลง จากแบงก์ชาติจีนตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

 

ตลาดหุ้นจีนปิดลดลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากลากโดยหุ้นหลักของผู้บริโภคและหุ้นทางการเงินหลังจากที่ธนาคารกลางประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางเหล่า

นักลงทุนที่ขายทำกำไรหลังจากที่หุ้นเพิ่มขึ้นได้ในช่วงก่อนหน้านี้

 

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.63% ที่ระดับ 3,316.94 จุด ด้านดัชนีกลุ่มบลูชิพลดลง 0.96%





·         ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง เนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับธนาคารและการติดเชื้อโคโรนาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดทั่วโลก

 

โดยหุ้นของธนาคาร HSBC และ Standard Chartered ดิ่งลงในวันนี้ หลังมีรายงานการโยกย้ายเงินทุนอย่างต้องสงสัยในช่วงเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งรายงานดังกล่าวอ้างถึงเอกสารลับที่ทางธนาคารส่งต่อไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ

 

โดยหุ้น Standard Chartered -2.69% ขณะที่ HSBC -2.91% ในช่วงต้นตลาด และข้อมูลจาก FactSet ถือว่าหุ้นของ HSBC เป็นการปรับลงมากที่สุดในรอบกว่า 25 ปี

 

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ร่วงลง 2% ด้านหุ้นกลุ่มธนาคาร ร่วงลง 4.5% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหในแดนลบ

 

 

 

 

อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

 

 

·         กูรูประเมิน ประชุมกนง.สัปดาห์นี้ คงดอกเบี้ยที่ 0.5% แต่ให้จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ หวั่นอาจหั่นเป้าจีดีพีปี 64 โตไม่ถึง 5% หลังภาคท่องเที่ยวยังทรุดหนัก

รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยกับ สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 23 ก.ย. นี้ เชื่อว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ต่อปี

โดยแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แม้เศรษฐกิจไทยจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2/63 แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ เม็ดเงินที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3-4/63 ยังค่อนข้างน้อย

 

·         บขส.เผย ปี 64 เปิดประมูลพีพีพี สถานีขนส่งสายใต้เก่า 15 ไร่ พัฒนาเป็นสถานีขนส่งทันสมัย พร้อมผุดมิกซ์ยูส มูลค่า 4.6 พันลบ.รองรับแผนย้ายสถานีจากถนนบรมฯกลับปิ่นเกล้า หลังจะหมดสัญญาสัมปทานพื้นที่ปี 68

รายงานข่าวจาก บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ บขส. มีแผนที่จะย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ถนนบรมราชชนนี) หรือ สายใต้ใหม่ กลับมาอยู่บริเวณเดิม คือสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ปิ่นเกล้า) หรือสายใต้เก่า เนื่องจากสัมปทานจัดตั้งสถานีสายใต้ใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่ขอเอกชน ที่เปิดให้ บขส.ใช้เดินรถโดยจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ จะหมดอายุลงในปี 68

 


อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

·         การชุมนุมใหญ่ ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.63 ได้ยุติลงตามเวลาที่กำหนด

และประกาศสลายการชุมนุม แต่โดยภาพรวมของสถานการณ์การเมืองเวลานี้ ดูเหมือนจะยกระดับความร้อนแรงมากขึ้น ภายหลังจากที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศนัดชุมนุมครั้งต่อไปคือที่หน้ารัฐสภาในวันที่ 24 ก.ย.63 ที่จะมีพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และวันที่14 ต.ค.63 นับเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักกดดันบรรยากาศการลงทุน และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศ

 

·         ธปท.เกาะติดม็อบการเมืองรณรงค์ปิดบัญชีแบงก์ ยันสภาพคล่องเพียงพอรับมือ

นายธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีมีการเรียกร้องให้ถอนเงินจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งว่า ธปท. ไม่เป็นห่วงระบบธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากในปัจจุบันมีการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์สภาพคล่องที่มีความรุนแรง (LCR) มากกว่า 1 เท่า ซึ่งถือว่าสภาพคล่องยังอยู่ในระดับสูง

 

·         ส.อ.ท.เผยข้อเสนอ 9 ประเด็นฟื้นธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หวังให้ที่ประชุมศบศ.พิจารณาเพื่อเร่งขับเคลื่อน

เศรษฐกิจ ทั้งยืดชำระเงินกู้ 2 ปี สนับสนุนสินค้าไทยเป็นวาระแห่งชาติ ขยายระยะเวลาผู้ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอ ออกไปอีก 2 ปี โดยยังคงสิทธิประโยชน์ทางภาษี และเงินลงทุนเดิมไว้

ทั้งนี้ ธปท. ได้คุยกับสถาบันการเงิน และธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดแล้ว เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com