• นักกลยุทธ์ ชี้ดีเบตสหรัฐฯจะเป็นประเด็นใหญ่ต่อตลาดมากกว่าจ้างงานสหรัฐฯ

    29 กันยายน 2563 | Economic News

นักกลยุทธ์ ชี้ ดีเบตสหรัฐฯจะเป็นประเด็นใหญ่ต่อตลาดมากกว่าจ้างงานสหรัฐฯ


นักกลยุทธ์ด้านตลาดเกิดใหม่อาวุโสประจำ TD Securities ระบุว่า การดีเบตของผู้ท้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯในสัปดาห์นี้จะเป็น "ปัจจัยที่สำคัญ" สำหรับตลาดมากกว่ารายงานตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานของสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนรอดูท่าทีของผู้ลงชิงตำแหน่งทั้งสองกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนั้น ถ้อยแถลงของพวกเขาจึงอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไวหของตลาดในสัปดาห์นี้ได้

 

ภายในเวลาไม่ถึง 40 วันก่อนวันเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตมีกำหนดจะเข้าสู่เวทีการดีเบตทั้งหมดสามรอบ ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้

 

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย

รายงานจีดีพี

ข้อมูลรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

และข้อมูลสำคัญ "การจ้างงานนอกภาคเกษตร" เดือนก.ย.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญชุดสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯในเดือนพ.ย.

 

และในความเป็นจริงข้อมูลจ้างงานดูจะเติบโตได้ช้ากว่าข้อมูผู้ขอรับสวัสดิการว่างานที่ยังอยู่ในระดับสูงมากกว่าช่วงเดือนก.พ. โดยคาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว 11 ล้านราย สะท้อนว่าตลาดแรงงานยังเติบโตได้ไม่ดีนัก  ขณะเดียวกันการจ้างงานถูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 850,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าการเติบโตในเดือนส.ค.ที่มีการจ้างงานแถว 1.371 ล้านตำแหน่ง และข้อมูลในเดือนมิ.ย. ที่มีการจ้างงานรีบาวน์ได้ 4.8 ล้านตำแหน่ง

 

นอกจากนี้ แม้จะมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้ง แต่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนก็มีแนวโน้มจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และหากมีการเลื่อนการทำข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เขาคาดว่าจะยิ่งเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด

 

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่แล้วพรรคเดโมแครตได้ผลักดันข้อเสนอกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่มูลค่า 2.4 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าที่พวกเขาเคยวางแผนไว้ที่มูลค่า 3.4 ล้านล้านเหรียญ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวสายการบิน และร้านอาหารต่างๆ ขณะที่งบประมาณที่นำเสนอล่าสุดนั้น ดูจะสูงกว่าที่สมาชิกรีพับลิกันในวุฒิสภาจะยอมรับได้ จึงคาดน่าจะเห็นการลงมติข้อตกลงดังกล่าวได้ในช่วงประมาณสัปดาห์หน้า

 

อย่างไรก็ดี แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่อาจไม่เกิดขึ้ได้ในช่วงเลือกตั้ จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดต่อ ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวได้ปานกลาง และการเสียแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจก็จะอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งกิจกรรมต่างๆในเดือนหน้า



ที่มา: businessinsider


Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com