• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 กันยายน 2563

    30 กันยายน 2563 | Gold News

ทองคำทำสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ จากดอลลาร์อ่อน และคืบหน้าแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ

· ราคาทองคำปรับขึ้นทำสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางดอลลาร์อ่อนค่า ประกอบกับความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก่อนดีเบตผู้ท้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.9% ที่ 1,896.96 เหรียญ ขณะที่เช้านี้ทำ High ที่ 1,899 เหรียญ


· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +1.1% ที่ระดับ 1,903.20 เหรียญ


· กองทุนทองคำ SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ 1,268.89 ตัน


· ภาพรวมปีนี้ราคาทองคำปรับขึ้นได้แล้วประมาณ 24% จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของบรรดาธนาคารกลางและรัฐบาลต่างๆ


· ตลาดรอการดีเบตระหว่างนายทรัมป์ และนายไบเดน ที่จะเริ่มขึ้นตามเวลาไทย 08.00 – 09.30น.


· หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโลหะมีค่าของ HSBC ระบุว่า การดีเบตอาจช่วยหนุนทองคำเพิ่มขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเลือกตั้ง

ขณะที่สัญญาณจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่มีท่าทีประนีประนอมต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นครั้งที่ 2 ก็ดูจะยิ่งหนุนตลาดทองคำ


· จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกสะสมที่ 33.82 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทั่วโลกสะสม 1.01 ล้านราย ขณะที่ในฝรั่งเศสพบยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากเกือบเท่าตัวภายในเวลา 24 ชั่วโมง จากข้อมูลในวันจันทร์ที่ 4,070 ราย โดยวานนี้พบติดเชื้อเพิ่ม 8,051 ราย

· ราคาซิลเวอร์ปิด +1.3% ที่ระดับ 24.02 เหรียญ ด้านแพลทินัมปิด +0.3% ที่ระดับ 881.90 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด +2.1% ที่ระดับ 2,301.78 เหรียญ


· ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯปรับขึ้นมากที่สุดรอบ 17 ปี แต่สัญญาณความเสี่ยงขาลงยังมีอยู่

Conference Board เผยข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนก.ย. มีการรีบาวน์ได้มากที่สุดในรอบกว่า 17 ปี โดยปรับเพิ่มขึ้น 15.5 จุด มาอยู่ที่ระดับ 101.8 จุด (ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2003) ท่ามกลางการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน แต่ภาพรวมก็ยังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยในช่วงเดือนก.พ. ที่ผ่านมาความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 132.6 จุด

อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของข้อมูลล่าสุด เกิดขึ้นในช่วงที่การระบาดของไวรัสโคโรนากลับมาเพิ่มสูงขึ้นในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ จึงยังความไม่แน่นอนอย่างมากก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3 พ.ย. นี้ และสะท้อนว่าสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยเป็นไปอย่างช้าๆ


· เพโลซี “คาดหวัง” ว่าจะตกลงกับมนูชินได้ในการเจรจาแพ็คเกจ Covid-19

เมื่อคืนนี้ นางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยังคงแสดงความคาดหวังว่าจะเกิดข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากวิกฤต Covid-19 กับทางทำเนียบขาวได้ภายในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการหารือกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเป็นเวลา 50 นาที ขณะที่ในวันนี้จะมีการเจรจาแผนดังกล่าวต่อไป


· วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเลี่ยง Shutdown รัฐบาลจนถึง 11 ธ.ค.นี้ โดยมาตรการฉบับเดิมจะหมดอายุลงในคืนนี้ ดังนั้น เมื่อร่างนี้ผ่านก็จะมีการส่งต่อให้กับนายทรัมป์ เพื่อลงนาม เป็นลำดับต่อไป


· ประธานเฟดนิวยอร์ก ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯจะใช้เวลาประมาณ 3 ปีในการฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯที่เข้าสู่ภาวะถดถอยจากวิกฤตไวรัสโคโรนา อาจใช้เวลาในการฟื้นตัวนานประมาณ 3 ปี จึงจะกลับมาแข็งแกร่งได้ดังเดิม ซึ่งเฟดต้องการสนับสนุนให้เกิดการกลับมาจ้างงานให้ได้อย่างเต็มที่โดยเร็วที่สุด

ขณะที่การปราศจากมาตรการทางการเงินมาสนับสนุนเศรษฐกิจที่อ่อนตัว อาจยิ่งทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนั้นอ่อนแอมากขึ้น

ทั้งนี้ เขามองว่าความเป็นไปได้ของวัคซีน Covid-19 หรือกระบวนการรักษา Covid น่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปีหน้า และประเด็นนี้จะช่วยหนุนให้กลุ่มผู้บริโภคมีความมั่นใจในการดำเนินกิจกรรมทางสังคม ดังนั้น การสนับสนุนทางการเงินก็อาจจำเป็นต้องมุ่งไปยังกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจเป็นสำคัญ


· ธนาคารโลกขออนุมัติบอร์ดวงเงิน 1.2 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อเป็นเงินทุนพัฒนาวัคซีน รวมทั้งช่วยเหลือประเทศยากจนแประเทศกำลังพัฒนาให้สามารถได้รับวัคซีนได้เมื่อวัคซีนพร้อมใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า


· หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯเตือนถึงภัยคุกคามก่อนการเลือกตั้ง โดยอาจเห็นกลุ่มหัวรุนแรงภายในประเทศสร้างภัยคุกคามในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ในช่วงเดือนหน้า ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น รวมถึงเหตุความไม่สงบ และการบิดเบือนข้อมูลจากต่างประเทศ


· สภาล่างอังกฤษอนุมัติร่างกฎหมายยกเลิกสนธิสัญญา Brexit

สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ มีมติอนุมัติร่างกฎหมายให้อำนาจแก่คณะรัฐมนตรีอังกฤษในการยกเลิกข้อตกลง Brexit กับทางอียู ท่ามกลางความเห็นต่างที่เกิดขึ้นภายในพรรคอนุรักษ์นิยม และการอนุมัติดังกล่าวมีขึ้น แม้ว่าทางอียูเคยขู่จะยื่นฟ้องต่อศาล เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาที่ขัดต่อข้อตกลง Brexit ที่อังกฤษทำไว้กับอียู


· ข้อมูลการผลิตจีนขยายตัวได้เกินคาดในเดือนก.ย.

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) จีนประจำเดือนก.ย. ที่ประกาศในเช้านี้ออกมาดีขึ้นเกินคาดที่ 51.5 จุด จาก 51 จุดในเดือนก่อนหน้า


· เกาหลีเหนือพบข้อผิดพลาดของมาตรการ Anti-Covid-19 ท่ามกลางความตึงเครียดกรณีการสังหารชาวเกาหลีใต้ในสัปดาห์ที่แล้ว และล่าสุด นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือมีการเข้าพบคณะทำงานเพื่อหารือถึงแนวทางการปรับปรุงมาตรการดังกล่าว


· นักบริหารเงินประเมินกรอบเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.55-31.75 บาท/ดอลลาร์


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ได้พิจารณาข้อเสนอของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และได้มีมติเห็นควรให้ขยายเวลาการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรอีก 1 เดือนโดยจะสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.

- กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาว่าจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบ Long Stay กลุ่มแรกเป็นเที่ยวบินตรงจากมณฑลกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามายัง จ.ภูเก็ต ในวันที่ 8 ต.ค.นี้ จำนวนประมาณ 120 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ปลอดภัย เพราะในมณฑลดังกล่าวไม่มีการติดเชื้อโควิด-19 มาเป็นระยะเวลานานแล้ว

- กระทรวงมหาดไทย นัดหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเป็นทางการในวันที่ ต.ค. เพื่อกำหนดรูปแบบและวันเลือกตั้งท้องถิ่น และแถลงข่าวในวันเดียวกัน


อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่: www.mtsgold.co.th

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com