MTS Help Center

· ตลาดหุ้นเอเชียผิดหวังกับดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมินข้อมูล PMI จีน

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางการดีเบตของผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ออกมาน่าผิดหวังและไม่เป็นอย่างที่ตลาดคาดหวังไว้

แม้ว่า นายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตจะมีคะแนนนำ และมีโอกาสเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปมากกว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบัน

แต่ถ้อยแถลงของนายทรัมป์ ก็ดูจะทำให้ตลาดตีความว่าอาจเห็นการเลื่อนประกาศผลการเลือกตั้ง และนี่ยังบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนที่ยังดำเนินต่อไป

นอกจากนี้ รีพับลิกันมีการเผยถึงการส่งข้อเสนอให้ทางเดโมแครต เกี่ยวกับแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทางเดโมแครตเสนอมาในวงเงิน 2.2 ล้านล้านเหรียญ และทำให้ภาพรวมความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ขณะที่สภาล่างของอังกฤษมีการผ่านร่างกฎหมาย Internal Market Bill (IMB) ที่ดูจะยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการเจรจา Brexit มากขึ้น

ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด

อย่างไรก็ดี ในวันพฤหัสบดีนี้จะเริ่มเต้นเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของจีนในช่วง Golden Week ส่งผลให้ตลาดเอเชียมีแนวโน้มจะคึกคักน้อยลง

ดัชนีฟิวเจอร์สสหรัฐฯปรับตัวลดลง ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยอาทิค่าเงินเยนและดอลลาร์มีแรงซื้อกลับเพิ่มขึ้นหลังจากที่การดีเบตสิ้นสุดลง และนายทรัมป์ยังมีท่าทีไม่แน่ใจว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ปรับตัวลงไปเกือบ 300 จุด โดยปรับลดลงมาประมาณ 275 จุด ขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ก็เคลื่อนไหวแดนลบเช่นกัน

ทั้งนี้ ระหว่างการดีเบตดัชนีฟิวเจอร์สมีการปรับขึ้นได้เล็กน้อย ก่อนที่จะดิ่งลงอย่างมากหลังจบการดีเบต เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนใดๆจากการแถลงนอกจากการแลกเปลี่ยนความขัดแย้งระหว่างกัน

บรรดาเทรดเดอร์คาดหวังว่า การเริ่มดีเบตจะนำไปสู่ความชัดเจนของผู้ชนะมากขึ้นในวันเลือกตั้ง แต่แล้วการดีเบตที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นดังที่หวัง ดูจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้น

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 0.2% นำโดยดัชนีของฮ่องกงที่ปรับขึ้น 1.2%

ดัชนี S&P/ASX200 ของออสเตรเลียปิดปรับตัวลงไปเกือบ -2%

ดัชนี Nikkei ปิด -1.5% ที่ 23,185.12 จุด โดยปรับลงจากระดับสูงสุดรอบ 7 เดือนที่ทำไว้วานนี้

ดัชนี Topix ปิด -1.97% ที่ 1,625.49 จุด

· หุ้นจีนปิดลดลง ภาพรวมรายเดือนปิดแย่ที่สุดในรอบกว่า 1ปี

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง จากการปรับลดลงของหุ้นอสังหาริมทรัพย์และวัสดุที่กดดันมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวภาคการผลิตของจีน โดยตลาดมีการขาดทุนรายเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ปี 2019 ที่ผ่านมา

การปรับลดลงของตลาดหุ้นในเดือนก.ย.สาเหตุหลักมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีน - สหรัฐฯและความผันผวนในตลาดต่างประเทศจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาระลอกที่สอง

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.2% ที่ระดับ 3,218.05 จุด ด้านดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 ลดลง 0.1% สำหรับภาพรวมรายเดือน Shanghai Composite ร่วงลง 5.23 และ CSI300 ร่วง 4.75%

· หุ้นยุโรปมีการซื้อขายปานกลาง หลังการดีเบตของประธานาธิบดีสหรัฐฯกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน

ตลาดหุ้นยุโรปรีบาวน์กลับขึ้นมาเล็กน้อย หลังตอบรับกับการดีเบตของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสภาวะการลงทุนที่ยังอ่อนตัวท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.1% ด้านหุ้นน้ำมันและก๊าซพุ่ง 1.1% ขณะที่หุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวและการพักผ่อนลดลง 0.8%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

-ธนาคารโลกหวั่นโควิดระบาดรอบ 2 ฉุดจีดีพีดิ่งเหว ติดลบ 10.4%ชี้ปัญหาเชิงปฏิบัติทำนโยบายใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจไม่แรงพอ แนะรัฐบาลพิจารณาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหตุเอี่ยวการเมือง ห่วงส่งผลกระทบเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวระยะยาว แต่ "คลัง" ยังลุ้นจีดีพีปีนี้โตเพิ่มอีก 0.25% หลังรัฐบาลอัดฉีดอีก 5.1 หมื่นล้านบาท

-"กรุงไทย" คาดหากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ส่งผลเม็ดเงินต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยอีก 3-5 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันขายสุทธิ 2.73 แสนล้านบาท กดดันทั้งปีทิ้งหุ้น-บอนด์รวม 3-3.5 แสนล้านบาท

-ครม. เห็นชอบกรอบและงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ 44 แห่ง ปีงบ 64 วงเงินดำเนินการ 1.51 ล้านล้านบาท และวงเงินลงทุน 2.91 แสนล้านบาท

-ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ แนะรัฐ ขยายเพดานลดค่าโอน-จดจำนอง จากที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพิ่มเป็น 3-5 ล้านบาท เชื่อกระตุ้นกำลังซื้อคึกคัก เหตุเป็นพอร์ตใหญ่ มูลค่าเหลือขายสูงสุดในตลาดชงรัฐถกแบงก์โยกหนี้สั้นรวมพอร์ตระยะยาว เพิ่มเพดานก่อหนี้ เร่งกระตุ้นตลาดบ้านมือสอง ดึงคนมีเงินซื้ออสังหาฯ

-ครม. ไฟเขียว รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าไทย กลุ่มแรก 8 ต.ค. เป็นชาว "จีนกว่างโจว" เช่าเหมาลำ มาลง "สนามบินภูเก็ต" ประเดิม 150 คน ยืดต่างด้าวอยู่ไทย ได้ถึง 31 ต.ค. เป็นกรณีพิเศษ