· ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับขึ้นประมาณ 200 จุด จากนักลงทุนจับตาแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีฟิวเจอร์สสหรัฐฯปรับขึ้นในวันนี้รับวันทำการแรกของไตรมาสที่ 4/2020 ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่คาดหวังต่อแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับขึ้น 198 จุด ขณะที่ S&P500 ฟิวเจอร์ส และ Nasdaq ฟิวเจอร์ศ ปรับขึ้นทั้งคู่
ตลาดตอบรับข่าวที่ทางทำเนียบขาว เผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขยายข้อเสนอแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 ล้านล้านเหรียญ โดยปราศจากรายละเอียดใดๆเพิ่มเติม เพราะมองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงิน 2 ล้านล้านเหรียญหรือสูงกว่านั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาได้
· หุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯและข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น จากความหวังครั้งใหม่เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ
โดยนางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ต่างแสดงความหวังว่าจะประสบความสำเร็จในการเจรจาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯและปัญหาทางเทคนิคของ TSE ที่แจ้งให้ระงับการซื้อขายหุ้นทั้งหมดในญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าการซื้อขายจะหยุดลงตลอดทั้งวันและกล่าวว่าไม่แน่ใจว่าจะสามารถกู้คืนระบบได้เมื่อใด
อย่างไรก็ดี เหล่านักลงทุนยังคงระมัดระวังการลงทุนหลังจากการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้เกิดความกลัวว่าการลงคะแนนเสียงในวันที่ 3 พ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.3%
· การซื้อขายหุ้นญี่ปุ่นหยุดชะงักเนื่องจากความผิดพลาดทางเทคนิค ขณะที่ดัชนีฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงระงับการซื้อขายในช่วงพักเที่ยง หลังจากที่พบปัญหาเกี่ยวกับระบบเครือข่ายที่แย่สุดเป็นครั้งประวัติศาสตร์ โดยขณะนี้ทางตลาดกำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของปัญหาดังกล่าว
ดัชนี Nikkei futures เพิ่มขึ้น 0.56% หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อวานนี้ ดัชนี Nikkei ร่วงลง 1.5% ซึ่งนับเป็นการปรับลงมากที่สุดในรอบ 2 เดือน จากการดีเบตกันอย่างรุนแรงระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์และนายโจ ไบเดน ที่เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ไม่เด็ดขาดจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้
· หุ้นยุโรปปรับเพิ่มขึ้นตามหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่หุ้น Bayer ร่วง 11%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.6% ด้านหุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่ง 1.6% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดบวก
ด้านหุ้นของไบเออร์ดิ่งลงมากกว่า 11% หลังจากที่ยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์ของเยอรมันประกาศลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการด้อยค่าเพิ่มเติมพร้อมทบทวนคำแนะนำ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
· ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,243.72 จุด เพิ่มขึ้น 6.68 จุด (+0.54%) มูลค่าการซื้อขายราว 22,683 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,247.07 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,232.81 จุด
· สถาบันคุ้มครองเงินฝากมั่นใจฐานะแบงก์ไทยยังแกร่ง สะท้อนผ่านเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่สูงกว่า 19.2% ขณะยอดเงินฝากพุ่งต่อเนื่อง เผยครึ่งปีแรกโต 8% เหตุคนไม่มั่นใจสถานการณ์โควิด เลือกเก็บเงินสดไว้กับแบงก์
· ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาล 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ2563 (ต.ค.2562-ส.ค.2563) ว่า จัดเก็บได้รวม 2.15 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 293,043 ล้านบาท หรือ 12.0% เนื่องจากโควิด-19
· กรมเจรจาการค้าเดินหน้าศึกษาฟื้นเอฟทีเอไทย-อีเอฟทีเอ ให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ ยันช่วยรักษาโอกาสการแข่งขันของสินค้าและบริการของไทย หลังหลายประเทศอาเซียนมีแล้ว ขณะที่เวียดนามและมาเลเซียกำลังเจรจา หนุนดึงลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูง
· "แอตต้า" เสนอให้รัฐบาลยอมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากจีน ไต้หวัน เข้ามาเที่ยวในไทย แบบไม่กักตัว แต่ให้มีมาตรการดูแลอย่างเข้มงวดแทน ในเดือนธ.ค.นี้ กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปีใหม่และตรุษจีนปีหน้าคาดว่าจะมีคนเข้ามาในไทยแสนคนต่อเดือนสร้างรายได้ 5,000 ล้านบาท
· สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมกับสำนักงานอีอีซี (สกพอ.) ได้เชิญผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่อีอีซี 16 ราย ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน เครื่องจักรกลขั้นสูง เคมีภัณฑ์ขั้นสูง ประชุมกับนายกรัฐมนตรีเนื่องในโอกาสตรวจเยี่ยมพื้นที่เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากนักลงทุนในพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังจังหวัดชลบุรี