ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมากในตลาดหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯติดเชื้อโควิด ซึ่งนักวิเคราะห์หลายๆรายก็ยังมองทองคำ “จะขึ้นได้ต่อ” ในสัปดาห์นี้
* ประธานจาก Phoenix Futures and Options กล่าวว่า ข่าวของนายทรัมป์ทุกๆอย่าง หรือแม้แต่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีโอกาสจะกดดันทองคำได้ทั้งสิ้น แต่จำนวนเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ Safe-Haven ก็ดูจะช่วยให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้อีก
แต่ภาพรวมคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสจะเคลื่อนไหวแถว 1,900 เหรียญไปก่อน เนื่องด้วยทองคำน่าจะรอดูท่าทีของตลาดและการตอบรับกับความคืบหน้าใดๆในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ทองคำและหุ้นดูจะมีการซื้อขายที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่ความไม่แน่นอนอย่างมาก และความเสี่ยงต่างๆมีโอกาสทำให้นักลงทุนมีการปิดสถานะของตนเองเพื่อเป็นการป้องกันความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้
* ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายสินค้าตลาดโลกจาก Kitco Metals กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ต้องจับตาความคืบหน้าเรื่องอาการป่วยของนายทรัมป์ และโอกาสที่สภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงในการอนุมัติการเพิ่มมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจได้หรือไม่
หากอาการป่วยของนายทรัมป์รุนแรงขึ้นก็จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากจะมีความไม่แน่นอนย่างมากต่อการดำเนินงานของรัฐบาลสหรัฐฯโดยปราศจากนายทรัมป์
และประเด็นนี้จะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง และกดดันทองคำ เนื่องจากทองคำจะถูกขายทำกำไรจากกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการถือครองเงินสดมากขึ้น
ตลาดต้องการรู้เกี่ยวกับอาการของนายทรัมป์ เพราะจะมีผลต่อความสามารถของภาครัฐบาลในการดำเนินแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกับการเลือกตั้ง หากไม่เช่นนั้นก็จะ “ส่งผลลบต่อตลาดทองคำและตลาดหุ้น” ไปพร้อมๆกัน
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะช่วยให้ตลาดมีเสถียรภาพได้ก่อนการเลือกตั้ง
แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ควบคู่กับภาวะ Second Wave ที่กำลังเกิดขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทั้งหมดนี้ก็จะยิ่งถูกฉุดให้เข้าสู่สภาวะ “ขาลง” และนี่คือ กรณีที่แย่ที่สุดและดีที่สุดสำหรับสัปดาห์นี้
กรณีแย่ที่สุด (Worst-case)
หากอาการของนายทรัมป์แย่ ก็อาจส่งผลให้เกิดกรณีที่แย่ที่สุดได้
- มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะปิดสถานะในตลาดหุ้น
- เมื่อนักลงทุนกลัวจะเกิดความต้องการเงินสด และ “ปิดสถานะ” ในสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งหุ้น
- ทองคำมีโอกาสปรับตัวลงต่ำกว่า 1,850 เหรียญ (ที่เป็นแนวรับสำคัญ) และหากหลุดลงมามีโอกาสกลับทดสอบต่ำสุดบริเวณ 1,800 เหรียญได้
กรณีที่ดีที่สุด (Best-case)
หากอาการของนายทรัมป์ดีขึ้น และสามารถทำงานได้ต่อก็จะส่งผลให้เกิดกรณีที่ดีที่สุดได้
รวมถึงกรณีที่มีการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพ
- ทองคำมีโอกาสขึ้นต่อและปิดเหนือ 1,925 เหรียญ หากผ่านแนวนี้ได้มีโอกาสกลับทดสอบ 1,975 เหรียญ
* ผู้ช่วยผู้อำนวยการจาก Walsh Trading ระบุว่า “การติดเชื้อไวรัสโคโรนาของนายทรัมป์” จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดในสัปดาห์นี้ ขณะที่ทิศทางทองคำในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนต.ค. ค่อนข้างเป็นบวก และมีโอกาสเห็นทองคำขึ้นต่อได้ในเดือนนี้และเดือนหน้า ท่ามกลางนักลงทุนที่รอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
นอกจากนี้ จะเห็นเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ตลาดทองคำก่อนการเลือกตั้ง ดังนั้น จึงมีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวขึ้นมาแนว 1,980 เหรียญได้ภายในช่วง 2 สัปดาห์นี้
ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาสัปดาห์นี้
7 ต.ค. - ดีเบตระหว่างว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ
การดีเบตของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของนายทรัมป์ และ นางคอมมาลา แฮริส ว่าที่รองประธานาธิบดีคของนายโจ ไบเดน
นักกลยุทธ์จาก ING มองว่า นายไบเดน ดูจะมีคะแนนนำในโพลสำรวจมากขึ้น และทำให้ตำแหน่งรองประธานาธิบดีนั้นน่าจะตกเป็นของนางคอมมาลาได้ไม่ยาก
สัญญาณที่ว่าคะแนนนำเป็นของพรรคเดโมแครตดูจะช่วยลดความเสี่ยงของการเลือกตั้ง และสนับสนุนสินทรัพย์เสี่ยง จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันค่าเงินดอลลาร์ได้ต่อ
แต่หากพรรครีพับลิกันกลับมามีคะแนนนำก็มีโอกาสที่จะเห็นดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้
7 ต.ค. - รายงานประชุมเฟดเดือนก.ย.
ในการเปิดเผยรายงานประชุมเฟดวาระนี้ น่าจะมีแนวโน้มเป็นไปในทางเดียวกับสิ่งที่ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดได้เคยกล่าวในที่ประชุมไว้หลังจากที่ได้ตัดสินใจคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนที่แล้วนั่นเอง
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก ING มองว่า อาจมีความคืบหน้าเล็กน้อยต่อการที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจากสัญญาณที่สมาชิกเฟดสาขาต่างๆระบุมา รวมทั้งใน Dot Plot ของเฟด ที่บ่งชี้ว่าปี 2024 มีโอกาสเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ย
ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ความคืบหน้าใดๆเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องที่ตลาดค่อนข้างให้ความสนใจและระมัดระวังต่อประเด็นนี้มากทั้งตลาดทองคำและตลาดหุ้น
ข้อมูลเศษฐกิจสหรัฐฯที่ต้องติดตาม
5 ต.ค. – ISM เผยผลสำรวจดัชนี PMI ภาคบริการ
8 ต.ค. - ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ที่มา: Kitco