ทองลงหลุด 1,900 เหรียญ ทรัมป์ยกเลิกข้อตกลงกดดันทองหนุนดอลลาร์
· ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,920.71 เหรียญ (สูงสุดตั้งแต่ 21 ก.ย.) โดยราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.6% ที่ 1,901.89 เหรียญ ด้านสัญญาทองคำตลาดโลกปิด -0.6% ที่ 1,908.80 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered ระบุว่า เมื่องคืนนี้ ราคาทองคำอ่อนตัวหลังดอลลาร์ได้รับอานิสงส์จากถ้อยแถลงของประธานเฟดที่กล่าวถึงการสนับสนุนทางการเงินเพียงเล็กน้อยจะยิ่งทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอ่อนแอ ขณะที่ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งยังมีแนวโน้มจะทำให้ทองคำสามารถแกว่งตัวบริเวณ 1,900 เหรียญได้
· ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวเตือนถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่น่ากลับมาฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกล่าวเตือนว่าอาจเห็นเศรษฐกิจดิ่งลึกหากไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
· เช้านี้ราคาทองคำร่วงหลุด 1,900 เหรียญ มาทำระดับต่ำสุดบริเวณ 1,874 เหรียญ หลังจากที่นายทรัมป์ประกาศยุติการเจรจาแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจกับพรรคเดโมแครต ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เช้านี้ทำสูงสุด 93.89 จุด
· กองทุนทองคำ SPDR เทขายทองคำออกอีก 4.08 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ 1,271.52 ตัน
· ราคาซิลเวอร์ปิด -1.9% ที่ระดับ 23.88 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -3.5% ที่ระดับ 865.26 เหรียญ ทางด้านราคาพลาเดียมปิด +0.1% ที่ 2,364.95 เหรียญ
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศย “ยุติการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือ Covid-19 กับทางสภาคองเกรสจนกว่าจะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะแล้วเสร็จ” จึงทำให้ไม่มีแนวโน้มที่จะเห็นการเพิ่มมาตรการช่วยเหลือชาวอเมริกาที่เผชิญวิกฤต Covid-19 รวมทั้งการช่วยเหลือสายการบินสหรัฐฯให้หลีกเลี่ยงการปลดคนงานในเวลานี้
· CNBC ระบุว่า แม้ทรัมป์จะยกเลิกข้อตกลง แต่ตลาดก็หวังเห็นข้อตกลงหากนายไบเดนชนะเลือกตั้ง!
รายงานจาก CNBC ระบุว่า ไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปก็มีแนวโน้มจะสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในปีหน้า แต่หากพรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายชนะและครองเสียงข้างมากในสภาก็อาจทำให้เกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และมีความรวดเร็วมากขึ้น
โดยหลังจากที่นายทรัมป์ประกาศยุติการเจราข้อตกลงและจะรอหลังเลือกตั้ง ก็ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น แตะ 0.78%
บรรดานักกลยุทธ์มองว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจยังอ่อนแอ และปราศจากการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมก็มีโอกาสเห็นอัตราผลตอบแทนพันบัตรสหรัฐฯปรับตัวลดลงมาได้
ขณะที่นายไบเดนถูกคาดว่าจะมีการผลักดันแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจนับล้านล้านเหรียญเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งหากเขาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และหากเขาครองเสียงข้างมากได้ก็จะสนับสนุนให้เขาสามารถผลักดันแพ็คเกจค่าใช้จ่ายได้โดยตรง
· ประธานเฟดเรียกร้องคองเกรสกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด เรียกร้องให้ทางสภาคองเกรสทำการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากการปราศจากความคืบหน้าในการหนุนการจ้างงาน, การอุปโภคบริโภคที่ดี และภาคธุรกิจ จะส่งผลให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยิ่งอ่อนแอมากขึ้น และอาจกระทบต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ
· ประธานเฟดเคฟแลนด์ ชี้ การยุติการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมาก
นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ ระบุว่า การที่นายทรัมป์ประกาศยกเลิกเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดูจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมาก
· สหรัฐฯมียอดขาดดุลการค้าเพิ่มมากสุดรอบ 14 ปีในเดือนส.ค.
สำนักงานสถิติสหรัฐฯ เผย ยอดขาดดุลการค้าเดือนส.ค.เพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 14 ปี ท่ามกลางยอดนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น แตะระดับ 6.71 หมื่นล้านเหรียญ หรือปรับเพิ่มกว่า 3.7 หมื่นล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จึงสะท้อนว่าข้อมูลดังกล่าวอาจฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 3/2020 ได้
· ประธานอีซีบี ชี้ การระบาดของไวรัสรอบใหม่อาจทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนเลื่อนการรีบาวน์ออกไป
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี กล่าวว่า Second Wave เสี่ยงที่จะทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยูโรโซนถูกเลื่อนออกไป ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการเพื่อจำกัดการระบาดที่จะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีลักษณการเติบโตแบบ V Shaped นานกว่าที่คาดหวังไว้
· WHO เตือนว่า การระบาดที่เพิ่มขึ้นในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่จะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรก้ตาม
· ดีเบตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังทรัมป์ติดโควิด
นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีการดีเบตกับ นางคอมมาลา แฮริส ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯพรรคเดโมแครต จะดีเบตกันในวันนี้ช่วงเวลา 08.00 - 09.30น. ตามเวลาไทย
ซึ่ง นายเพนซ์ ดูจะเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ หลังนายทรัมป์มีคะแนนห่างจากนายไบเดนประมาณ 10% ดังนั้น นายเพนซ์ จำเป็นต้องแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความพร้อมในการก้าวเป็นประธานาธิบดีของนายทรัมป์ กับการรับมือสถานการณ์ต่างๆ่ในเวลานี้ ท่ามกลางทีมบริหารที่กำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสในประเทศสูงกว่า 7 ล้านราย และเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 210,000 ราย
· ไบเดน เผย จะไม่เข้าร่วมการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯรอบ 2 ในวันที่ 15 ต.ค. หากนายทรัมป์ยังมีเชื้อโควิด
· จีนหารือ WHO ในการขออนุมัติผลิตวัคซีน Covid-19 ภายในประเทศ เพื่อเป็นขั้นตอนในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั่วโลก
· ธนาคารกลางสเปนกล่าวเตือนถึงภาวะวิกฤตไวรัสโคโรนาที่อาจฉุดให้เศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ซึ่งอาจเห็นจีดีพีดิ่งกว่า -10.5% ถึง -12.6%
· มาเลเซียประกาศ Lockdown หลังยอดติดเชื้อไวรัสใหม่เพิ่มขึ้นตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
· IMF เตือนวิกฤตไวรัสจะกินเวลานาน แต่คาดว่าอาจมีการปรับคาดการณ์จีดีพีในเร็วนี้ๆ*
· IMF เตือนมาตการช่วยเหลือ Covid ขนานใหญ่อาจส่งผลให้หลายๆประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการรัดเข็มขัดเป็นเวลาหลายปี
โดยอาจมีไม่น้อยกว่า 80 ประเทศที่ต้องใช้มาตรการ Lockdown คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 3.8% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจประจำปีระหว่างปี 2021 และ 2023
· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมนีเรียกร้องอียูเร่งตั้งกองทุนฟื้นฟูมูลค่า 7.50 แสนล้านยูโร หลังยอดติดเชื้อในยุโรปเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
· อียูต้องการข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ แต่ไม่สามารถยอมรับ No-Deal ได้ โดย รองประธานคณะกรรมาธิการอียูคาดหวังว่าจะเกิดข้อตกลงได้ก่อนสิ้นปีนี้
ขณะที่อังกฤษต้องการรู้ภายใน 15 ต.ค. นี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อตกลงการค้ากับอียูได้หรือไม่ เนื่องจากภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อม
· ผู้ว่าการบีโอเจ กล่าวว่า เศรษฐกิจเอเชียเข้าสู่แนวโน้มขาลงในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น
· นักบริหารการเงิน ระบุว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.28 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.19 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทระหว่างวัน 31.30-31.40 บาทต่อดอลลาร์ ตลาดการเงินกลับไปปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) ช่วงคืนที่ผ่านมา หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วง ตอบรับนายทรัมป์ที่ส่งสัญญาณจะไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจจนกว่าตนจะชนะการเลือกตั้ง
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ได้ครบวาระการดำรงตำแหน่งทั่วประเทศแล้ว ในเดือนพฤษภาคม 2561
- นายกฯ เผย ครม.มีมติให้จัดเลือกตั้งท้องถิ่นเริ่มจาก อบจ.ราว ธ.ค.นี้
- กมธ. ชี้ญัตติแก้รธน.รายมาตราของฝ่ายค้านส่อโมฆะเหตุซ้ำซ้อนตั้ง ส.ส.ร.
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ฝ่ายกฎหมายของกรรมาธิการ อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า ญัตติการแก้ไขรายมาตราของฝ่ายค้านซ้ำซ้อนกับญัตติการแก้ไขในมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. หรือไม่ ซึ่งหากซ้ำซ้อน ญัตติก็อาจเป็นโมฆะ เพราะไม่สามารถดำเนินการซ้ำซ้อนคู่กันได้