• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2563

    8 ตุลาคม 2563 | SET News
   

·         JPMorgan แนะนักลงทุนให้ความสำคัญกับระยะกลาง 

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan Asset Management กล่าวว่า แม้จะมีความไม่แน่นอนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพ.ย. แต่นักลงทุนควรพิจารณาผลของการเลือกตั้งในอดีตที่ผ่านมาและให้ความสำคัญกับในระยะกลางแทน

โดยมุมมองในช่วง 6 เดือน น่าจะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะจะเห็นได้ค่อนข้างชัดต่อแนวทางหรือการหลอกลวงในช่วงเลือกตั้ง ขณะที่ในช่วง 2-3 เดือน นักลงทุนอาจเห็นสภาวะ Risk-On ในตลาด  ดังนั้น จึงอาจเห็นการปรับตัวขึ้นได้ของกลุ่ม “สินทรัพย์เสี่ยง” อาทิ เครดิต หรือ หุ้น

อย่างไรก็ดี “ยังคงมีความเสี่ยงอย่างมาก” ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง 1 – 2 เดือนข้างหน้า

นักลงทุนจึงควรปรับพอร์ตให้มีความสมดุลมากขึ้น และลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุแต่เราก็ยังคงมุมมองตามสภาพความเป็นจริงว่าเศรษฐกิจแม้จะมีความถดถอยแต่ตามวัฎจักรต่อไป ตลาดการเงินต่างๆและเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่จะเข้ามา



·         หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้น SMIC ฮ่องกงร่วงลง

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Nikkei ปิด +0.96% ที่ระดับ 23,064.07 จุด ด้านดัชนี Topix ปิด +0.55% ที่ระดับ 1,655.47 จุด

ดัชนี Kospi เกาหลีใต้ +0.21% ที่ระดับ 2,391.96 จุด โดยหุ้น Samsung Electronics ลดลง 0.33% หลังบริษัทประกาศก่อนหน้านี้เกี่ยวกับผลกำไรในช่วงไตรมาสที่ 3 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 58% จากปีที่แล้ว

ดัชนี S&P/ASX 200 +1.09% ปิดที่ระดับ 6,102 จุด

 ขณะที่หุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงของ SMIC ลดลง 1.37% ในการซื้อขายช่วงบ่ายหลังจากที่ S&P Global Ratings วางผู้ผลิตชิปในการเฝ้าระวังเครดิตติดลบ ซึ่งในปัจจุบัน SMIC มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ระยะยาวที่“ BBB-”

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 0.62%



·         ยุโรปปรับตัวสูงขึ้น จากนักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนทั่วโลกที่ให้ความสนใจกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.7% ด้านหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการพักผ่อนพุ่งขึ้น 2.2% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก

 

ทั้งนี้ แนวโน้มเชิงบวกในตลาดยุโรปเกิดขึ้นเนื่องจากดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงเช้าของวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ทำระดับดีที่สุดในรอบหลายเดือนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนรอการอัปเดตเกี่ยวกับการหารือเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง



·         อ้างอิงจากโพสต์ทูเดย์

-  จี้กระตุ้นการใช้จ่าย่ต่อเนื่อง หลังสัญญาณฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยเริ่มแผ่ว

TMB Analytics เผย การบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณแผ่วลงจากที่มีทิศทางที่ดีขึ้นหลังผ่อนคลาย Lockdown ควบคู่กับข้อมูลล่าสุดในเดือนส.ค. ที่พบว่า การใช้จ่ายหมวดสินค้าไม่คงทน และหมวดบริการอ่อนตัวลงจากกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ แม้ว่าการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนยังมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น จึงมีโอกาสที่แรงส่งของการฟื้นตัวจะอ่อนแอลงไปอีก

ทั้งนี้ จึงแนะนำให้รัฐบาลออกมากระตุ้นการใช้จ่ายเป็นแพ็คเกจ เน้นกลุ่มที่รายได้ไม่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 เพื่อหนุนการบริโภคในภาพรวม  โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศยังถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย


·         อ้างอิงสำนักข่าวไทยรัฐ

- “บิ๊กตู่ขอนายแบงก์แก้ปัญหาหนี้ กนง.ฟันธงอนาคตเศรษฐกิจไทยไต่บนเส้นด้าย

กนง.เปิดรายงานนโยบายการเงินฟันธงหนทางของหน้าเศรษฐกิจไทยเต็มไปด้วยขวากหนามเผชิญสารพัดปัจจัยเสี่ยงทั้งจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า ตราสารหนี้ทั่วโลกมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ เปิดรับนักท่องเที่ยวสะดุด โควิดระบาดรอบ 2 ปัญหาคนตกงานเพิ่ม ขณะที่ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่มขึ้นทำได้ยาก


·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ซึ่งได้รับโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.63 เป็นต้นไป โดยงบประมาณรายจ่ายประจำ 3,285,962,479,700 บาท

- ศบศ.เลื่อนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย พร้อมให้ล็อตแรก เข้ามาได้ตั้งแต่ 25 ต.ค.เป็นต้นไป ระบุหากเข้ามาช่วงนี้หวั่นกระทบเทศกาลกินเจ โดยเฉพาะที่ภูเก็ตเตรียมจัดช่วง 17-25 ต.ค.

- สธ.รับมือโควิด-19 รอบใหม่ในไทย เล็งลดวันกักตัวจาก 14 เป็น 10 วัน ประเทศเสี่ยงต่ำเหลือ 7 วัน เสนอ ศบค.หวังดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น พร้อมตั้งเป้าควบคุมโรคให้ได้ใน 1 เดือน



·         อ้างอิงจากสำนักข่าว PPTV Online

- ความคืบหน้าสถานการณ์โควิด 19 เมื่อวานนี้ พบทหารไทยติดเชื้อโควิดเพิ่ม 6 ราย รวมเป็น 31 ราย โดยกองทัพบกเตรียมสถานที่ให้กักตัวต่ออีก 14 วัน ในกลุ่มที่ไม่ติดเชื้อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 15 ราย หายป่วยเพิ่ม 1 ราย และไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม โดยผู้ป่วยรายใหม่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานที่กักกัน ได้แก่ 1.ซูดานใต้ 6 ราย ทั้งหมดเป็นชายไทยอายุ 27-50 ปี อาชีพข้าราชการ เป็นทหารช่างเฉพาะกิจ เดินทางถึงไทยวันที่ 22 กันยายน โดยเครื่องบินลำเดียวกันมีผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 25 ราย ทำให้มีทหารไทย ที่กลับจากซูดานใต้ติดเชื้อโควิดรวมแล้ว 31 ราย



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com