· หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไร ท่ามกลางนักลงทุนกำลังรอคอยการประกาศผลประกอบการภาคบริษัท
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการภาคบริษัทที่ส่งผลให้เหล่านักลงทุนบางส่วนเทขายทำกำไรออกมา ขณะที่หุ้นภาคอุตสาหกรรมและการตัดสินใจของผู้บริโภคปรับตัวลดลง
ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนยังลังเลที่จะซื้อหุ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 3 พ.ย.และจะส่งผลต่อนโยบายเศรษฐกิจอย่างไร
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด -0.26% ที่ระดับ 23,558.69 จุด ขณะที่ดัชนี Topix ปิด-0.24% ที่ระดับ 1,643.35 จุด
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1.05%
· ตลาดหุ้นจีนปิดเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือนเนื่องจากนักลงทุนได้แรงหนุนนโยบายล่าสุดของจีนสำหรับตลาดทุน
โดยดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +0.3% ที่ระดับ 4,823.16 ซึ่งเป๋นภาพรวมรายวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite +2.6% ที่ระดับ 3,358.47 จุด
· หุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ตามหุ้นเอเชีย จากมุมมองเชิงบวกจากจีน
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของตลาดเอเชียเมื่อคืนที่ผ่านมาจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ออกมาแข็งแกร่ง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาในยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.2% ด้านหุ้นเทเลคอมและหุ้นกลุ่มยานยนต์พุ่งขึ้นมากกว่า 1% ขณะที่หุ้นการท่องเที่ยวและการพักผ่อนลดลง 0.4%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- กระทรวงการคลังเผยแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2564 ตีกรอบวงเงินกู้เฉียด 3 ล้านล้านบาท เป็นการกู้ ใหม่ 1.64 ล้านล้านบาท และปรับโครงสร้างหนี้เก่า 1.27 ล้านล้านบาท คาดสิ้นปีหนี้รวม 9.3 ล้านล้านบาท ยืนวินัยการคลัง 60% ของจีดีพี
- ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แผนส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2564 มีเป้าหมายรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 1 ใน 5 ของโลก รายได้ท่องเที่ยวรวม 0.7-1.5 ล้านล้านบาท เป็นรายได้ตลาดในประเทศอยู่ที่ 4-5 แสนล้านบาท รายได้ตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 0.3-1 ล้านล้านบาท