MTS Help Center

ทองคำปรับขึ้นหลัง “ทรัมป์” พยายามผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับมาฟื้นความเชื่อมั่นในการจะเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯให้ได้ก่อนเลือกตั้ง 3 พ.ย. แต่ดอลลาร์ที่แข็งค่าก็ยังเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันราคาทองคำอยู่

· ราคาทองคำปรับปิด +0.3% ที่ 1,906.15 เหรียญ

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +0.1% ที่ระดับ 1,908.9 เหรียญ

· กองทุนทองคำ SPDR ขายทองออก 1.18 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ 1,276.06 ตัน

· นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก ED&F Man Capital Markets ระบุว่า ตลาดให้ความสนใจกับการเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากที่นายทรัมป์ดูจะพยายมผลักดันให้เกิดข้อตกลง ดังนั้น ทองคำจึงไม่ได้ตอบรับกับการที่ดอลลาร์แข็งค่ามากนักในเวลานี้ โดยเพียงจำกัดการขึ้นของทองคำเล็กน้อย

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลคนว่างงานสหรัฐฯรายสัปดาห์ที่สูงกว่าคาด

· ประธานและหัวหน้าฝ่ายการลงทุนจาก Sica Wealth Management กล่าวว่า ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯที่ยังสะท้อนว่าไม่ได้ลดลงไปมากนัก และมีแนวโน้มจะแย่ลงไปอีกหากรัฐบาลยังไม่สามารถผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ ในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเช่นนี้

· นักวิเคราะห์จาก TD Securities มองว่า ปัจจัยใหญ่ที่ขับเคลื่อนนักลงทุนในทองคำเวลานี้ คือเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่ตลาดทองคำ และคาดว่าจะเห็นเม็ดเงินดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอีกในปีหน้า

· ราคาซิลเวอร์ปิด -0.4% ที่ 24.19 เหรียญ ทางด้านแพลทินัมปิด +0.5% ที่ 860.92 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด +0.2% ที่ 2,349.04 เหรียญ

· ”ทรัมป์” ยัน หนุนแพ็คเกจ Covid-19 ด้วยงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่สูงกว่า 1.8 ล้านล้านเหรียญ

นายโดนัลด์ ทรัทป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาจะให้การสนับสนุนข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัสโคโรนาด้วยงบที่สูงกว่า 1.8 ล้านล้านเหรียญที่ทางทำเนียบขาวเสนอ

นอกจากนี้ เขายังเชื่อว่ามีโอกาสจะเกิดข้อตกลงแพ็คเกจ Covid-19 ได้ก่อนเลือกตั้ง 3 พ.ย.นี้

· “มนูชิน” ยัน “ทรัมป์” ต้องการให้เขาเดินหน้าเจรจาต่อเพื่อพยายามให้เกิดข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกให้เขาเดินหน้าเจรจากับเดโมแครตต่อไปเพื่อให้เกิดแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ และนายทรัมป์ยังแสดงความเห็นว่าข้อตกลงอาจเกิดขึ้นได้โดยเร็ว หากนางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯยอมที่จะปรนีประนอม

อย่างไรก็ดี แต่ถึงจะไม่ได้รับข้อตกลงในเวลานี้ แต่หากนายทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยจะเริ่งผลักดันให้ผ่านร่างอย่างแน่นอน

· ”แมคคานีย์” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไม่คาดว่าข้อตกลง Covid-19 จะเกิดขึ้นได้ก่อนการเลือกตั้ง หาก “เพโลซี”ยังเกี่ยวข้องกับการเจรจา

· ”แมคคอนเนล” ค้านการกระตุ้นเศรษฐสหรัฐฯด้วย ‘วงเงินที่สูงขึ้น’

นายมิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐฯปฏิเสธแนวคิดแพ็คเกจ Covid-19 ที่สูงกว่า 1.8 ล้านล้านเหรียญ พร้อมเรียกร้องตามแผนเดิมของเขาในวงเงินที่น้อยกว่าที่ระดับ 5 แสนล้านเหรียญ ที่ดูจะเหมาะสมต่อการรับมือการระบาดในเวลานี้

· ประธานเฟดมินนีแอโพลิส ย้ำ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวหากปราศจากการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายนีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส กล่าวย้ำว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงได้ต่อหากคนว่างงานและภาคธุรกิจยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติม

· ประธานเฟดมีกำหนดการกถล่าวถ้อยแถลง ณ ที่ประชุม IMF ในหัวข้อค่าเงินดิจิทัล วันที่ 19 ต.ค. นี้

· ผู้อำนวยการ IMF ชี้ ยังไงสหรัฐฯก็จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ เพราะสหรัฐฯตระหนักดีว่าการมีแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่จะช่วยลดความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้

· ผู้อำนวยการ IMF ระบุว่าสหรัฐฯและจีนจำเป็นต้องเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

นางคริสตาลินาร์ จอเจียฟวา ผู้อำนวยการ IMF กล่าวว่า สหรัฐฯและจีนจำเป็นต้องเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแข็งขันเพื่อช่วยหนุนให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นจากผลกระทบของ Covid-19

ทั้งนี้ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นไปได้อย่างรวดเร็วเพียงใดก็ต้องขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีน Covid-19 ด้วย แต่คาดว่าทั่วโลกจะมีรายได้ฟื้นกลับประมาณเกือบ 9 ล้าล้านเหรียญภายในปี 2025 และการฟื้นตัวครั้งนี้ อาจช่วยลดช่องว่างทางรายได้ระหว่างกลุ่มประเทศร่ำรวยและประเทศยากจนได้

· สถานการณ์ไวรัสโคโรนา:

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกรวมล่าสุดทะลุ 39 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมทั่วโลกไม่น้อยกว่า 1.1 ล้านราย

· สหรัฐฯมียอดติดเชื้อสะสมทะลุ 8 ล้านราย และพบว่ามีการติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านรายภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน

· ”รัฐมิดเวสต์” ในสหรัฐฯ พบยอดติดเชื้อใหม่เพิ่มมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทะลุ 20,000 ราย มาทำสถิติใหม่สูงกว่า 22,000 รายในวันพุธที่ผ่านมา

ขณะที่รายงานจากสถานพยาบาลพบว่าในรัฐดังกล่าวมีการทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง 10 วันทำการแล้ว

· ประธานอีซีบี พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม จากวิกฤตยอดติดเชื้อในยุโรปที่เพิ่มขึ้น

นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีพร้อมที่จะใช้ทุกเครื่องมือที่มีไม่ว่าจะเป็นการกำหนดกรอบนโยบายดอกเบี้ย และโปรแกรมการเข้าซื้อพันธบัตร ซึ่งหากจำเป็นเราก็พร้อมดำเนินการเพิ่ม

ขณะที่การเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการเงินกำลังอยู่ระหว่างพิจารณา โดยต้องให้ประเทศสมาชิกมีการนำเสนองบประมาณของประเทศตนเองก่อน

· กระทรวงการคลังฝรั่งเศส ให้คำมั่นเพิ่มเงิน 1 พันล้านยูโร (1.17 หมื่นล้านเหรียญ) ในการสนับสนุนภาคบริษัทต่างของฝรั่งเศสที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้เคอร์ฟิวส์ในนครปารีสและอีก 8 แห่ง

· สถานการณ์อาจแย่ลง หลังลอนดอนถูกใช้ Lockdown อีกครั้ง

อดีตที่ปรึกษารัฐบาลอังกฤษ กล่าวเตือนว่าประชาชนอาจประสบปัญหาเรื่องข้าวของอุปกรณ์สำหรับเด็กในเร็วๆนี้ ประกอบกับความไม่พอใจมากขึ้นในทางเศรษฐกิจ รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและทางสังคมจากการถูกควบคุมเสรีภาพที่มากที่สุดตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2

ขณะที่เลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ เผยว่า อาจมีการยกระดับการเตือนภัยจากปานกลาง มาเป็น “ระดับสูง” ได้ในวันนี้

· นักวิทยาศาสตา์จาก Oxford พัฒนาการทดสอบด้วยแอนติเจน Covid-19 รู้ผลภายใน 5 นาที

· วัคซีน Covid-19 ของจีน พร้อมจะเริ่มทดสอบในมนุษย์แล้ว

รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่าการพัฒนาวัคซีนของ China National Biotec Group (CNBG) ร่วมกับสถาบันสินค้าไบโอโลจิคัลของจีน (Beijing Institute of Biological Products) พบวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัย รวมทั้งกระตุ้นภูมิต้านทานในการรับมือ Covid-19 ได้ และกำลังเข้าสู่ Mid-Stage ในการทดสอบในมนุษย์

ซึ่งหากวัคซีนพร้อมใช้งานก็จะได้รับอนุมัติเป็นการฉุกเฉิน และจะมีการส่งมอบให้ชาวจีนที่ทำงานกลุ่มเสี่ยงเพื่อช่วยลดการระบาดของไวรัสโคโรนาได้มากขึ้น

· ทรัมป์ ขู่ “โต้กลับ” หากอียูเพิ่มภาษีสินค้า-บริการสหรัฐฯ จากข้อพิพาทโบอิ้ง

· ประธานสภาอียูเรียกร้องกลุ่มผู้นำเพิ่มเม็ดเงินหนุนแพ็คเกจฟื้นเศรษฐกิจยุโรป

ประธานสภายุโรป เรียกร้องให้บรรดาผู้นำอียูเพิ่งงบประมาณสำหรับช่วง 7 ปีข้างหน้ามูลค่า 3.9 หมื่นล้านยูโร เพื่อหนุนการกลับมาเจรจาและเป็นการสนับสนุนแพ็คเกจฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยเชิงลึกอันเนื่องจากไวรัสโคโรนา

โดยการเพิ่มเงินครั้งนี้ ทางสภาอียูต้องการเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านสาธารณสุข, การศึกษา และความมั่นคง ที่จะช่วยลดผลกระทบเมื่อนำมาเสริมกับงบประมาณ 1.8 ล้านล้านยูโร เพื่อเป็นงบประมาณระยะยาวและแผนฟื้นฟู

อย่างไรก็ดี ข้อตกลงดังกล่าว ต้องได้รับอนุมัติจากสมาชิกสภาอียู และการยินยอมจากประเทศสมาชิกของอียูด้วย

· คาดเจรจาการค้า Post-Brexit จะยืดเวลาออกไปเกินกำหนดเส้นตายของ “บอริส”

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะตัดสินใจในเร็วนี้ว่าจะทำอย่างไรกับการเจรจาการค้าที่ยังไม่คืบ และทั้งสองฝ่ายยังล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงให้ได้ทันกำหนดเส้นตายของเขาในวันที่ 15 ต.ค.

หนึ่งในเจ้าหน้าที่เจรจาทางการทูตของอียู เผยว่า “มีความคืบหน้าบางส่วน” เกี่ยวกับกฏทางการแข่งขัน แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงอ้างถึงการที่ยังไม่สามารถเชื่อมความแตกต่างทั้งหมดระหว่างกันได้

บรรดาผู้นำอียู 27 ประเทศมีกำหนดการประชุมในวันนี้ และคาดว่ามีแนวโน้มที่จะขอขยายเวลาออกไปเพื่อให้เจรจาได้ต่อ

แหล่งข่าวจากอียู สะท้อนว่าการประนีประนอมกันในเรื่องกฎทางแข่งขัน อาจนำมาซึ่งข้อตกลงที่เหมาะสม หากทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยที่จะแก้ไขข้อพิพาทร่วมกัน และในอนาคตกฎเกณฑ์ดังกล่าว ก็อาจก่อให้เกิดข้อตกลงการค้าได้ภายในไม่กี่วัน โดยที่ไม่ต้องใช้เวลานานเป็นเดือน

· อียูเดินหน้าหาข้อตกลงการค้าอังกฤษต่อ

บรรดาผู้นำอียูเห็นพ้องขยายเวลาเจรจากับอังกฤษต่อเพื่อให้เกิดข้อตกลงการค้า ซึ่งยังติดอยู่อีก 3 ประเด็นสำคัญ คือ เรื่องการทำประมง, ความยุติธรรมด้านการแข่งขัน และการแก้ไขข้อพิพาทในความพยายามปกป้องเม็ดเงินมูลค่านับล้านล้านยูโรประจำปีในการพาณิชย์

ร่างสรุปประชุมอียูล่าสุด รายงานว่า สภายุโรปทำการเชิญหัวหน้าผู้แทนเจรจาของอียูเพื่อกลับมาเจรจาต่อในสัปดาห์หน้า และเรียกร้องให้อังกฤษจำเป็นต้องเดินหน้าต่อเพื่อให้เกิดความเป็นไปได้ของข้อตกลง

ตลาดการเงินหลายแห่ง คาดว่า จะเห็นข้อตกลงบางส่วนได้ในช่วงต้นเดือน พ.ย. นี้

· ญี่ปุ่นจะเพิ่มเงินสำรองฉุกเฉินแก่ภาคการผลิตและแรงงานในประเทศ

รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมจะเพิ่มเงินสำรองฉุกเฉินจากกรณีไวรัสโคโรนาในวันนี้ประมาณ 9 หมื่นล้านเยน (855 ล้านเหรียญ) เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งในภาคการผลิตควบคู่กับการจ้างงาน

· เดโมแครตเรียกร้องประชาชนโหวตลงคะแนนก่อน ท่ามกลางความกังวลว่านายทรัมป์ค้านคะแนนเลือกตั้ง โดยแนะให้หย่อนบัตรเลือกตั้งตามตู้ไปรษณีย์ใกล้บ้าน

นอกจากนี้ บรรดาผู้นำพรรคเดโมเเครตเรียกร้องให้กลุ่มสนับสนุนนายไบเดนออกมาใช้พลังใช้สิทธิ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าอาจถูกนายทรัมป์คัดค้านผลคะแนนหลังจบเลือกตั้ง

· ”ทรัมป์” ลั่นไม่ต้องการคุยกับ “จิ้นผิง” ปธน.จีน ท่ามกลางความกังวลของเขาเกี่ยวกับวิธีการรับมือการระบาด Covid-19 ของจีน แต่ก็ยืนยันว่าไม่ต้องการคุยกับผู้นำจีนไม่ว่าเวลานี้หรือตอนไหน

· สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์-อิสราเอล บรรลุข้อตกลงกันในเลี่ยงภาวะภาษีเท่าตัวเพื่อหนุนภาคการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ

· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10 - 31.30 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นผลจากความกังวลต่อสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ ที่เมื่อวานนี้ยังคงมีการนัดชุมนุมของคณะราษฎร 63 ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยต้องติดตามว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อหรือมีเหตุ ความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่

· อ้างอิงจากสำนักข่าวโพสทูเดย์

- คณะราษฎรประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 22.00 น. พร้อมนัดรวมตัวใหม่ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ที่ราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 63 คณะราษฎรได้แจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกว่า ในเวลา 22.00 น. จะทำการปิดเวทีที่ราชประสงค์ และในวันที่ 16 ต.ค.63 ให้ผู้ชุมนุมมารวมตัวกันใหม่ที่แยกราชประสงค์

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนที่มีความเห็นต่างเผชิญหน้ากันเอง เนื่องจากมีประชาชนหลายส่วนแสดงท่าทีว่าไม่ต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมก้าวล่วงพาดพิงสถาบันฯ และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อวานนี้อีก จึงจำเป็นต้องรักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และป้องกันการเผชิญหน้าของแต่ละกลุ่ม

- วันนี้รัฐบาลจะประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเล็ก) เพื่อรับทราบการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ ในการดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งการประเมินสถานการณ์การชุมนุม

- แกนนำคณะราษฎร 2563 พร้อมด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมารวมตัวที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์แล้ว แม้จะอยู่ในช่วงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ห้ามให้มีการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คนขึ้นไป ขณะที่มีการปิดถนนบริเวณโดย รอบสี่แยกราชประสงค์ และสกายวอล์คด้านบน โดยแกนนำยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมในพื้นที่นี้แม้จะมีกระแสข่าวการเข้าสลายการชุมนุมก็ตาม

- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ดเตอร์ด (ไทย) ชี้เศรษฐกิจไทยในปี 63 ได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว โดยคาดว่าทั้งปีนี้เศรษฐกิจจะหดตัว -8% และการฟื้นตัวน่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ จากปัจจัยลบภายในประเทศ ความไม่แน่นอนในต่างประเทศ และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นเติบโตได้ที่ 2% ในปี 64

- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระบบการลงทะเบียนและแอปพลิเคชันต่างๆ ของโครงการ "คนละครึ่ง" มีความพร้อมแล้วสำหรับการเปิดรับลงทะเบียนของประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยจะเปิด ให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น.