MTS Help Center

· ค่าเงินหยวนแข็งค่าจาก “เศรษฐกิจจีนฟื้น” ขณะที่ RBA กดดันค่าเงินออสเตรเลีย

ค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี เมื่อเที่ยบกับดอลลาร์ จากสัญญาณที่ระบุว่าเศรษฐกิจจีนมีการฟื้นตัว ขณะที่ออสเตรเลียดอลลาร์ทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 3 สัปดาห์จากการที่ธนาคารกลางออสเตรเลียยังมีทีท่าจะผ่อนคลายการเงินต่อไป

ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงถูกจำกัดก่อนกำหนดเส้นตายเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯในวันนี้ ว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3 พ.ย.หรือไม่

ค่าเงินหยวนแข็งค่ามาที่ 6.6695 หยวน/ดอลลาร์ โดยแข็งค่าทะลุระดับในปี 2019 หรือเรียกได้ว่าไปทำแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่ก.ค. 2018 ก่อนที่จะทรงตัวบริเวณ 6.6806 หยวน/ดอลลาร์

ค่าเงินหยวนแข็งค่าตอบรับกับข้อมูลผู้บริโภคจีนที่ไม่เพียงแต่ช่วยหนุนค่าเงินหยวน แต่ยังสนับสนุนค่าเงินยูโรด้วย

ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.3% แตะ 0.7045 ดอลลาร์/ออสเตรเลียดอลลาร์ หลังลงไปทำระดับอ่อนค่ามากสุดที่ 0.7038 ดอลลาร์/ออสเตรเลียดอลลาร์

ธนาคารกลาง RBA เผยรายงานประชุมที่ระบุถึงการหารือเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยและการจะเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ และจำกัดค่าเงิน

นางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผยว่า ข้อแตกต่างระหว่างสองพรรคนั้นแคบลง ขณะที่นางเพโลซี หวังว่าในช่วงสิ้นวันนี้จะสามารถเห็น “ความชัดเจน” มากขึ้นว่าร่างกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นจะสามารถเกิดขึ้นได้ก่อน 3 พ.ย.นี้หรือไม่

ค่าเงินยูโรทรงตัว 1.1767 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ปรับแข็งค่ากว่า 0.44% วานนี้

ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าเล็กน้อยที่ 1.2941 ดอลลาร์/ปอนด์   

นายเดวิด ฟรอส หัวหน้าผู้แทนเจรจา Brexit ของอังกฤษ กล่าวว่า ยังไม่เริ่มต้นเจรจากับอียู เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขพื้นฐานอย่างเหมาะสม

· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ, การประมูลตั๋วเงินคลัง และถ้อยแถลงสมาชิกเฟด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นจากนักลงทุนจับตาความเป็นไปได้ของแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเลือกตั้งเดือนหน้า และปัจจัยต่างๆ โดยอัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 0.7640% ขณะที่ผลตอบแทนระยะยาว 30 ปี ปรับขึ้นมาที่ 1.5529%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30น. ข้อมูลการเริ่มต้นสร้างบ้าน และการขออนุมัติการก่อสร้างบ้านสหรัฐฯ ประจำเดือนก.ย. และยังมีการประกาศข้อมูลของเฟดสาขาฟิลาเดเฟียเกี่ยวกับภาคบริการเดือนต.ค.

สำหรับวันนี้ ตลาดก็ให้ความสำคัญกับการที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะทำการประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 119 วัน มูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญ และตั๋วเงินคลังอายุ 42 วัน มูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญ

ถ้อยแถลงสมาชิกเฟดคืนนี้

- นายแรนดัล ควอเลส รองประธานเฟด

- นายชาร์ล อีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก

- นางลาเอล เบรนาร์ด สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด

- นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า

· แพทย์ ชี้ สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะ “Third Wave” ชัดเจนจากจำนวนยอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น

การระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯดูจะไม่เป็นสัญญาณที่ดีท่ามกลางพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศที่มีจำนวนยอดติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่มักส่งผลให้เกิดการระบาดของโรคไข้หวัด

ดร.ดารา กัสส์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน (EP) ประจำมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย กล่าวว่า ค่อนข้างชัดเจนว่าสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะ “Third Wave” และหากพิจารณาภาพรวมจะพบว่ายอดผู้ติดเชื้อนั้นมีแต่เพิ่มสูงขึ้นและสูงขึ้น โดยปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อรายวันประมาณ 40,000 – 50,000 ต่อวัน

· “ทรัมป์” ชี้จะเข้าร่วมดีเบตกับ “ไบเดน” แต่ก็ยังมีมุมมองว่า “ไม่ยุติธรรม” เกี่ยวกับหัวข้อการดีเบต

· ตึงเครียด “สหรัฐฯ-จีน” อาจก่อให้เกิดการแบ่งแยกอินเทอร์เน็ต-ข้อมูล ที่จะกลายมาเป็นก้าวสำคัญต่อไป

ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯและจีน ดูจะส่งผลกระทบต่อภาคเทคโนโลยีและห่วงโซ่อุปทาน ที่อาจส่งผลกระทบต่อการคุกคามต่อการแบ่งแยกเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

· ธนาคารกลางจีนคงดอกเบี้ย LPR ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ตามคาดในการประชุมวันนี้

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65% โดยเป็นการตรึงระดับดอกเบี้ยทั้งสองประเภทติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนา

· สำนักข่าว Xinhua รายงานว่า นายอาหะหมาด ยูรีแอนโต ผู้อำนวยการด้านการควบคุมและป้องกันโรคประจำกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียเตรียมจัดสรรวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาให้กับประชาชนจำนวน 9.1 ล้านคนในระยะแรกระหว่างเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2020

โดยอินโดนีเซียจะฉีดวัคซีนในระยะแรกให้กับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงติดไวรัสดังกล่าวมากที่สุด เช่น เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์และพนักงานบริการสาธารณะ ซึ่งรวมถึงพนักงานสนามบิน ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

· ด่วน! ศาลสั่งปิดเพจเฟซบุ๊ก-ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ Voice TV
รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส แถลงข่าว ร่วมกับ กอร.ฉ. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง มีคำสั่งตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้ดีอีเอส ดำเนินการตรวจสอบและระงับการเผยแพร่ของสื่อที่เข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น

ทางดีอีเอส ได้ตรวจสอบประมวลโดยฝ่ายกฎหมาย และได้เสนอศาลปิดแพลทฟอร์มออนไลน์ทุกช่องทางของสื่อ 4 องค์กร คือ วอยซ์ทีวี ประชาไท The Reporters และ The Standard

ล่าสุดมีคำสั่งจากศาล สั่งปิดทุกแพลทฟอร์มออนไลน์ของ วอยซ์ทีวี แล้ว ส่วนอีก 3 สื่อยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา

ขณะที่บรรณาธิการบริหาร Voice TV กล่าวว่าจะออกอากาศต่อไปจนกว่าคำสั่งศาลจะมาถึง

· ราคาน้ำมันดิบทรงตัว แต่ถูกกดดันจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาและภาวะอุปทานในตลาด

ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยทรงตัวหลังหลังจากลดลงติดต่อกัน 3 วัน จากความกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกกดดันความต้องการฟื้นตัวของเชื้อเพลิง ขณะที่ปริมาณน้ำมันในลิเบียที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ภาวะอุปทานล้นตลาด

น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.1% ที่ระดับ 42.58 เหรียญ/บาร์เรล ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 42.19 เหรียญ/บาร์เรล จากช่วงก่อนหน้านี้

น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 1 เซนต์ ที่ระดับ 40.84 เหรียญ/บาร์เรล จากก่อนหน้านี้ที่ลดลงไปอยู่ที่ 40.48 เหรียญ/บาร์เรล