· ความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯกดดันดอลลาร์ทำต่ำสุดรอบ 1 เดือน - หยวนแข็งค่า
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำต่ำสุดรอบ 1 เดือน โดยวันนี้ปรับลงอีก 0.1% ในตลาดเอเชีย ท่ามกลางนักลงทุนที่มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการจะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ก่อนเลือกตั้ง ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีนที่ดูจะหนุนให้หยวนทำแข็งค่ามากสุดรอบ 2 ปี
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯแสดงความหวังเพิ่มขึ้นที่จะเกิดข้อตกลงที่มีมูลค่าสูงขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นทำสูงสุดรอบ 4 เดือน จากกระแสคาดจะเห็ฯการกู้ยืมของภาครัฐฯเพิ่มขึ้น”จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันให้ดอลลาร์ทำต่ำสุดตั้งแต่ก.ย.”
ขณะที่ความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการจะผ่านร่างกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ได้ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากที่ลงไปทำต่ำสุดรอบ 2 ปี
ค่าเงินยูโรแข็งค่าทำสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 1.1844 ดอลลาร์/ยูโร
ด้านค่าเงินหยวนแข็งค่ามากขึ้นกว่า 7.6% นับตั้งแต่เดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากการที่เศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวได้ก่อน จึงทำให้เกิดเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
ค่าเงินวอน, สิงคโปร์ดอลลาร์ และเงินบาท แข็งค่าต่อ ขณะที่ค่าเงินรูเปีย แข็งค่าทำสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในการประมูลตราสารหนี้
· UN รายงานว่า ยอดการค้าโลกรีบาวน์ได้อย่างช้าๆ ท่ามกลางแนวโน้มที่ไม่แน่นอน
องค์การสหประชาชาติ (UN) เผยมูลค่าการค้าโลกที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7% ถึง 9% ในปีนี้ ลดลงจากปีก่อนหน้า แม้ว่าสัญญาณการรีบาวน์ทางเศรษฐกิจจะยังเปราะบาง นำโดยจีดีพีจีนในไตรมาสที่ 3/2020
ขณะที่ภาพรวมรายปี ยังเชื่อว่าการค้าโลกน่าจะโตได้น้อยกว่าปีที่แล้ว และน่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4.5%
· มุมมองนักวิเคราะห์ | สถาบันจัดอันดับต่างๆมีการปรับทบทวนอันดับสหรัฐฯพร้อมจับตาผลเลือกตั้งสหรัฐฯ
ภาพรวมผลโพลล์ส่วนใหญ่ที่ชี้ว่าชาวอเมริกาตอบรับอย่างไรกับการเลือกตั้งและผู้สมัครในครั้งนี้ ก็ดูจะมีผลกับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศด้วย ขณะที่ดอลลาร์ดูจะมีสถานะเป็นค่าเงินที่ถูกสำรองมากที่สุดในโลก และตลาดตราสารหนี้ก็ดูจะมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลกประมาณ 20 ล้านล้านเหรียญ
ดังนั้น Fitch Ratings จึงปรับอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐฯมาที่ AAA
ขณะที่ Moody’s Investors Service ปรับอันดับความน่าเชื่อถือมาที่ Aaa
โดยทั้งหมดยังคงจับตาการเลือกตั้งที่อาจราบรื่นมากขึ้น แต่หากเกิดการพยายามรักษาอำนาจกลับคืนก็อาจส่งผลให้เกิดความกังวลเพิ่มได้
ด้าน Standard & Poor ปรับอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของประเทศมาที่ AA+ โดยสถาบันดังกล่าวยังคงมีความกังวลในเรื่องการเงินของสหรัฐฯ แต่หากภาวะทางการเมืองไม่สามารถตกลงกันได้ก็อาจกลับมาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือได้อีก
· เดินหน้าเจรจาแพ็คเกจช่วยเหลือ Covid-19 สหรัฐฯต่อ แม้จะมีเสียงค้านจากรีพับลิกัน
ทางทำเนียบขาวและรีบพับลิกันยังคงเดินหน้าเจรจาต่อเนื่องจากเข้าใกล้ข้อตกลงแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาวิกฤต Covid-19 ฉบับใหม่ โดยนายทรัมป์ แสดงถึงความตั้งใจที่ยอมรับร่างการช่วยเหลือที่มากขึ้นแม้ว่าจะถูกคัดค้านจากสมาชิกในพรรครีพับลิกันของเขาก็ตาม
โดยเมื่อวานนี้ นายทรัมป์ส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะบรรลุข้อตกลงกับเดโมแครต และจะยอมให้เกิดข้อตกลงที่มีมูลค่าสูงกว่า 2.2 ล้านล้านเหรียญได้
ขณะที่นายมิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงช้างมากของวุฒิสภาพสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต จะทำการโหวตร่างข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้รับอนุมัติได้จากทางสภาผู้แทนราษฎร
แต่ในเวลานี้ การที่ยังไม่มีการโหวตร่างใดๆเพิ่ม ก็เป็นตัวสะท้อนว่า นี่อาจเป็นความยากทางการเมือง ท่ามกลางการเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ดี “ในวันนี้” ทางวุฒิสภาสหรัฐฯจะทำการโหวตร่างข้อเสนอจากทาง “พรรคเดโมแครต” วงเงิน 5 แสนล้านเหรียญก่อน เพื่อช่วยให้คนว่างงานได้รับสวัสดิการ และมีการช่วยเหลือสถานศึกษา โดยคาดจะสามารถมอบเงินช่วยเหลือคนว่างงานได้ที่ 300 เหรีญญ/สัปดาห์ ขณะที่เดโมแครตอยากให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลือในวงเงินเดิมที่ 600 เหรียญ/สัปดาห์
ภาพรวมเชื่อว่า เดโมแครตจะค้านข้อเสนอของรีพับลิกันที่จะโหวตกันในคืนนี้ และทำให้ร่างดังกล่าว “ล้มเหลว” เช่นเดิม
· รัฐบาลจีน คาด มีความเป็นไปได้การผลิตและยอดขายรถยนต์ในจีนปีนี้ มีแนวโน้มจะกลับสู่ระดับในช่วงปี 2019 ในช่วงไตรมาสที่ 4/2020
· Reuters ชี้ ไบเดนมีความได้เรียด้านการถือการเงินมากกว่านายทรัมป์ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง
· ญี่ปุ่นค้านต่อการกระทำใดๆที่เป็นการสนับสนุนความตึงเครียดบริเวณทะเลจีนใต้
· สมาชิกบีโอเจ ย้ำ จะดำเนินทุกวิธีการหากจำเป็น หาก Covid-19 ส่งผลให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจล่าช้า
· เตรียมต้อนรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติพิเศษ 39 คน จากเซี่ยงไฮ้มาไทยเย็นนี้
ผู้ว่าฯ ททท.เผย วันนี้เวลา 17.00 น.จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน จำนวน 39 คน มาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเป็นกลุ่มแรกหลังจากไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภทพิเศษ
เบื้องต้นจะอยู่ประเทศไทยเป็นระยะเวลา 30 วัน แต่จะต้องผ่านการกักตัวก่อน 14 วัน ตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
· ราคาน้ำมันดิบปรับลงจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาด
ราคาน้ำมันดิบวันนี้อ่อนตัวลงจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นเกินคาด จุดประกายความกังวลเรื่องอุปทานโลกมากเกินไป จากวิกฤตไวรัสโคโรนาที่ระบาดหนักในเวลานี้ รวมทั้งทำให้กังวลว่าการฟื้นตัวของอุปทานจะชะลอตัว
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับลง 23 เซนต์ หรือประมาณ 0.5% ที่ 42.93 เหรียญ/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. อ่อนตัวลง 20 เซนต์ หรือประมาณ 0.5% ที่ 41.50 เหรียญ/บาร์เรล
แต่ภาพรวมสัญญาน้ำมันดิบ 2 ชนิดก็ยังคงปรับขึ้นเมื่อเทียบกับการซื้อขายวานนี้
หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Sunward Trading กล่าวว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ และการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลกล่าสุด ดูจะทำให้นักลงทุนตัดสินใจลดสถานการณ์ถือครองลง
รายงานจาก API เผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในวันนี้ปรับขึ้นได้ประมาณ 584,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 490.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่ Reuters Polls ชี้นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเห็นสต็อกน้ำมันดิบลดลงได้ 1 ล้านบาร์เรล