ดอลลาร์ปิดรายสัปดาห์ติดลบจากกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯและความไม่แน่นอนเลือกตั้ง
ดอลลาร์ปิดอ่อนตัวลงเล็กน้อย 0.1% ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับลง -0.9% หลังจากที่นักลงทุนยังคงรอเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯและเจรจาการค้าหลัง Brexit
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการปรับท่าทีลดความแข็งกร้าวมากขึ้นกว่าการดีเบตรรอบแรก และมีการมุ่งประเด็นไปยังการรับมือเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาและลดประเด็นส่วนบุคคลลงไป
สำหรับโพลล์ส่วนใหญ่ยังชี้ไปทาง “ไบเดน” ชนะ ที่มีโอกาสจะกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก เนื่องจากเขามีแผนจะใช้เงินจำนวนมากกว่ายุคทรัมป์ในการให้ความช่วยเหลือช่วงวิกฤต Covid-19
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวลงหลังผลสำรวจภาคธุรกิจของฝรั่งเศสและเยอรมนี สะท้อนว่าได้รับผลกระทบจาก Second Wave
อย่างไรก็ดี ค่าเงินยูโรก็ปิดรีบาวน์ได้เล็กน้อย 0.2% ที่ 1.1844 ดอลลาร์/ยูโร
หัวหน้าผู้แทนเจรจาของอังกฤษและอียู มีรายงานในเชิงบวกมากขึ้นถึงความเป็นไปได้บางส่วนในการเจรจาข้อตกลงการค้า Brexit แต่ปอนด์ก็อ่อนค่าลงเล็กน้อยมาบริเวณ 1.3070 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.1% ที่ 104.71 เยน/ดอลลาร์ หลังนางเพโลซี ย้ำว่าการเจรจาแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯมีความคืบหน้า
ความหวังที่ว่าสภาคองเกรสจะผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนเลือกตั้ง ดูจะทำให้ความเชื่อมั่นที่จะใช้จ่ายเกิดขึ้นตามมา “แต่ไม่ว่าใครจะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป” ก็ดูจะสร้างแรงเทขายในตลาดพันธบัตร จากคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อและการกู้ยืมของภาครัฐบาล
ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.2% หลังกลต.ตลาดค่าเงินจีนชี้ว่าค่าเงินมีเสถียรภาพมากกว่าที่คาดการณ์ และบ่งชี้ว่าไม่ได้เป็นกังวลมากนักต่อการปรับแข็งค่าของค่าเงิน ขณะที่ภาพรวมหยวนแข็งค่ามาแล้วกว่า 7.5% นับตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนพ.ค. จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่นำหน้าประเทศต่างๆทั่วโลก
