MTS Help Center

   

· ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สดิ่งลง 200 จุด หลังยอดติดเชื้อไวรัสในสหรัฐฯทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนิฟิวเจอร์สสหรัฐฯปรับตัวลดลงในตลาดวันนี้ ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลง 180 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ส และ Nasdaq ฟิวเจอร์สก็ปรับตัวลดลงทั้งคู่ในวันนี้เช่นกัน

ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนารายวันของสหรัฐฯทำสถิติใหม่ทะลุ 83,000 รายเป็นที่เรียบร้อย และทะลุเหนือสุงสุดเดิมที่เคยทำไว้ในเดือนก.ค. ที่ระดับ 77,300 ราย

· หุ้นเอเชียปรับตัวลง จากการร่วงลงของดัชนี S&P ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในยุโรปและสหรัฐฯ กดดันมุมมองเศรษฐกิจโลก ขณะที่ผู้นำของประเทศจีนได้พบกันเพื่อจัดทำแผนภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2021-2025 การสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตกับการปฏิรูปท่ามกลางมุมมองของโลกที่ไม่แน่นอนและความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐฯ

ท่ามกลางสหรัฐฯที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ขณะที่ฝรั่งเศสก็พบยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และสเปนประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว

ซึ่งรวมกับความคืบหน้าไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่จะกดดันดัชนี S&P 500 Futures ปรับลดลง 0.6% ดัชนี EUROSTOXX 50 ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.7% และดัชนี FTSE ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.4%

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้น 0.1%

· หุ้นญี่ปุ่นปิดลดลง ท่ามกลางการระมัดระวังการลงทุนต่อการประกาศผลประกอบการ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่เตรียมพร้อมก่อนรายงานผลประกอบการจำนวนมาก ขณะที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกเพิ่มขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

โดยดัชนี Nikkei ปิด -0.09% ที่ระดับ 23,494.34 จุด ด้านดัชนี Topix ปิด -0.39% ที่ระดับ 1,618.98 จุด

ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดกล่าวว่า ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างอ่อนตัวลงเนื่องจากตลาดอยู่ในโหมด wait-and-see ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯและการรายงานผลประกอบการ

· หุ้นจีนปรับตัวลง จากบริษัท Kweichow Moutai ยักษ์ใหญ่ด้านสุรามีผลกำไรโตช้ากว่าที่คาด

ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากบริษัท Kweichow Moutai ผู้ผลิตสุรารายใหญ่ที่สุดของประเทศมีผลกำไรรายไตรมาสเติบโตช้ากว่าที่คาด

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.82% ที่ระดับ 3,251.12 จุด ขณะที่ดัชนี blue-chip CSI300 -0.58%

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลงท่ามกลางยอดติดเชื้อไวรัสพุ่งกดดันตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มจะเปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ท่ามกลางยอดติดเชื้อใหม่ในยุโรปที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและการปราศจากข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ดูจะกดดันความเชื่อมั่นตลาด โดย IG Data เผยข้อมูลที่ว่า

ดัชนี FTSE100 เปิดปรับลงราว 44 จุด บริเวณ 5,816 จุด

ดัชนี DAX คาดเปิด -202 จุด มาแถว 12,444 จุด

ดัชนี CAC 40 น่าจะเปิด -58 จุด บริเวณ 5,852 จุด

การระบาดของไวรัสโคโรนาในยุโรปยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยในฝรั่งเศสก็ยังพบยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อิตาลีและสเปนมีการใช้มาตรการคุมเช้มและการประกาศเคอร์ฟิวส์จากจำนวนการระบาดในเวลานี้

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ส.ว. เสนอ 9 แนวทางแก้วิกฤตให้รัฐบาล ติงม็อบลด-ละ-เลิกสิ่งมิบังควร

1.รัฐบาลต้องเลือกใช้มาตรการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาตามหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์
2.รัฐบาลต้องชี้แจงทำความเข้าใจต่อองค์กรระหว่างประเทศ
3.รัฐบาลต้องบริหารจัดการกับข่าวปลอมในเชิงรุกโดยทันที
4.ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเสนอแนวทางในการปฏิรูปด้านต่างๆ ที่สร้างสรรค์ เพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำ
5.การเปิดเวทีกลางให้ผู้ชุมนุมได้แสดงความคิดเห็นแทนการออกไปใช้ท้องถนน เช่น สนามกีฬา
6.การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อเท็จจริง โดยปราศจากการแทรกแซงจากฝ่ายใดๆ
7.การปฏิรูปสถาบันเป็นข้อเสนอสุดโต่ง
8.นายกฯ ยังไม่ควรลาออก เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่หากจะลาออกหรือยุบสภาควรเร่งปฏิรูปด้านต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และ
9.หากดำเนินการตั้งแต่ข้อ 1-8 แล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ขอให้ใช้แนวทางการทำประชามติเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างกว้างขวาง

- ทนายนกเขานำยื่นหนังสือสถานทูตเยอรมนีห่วงดึงเข้าสู่ความขัดแย้งการเมืองไทย

- ผู้นำฝ่ายค้าน ชี้นายกฯ ล้มเหลวบริหารประเทศ แนะลาออกรับผิดชอบ-เร่งแก้ไขรธน.

- ส.ส.ก้าวไกล ชี้รัฐบาลบิดเบือนข้อมูลเพื่อปลุกปั่นให้ประชาชนเกลียดชังกัน และขอร้องให้รัฐบาลอย่านำเรื่องการขัดขวางขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 จนเป็นเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือเป็นความรับผิดชอบของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และนายกรัฐมนตรีในการถวายการอารักขา

"มีแนวโน้มที่รัฐบาลจะนำกรณีนี้มาสุมไฟให้เกิดความเกลียดชังในหมู่ประชาชน" น.ส.สุทธวรรณ กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภา

- ธปท.แจงทุนสำรองระหว่างประเทศ 16 ต.ค.อยู่ที่ US$ 251.5 พันล้าน

- บลจ.กสิกรฯ แนะกระจายเสี่ยงเลี่ยงผันผวน ชู 3 สินค้าตอบโจทย์ทุกเป้าลงทุน โดยแนะนำ
กระจายการลงทุนผ่าน Balanced Fund หรือ กองทุนผสม ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม-A ชนิดรับซื้อคืนอัตโนมัติ (K-GINCOME-A(R)) กองทุนเปิดเค ฟิต แอลโลเคชั่น (K-FIT) และบริการ Wealth PLUS ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยจัดพอร์ตลงทุนส่วนตัวบน K PLUS เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนภายใต้สถานการณ์การลงทุนที่ยังคงมีความผันผวนสูง

สำหรับพอร์ตของกองทุนและบริการดังกล่าวจะกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั้งเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก เป็นต้น อีกทั้งยังมีการปรับสัดส่วนให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป