ราคาทองคำขึ้น จากยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มมากขึ้น
· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้หลังจากที่ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มมากขึ้นจุดประกายความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จึงหนุนความต้องการทองคำในฐานะ Safe-Haven
· ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.3% ที่ 1,908.02 เหรียญ
ราคาสัญญาทองคำปรับขึ้น 0.3% ที่ 1,911.20 เหรียญ
· นักเศรษฐศาสตร์จาก OCBC Bank กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกโดยเฉพาะชาติตะวันตก ดูจะหนุนความต้องการทองคำในฐานะ Safe-Haven เพิ่มขึ้นได้ แต่ยังมีแนวโน้มที่ทองคำจะยังทรงตัวแถว 1,900 เหรียญไปก่อนจนกว่าจะทราบผลเลือกตั้ง
· หลายๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ, รัสเซีย และฝรั่งเศส ต่างก็มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ทำระดับสูงสุดรายวันเป็นประวัติการณ์ และบางประเทศก็มีการประกาศกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มรอบใหม่
· ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯรอบใหม่ก็โจะทำให้ทองคำยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และจะเห็นได้ว่าทองคำปรับตัวลดลงมาแล้วประมาณ 8% จากสูงสุดที่ทำไว้ในเดือนส.ค.บริเวณ 2,072.50 เหรียญ
· หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดโลกจาก Axi กล่าวว่า ทองคำยังมีแนวโน้มจะปรับขึ้นได้จากภาวะเงินเฟ้อที่ปรับขึ้น
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ทองคำอาจจบรอบการรีบาวน์บริเวณ 1,912 เหรียญ จึงมีโอกาสเห็นทองคำอ่อนตัวกลับมาทดสอบแนวรับ 1,887 เหรียญได้
· ข้อมูลจากสภาหอการค้าสวิสฯ เผยว่า การส่งออกทองคำจากสวิสเซอร์แลนด์สู่ประเทศอังกฤษปรับตัวขึ้นมากสุดในรอบ 1 ปี ในเดือนก.ย.
รายงานจาก Bloomberg เผยว่า ทองคำแท่งมีการถูกส่งไปยังตู้นิรภัยในลอนดอน (London vaults) มากขึ้นตามความต้องการทองคำแท่งของกองทุน ETFs
· นายจอห์ฯ พอลสัน ผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยง กล่าวว่า ทองคำมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้ และน่าจะไม่เป็นเพียงการลงทุนเพื่อให้ได้กำไรอย่างรวดเร็ว แต่ในระยะยาวทองคำจะถูกใช้เพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ขณะที่กลุ่มนักลงทุนคาดว่าการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งทางเศรษฐกิจหลังจากการระบาด จะส่งผลให้เกิดการขยายตัวของสินเชื่อและเงินเฟ้อ
· ทำไมทองคำชะลอตัว? แต่ Standard Chartered เชื่อว่าปีหน้ามีโอกาสเห็นทองแตะ 2,100 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered ระบุว่า ราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบบริเวณ 1,900 เหรียญ ซึ่งเป็นแถวระดับเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วัน และ 100 วัน และมีการแกว่งตัวตามการเคลื่อนไหวของดอลลาร์ แต่หลายๆคนก็เชื่อว่า “ทองคำมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อจากโอกาสการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯมากกว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้”
โดยตลาดทองคำในเวลานี้ยังคงทรงตัวในกรอบก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. และภาพรวมไตรมาสที่ 3 นี้ก็ยังมีแนวโน้มว่าทองคำจะอ่อนตัวจากการที่ธนาคารกลางมีการขายทองในรอกว่า 10 ปี
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นต่อในปีหน้าที่ระดับ 2,100 เหรียญ ประมาณ ช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 ขณะที่สิ้นปีนี้คาดทองคำจะปรับขึ้นได้แถว 2,000 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจาก
- อัตราดอกเบี้ยแท้จริงติดลบ
- คาดการณ์การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
· MKS PAMP Group : ไม่มีปัจจัยใหม่ใดๆที่จะกระทบทองจนกว่าจะถึงเลือกตั้งหรือมีข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์จาก MKS PAMP Group กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะซื้อขายบริเวณ 1,900 เหรียญ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งของสหรัฐฯ หรือมีข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ แม้ว่านักลงทุนจะถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ถึงจะดีขึ้นกว่าที่คาด แต่ก็ยังปราศจากข้อตกลงการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ดังนั้น นักลงทุนจึงควรพิจารณาการเคลื่อนไหวในทางเทคนิค โดยในช่วง 2 – 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวสูงสุดแถว 1,920-1,930 เหรียญ และบ่อยครั้งที่ขึ้นไปชนก็มีการอ่อนตัวลงมา ซึ่งทองคำจะมีแนวรับระหว่าง 1,895 เหรียญ และ 1,875 เหรียญตามลำดับ
ทองคำจะกลับเป็นขาขึ้นหากปรับขึ้นได้เหนือระดับ 1,921 เหรียญ (จากภาพรายวัน)
ทองคำจะกลับเป็นขาลงหากปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,883.5 เหรียญ (จากภาพรายวัน)
ทั้งนี้ ควรรอราคา Breakout ด้านใดด้านหนึ่ง จึงจะเป็นตัวบอกถึงทิศทางต่อไป แต่เราไม่คาดว่าจะยังไม่เกิดขึ้นในเวลานี้ จนกว่าจะเข้าสู่การเลือกตั้งหรือการมีข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจ นักลงทุนจึงควรเล่นเก็งกำไรในกรอบไปก่อน
· คาดการณ์ราคาทองคำ
นักวิเคราะห์จาก DailyFX ระบุว่า ในระยะสั้นๆ ทองคำอาจถูกเทขายให้อ่อนตัวกลับลงมาได้ แต่ภาพระยะยาวยังคงเดิม โดยทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,920 เหรียญ และ 1,900 เหรียญได้ และจะมีแนวรับแถว 1,871 เหรียญ และ 1,859 เหรียญตามลำดับ ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเป็นระดับแถวจุดต่ำสุดเดิมในช่วงต้นเดือนส.ค. และช่วงปลายเดือนก.ย. แต่หากราคาทองคำยืนเหนือ 1,900 เหรียญได้ ก็มีโอกาสปรับขึ้นไปที่ 1,920 เหรียญ และ 1,933 เหรียญ (ที่เป็นสูงสุดของเดือนส.ค.)
· Citigroup คาดราคาซิลเวอร์ปรับตัวขึ้นแตะ 40 เหรียญได้ในอีก 12 เดือน ท่ามกลางการฟื้นตัวของอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรมและความต้องการที่แข็งแกร่งของนักลงทุนในกลุ่มสินค้าโละหะมีค่า
ขณะที่นักวิเคราะห์หลายๆราย มองว่า ซิลเวอร์มีแนวโน้มจะสดใสกว่าราคาทองคำ เนื่องด้วยซิลเวอร์จะได้รับอานิสงส์จากเงินเฟ้อมากกว่าทองคำ รวมทั้งในกิจกรรมภาคการผลิตที่กำลังฟื้นตัว
· ซิลเวอร์กับโอกาสราคา 100 เหรียญ จะมีวันนั้นไหม?
นักวิเคราะห์จาก TheMorganReport กล่าว่า ราคาทองคำและซิลเวอร์ยังคงปิดได้ดี และบ่อยครั้งจะเห็นว่าปีนี้ “ราคาซิลเวอร์” ค่อนข้างสดใสกว่าทองคำ
หากประเมินว่าทองคำจะขึ้นไปแตะ 4,000 เหรียญได้ในช่วง 2-3 ปีนี้ ก็น่าจะมีโอกาสเห็นซิลเวอร์ปรับขึ้นตามได้ 100% จากระดับปัจจุบัน โดยเวลานี้ค่า Ratio ของทองคำ-ซิลเวอร์อยู่ที่ 40-1 ดังนั้น หากซิลเวอร์จะขึ้นไป 100 เหรียญได้ ทองคำจะต้องปรับขึ้นไปให้ได้อีกเท่าตัว
อย่างไรก็ดี จะเห็นว่า ซิลเวอร์เคยขึ้นไปแตะ 50 เหรียญในปี 1980 และเคยปิดแตะระดับดังกล่าอวีกครั้งได้ในปี 2011
ทั้งนี้ ถึงแม้จะมีภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายทางการเงิน ก็อาจช่วยหนุนให้ซิลเวอร์แข็งแกร่งขึ้นได้ แต่การที่อุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรมยังชะลอตัวก็ดูจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาซิลเวอร์อยู่
· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.7% ที่ 24.48 เหรียญ ด้านราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.7% ที่ 876.05 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.3% ที่ 2,358.77 เหรียญ