น้ำมันดิบปิดบวกกว่า 2% จากการปิดทำการของแหล่งผลิตน้ำมันบางส่วน
ราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ได้จากการที่หลายๆบริษัทตัดสินใจ Shutdown แหล่งผลิตน้ำมันบางแห่งบริเวณอ่าวเม็กซิโกก่อนที่เฮอริเคนจะพัดเข้ามาถึง แต่ยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการเพิ่มกำลังการผลิตของลิเบียก็ดูจะจำกัดการปรับขึ้นของราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด +1.01 เหรียญ หรือ +2.6% ที่ระดับ 39.57 เหรียญ/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด +58 เซนต์ หรือ +1.4% ที่ระดับ 41.03 เหรียญ/บาร์เรล
ทั้งนี้ น้ำมันดิบทั้งสองชนิดรีบาวน์ขึ้นได้หลังจากที่วันจันทร์ปรับตัวลดลงไปกว่า 3%
บริเวณเมือง Zeta ทางบริษัท BP, Chevron และ Equinor ASA ตัดสินใจปิดโรงงานผลิตน้ำมันบางส่วนหรือคิดเป็น 16% หรือมีกำลังการผลิตประมาณ 294,000 บาร์เรล/วัน ท่ามกลางผลกระทบจากพายุเฮอริเคนที่กำลังจะพัดเข้าสู่ฝั่งเมื่อคืนนี้ แต่การเกิดพายุดังกล่าวอาจเป็นเพียงระยเวลาสั้นๆ
มีรายงานว่า ลิเบียอาจมีกำลังการผลิตปรับขึ้นได้สุงกว่า 1 ล้านบาร์เรล ภายในไม่กี่สัปดาห์จากนี้ ท่ามกลางความพยายามของ OPEC+ ในการควบคุมอุปทานตลาด
บรรดานักวิเคราะห์ เชื่อว่าอุปสงค์น้ำมันก็จะได้รับผลกระทบอ่อนแอลงจากการระบาดของไวรัสโคโรนารอบใหม่ด้วย
ประธานสมาคม Ritterbusch กล่าวว่า ตราบเท่าที่เกิดภาวะ Lockdown รอบใหม่บางส่วนขึ้น ตลาดน้ำมันก็จะมีความซับซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน รวมทั้งกดดันให้อุปสงค์กลับมาอ่อนตัวลงได้อีกครั้ง
กลุ่ม OPEC+ มีแผนจะปรับเพิ่มกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ค. หลังจากที่ลดกำลังการผลิตกันมากสุดเป็นประวัติการณ์ตลอดปีนี้ ที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน แต่กลุ่มผู้ผลิตก็อาจจะไม่สามารถทำตามแผนในการปรับเพิ่มได้ เนื่องจากยังเวลานี้ปริมาณการปรับลดที่เกิดขึ้นก็อาจไม่เพียงพอที่จะชดเชยกับความอ่อนแอของอุปสงค์น้ำมัน
นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่แล้วถึงการที่จะไม่ขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตนานไปกว่านี้