หัวหน้าฝ่ายสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงินประจำภูมิภาคเอเชียของ UBS Global Wealth Management ระบุว่า ค่าเงินหยวนมีแนวโน้มจะ “แข็งค่าต่อ” ในระยะสั้นๆ อันเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่แสดงความแข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจประเทศอื่นๆในโลก โดยที่จีนมีการจัดการกับการระบาดของไวรัสโคโรนาได้เป็นอย่างดี
หยวนแข็งค่าเกือบ 4% ตั้งแต่เริ่มต้นปี และล่าสุดทรงตัวแถว 6.6891 หยวน/ดอลาร์
ทั้งนี้ คาดว่าในระยะสั้นๆ เป้าหมายของเงินหยวนจะอยู่บริเวณ 6.6 หยวน/ดอลลาร์ โดยมี 3 ปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ
- การเติบโตทางเศรษฐกิจจีน
- ยอดดุลบัญชี
- เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ประเทศ
เศรษฐกิจจีนเติบโตได้อย่างเร็วกว่าฝั่งตะวันตก โดยจีดีพีจีนในไตรมาสที่ 3/2020 โตได้ 4.9% ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจที่อยู่ในทิศทางเชิงบวกเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯหรือยุโรป ที่น่าจะไม่ขยายตัวได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021
อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อคาดการณ์ข้างต้นได้
ซึ่งการมาของประธานาธิบดีต้องดูว่าจะส่งผลและมีความคืบหน้าอย่างไร และจะมีผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าอย่างที่คาดไว้จนถึงช่วงปี 2021 หรือไม่ “เพราะดอลลาร์ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบต่อหยวนได้”
ที่มา: CNBC