หุ้นสหรัฐฯพุ่ง หลังตลาดคาดผลเลือกตั้งที่สูสีอาจนำมาซึ่งความยากในการผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการแข่งขันชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ดูจะสูสีกันมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้นักลงทุนลดมุมมองเชิงบวกของทางสภาคองเกรสในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆที่อาจเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น
ดัชนีดาวโจนส์ปิด +367.63 จุด หรือ +1.34% ที่ระดับ 27,847.66 จุด
ดัชนี S&P500 ปิด +74.28 จุด หรือ +2.2% ที่ระดับ 3,443.44 จุด
ดัชนี Nasdaq พุ่ง 430.21 จุด หรือ +3.85% ที่ 11,590.78 จุด
ทั้งนี้ นายโจ ไบเดน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างต้องทำคะแนนให้ถึงเส้นชัยที่ 270 ให้ได้ก่อนจึงจะสามารถเอาชนะกันได้อย่างเป็นทางการด้วยชัยชนะจากการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ส่งทางไปรษณีย์ ขณะที่คะแนนของนายไบเดนใกล้ถึงเส้นชัยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีคะแนนนำมาในรัฐวิสคอนซิน ที่ทิ้งห่างกันไปเพียงเล็กน้อย ขณะที่บางรัฐก็ยังคงนับคะแนนต่อไป
เมื่อคืนนี้เกิด Surprise ตลาด หลังจากที่สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน ได้แก่ นางซูซาน คอลลินส์ ได้รับชัยชนะในรัฐเมน จึงลดความหวังที่ว่าจะเห็นเดโมแครตครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้
หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Ameriprise กล่าวว่า แม้ว่าในเวลานี้ นายโจ ไบเดน จะมีคะแนนนำ แต่ก็ดูเหมือนโอกาสในการที่พรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินดูจะลดน้อยลงไปและเป็นปัจจัยกดดันตลาดในช่วงท้าย
ซึ่งหากสภาวะเศรษฐกิจยังดำเนินไปในลักษณะนี้ และผลการเลือกตั้งเป็นไปในทิศทางที่กล่าวมาก็อาจตอกย้ำถึงความพยายามที่ต้องผลักดันอย่างหนักสำหรับการเกิดข้อตกลงวงเงินจำนวนมากให้ได้ก่อนจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว
ดัชนีมาตรวัดความผันผวนของตลาดหรือ VIX ที่สะท้อนถึงความผันผวนในระยะสั้นแตะระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากที่ช่วงการประกาศผลคะแนนพุ่งไปทำสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน
ดัชนีฟิวเจอร์สสหรัฐฯเช้านี้เปิดบวก จากกระแสคาดการณ์หลังเลือกตั้งมีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อ โดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเปิด +60 จุด ขณะที่ S&P500 ฟิวเจอร์สเปิด +0.2% และ Nasdaq 100 เปิด +0.5%
Guggenheim’s เชื่อ หลังเลือกตั้งหุ้นจะฟื้นตัว ท่ามกลางแนวโน้มเชิงบวกของตลาด
หัวหน้าฝ่ายการลงทุนตลาดโลกของบริษัท Guggenheim กล่าวกับทาง CNBC โดยระบุว่า แม้ผลเลือกตั้งในเวลานี้จะมีความไม่แน่นอนระหว่าง นายทรัมป์ และนายไบเดน แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวของเขาก็มองว่าเหลืออีกเพียงไม่กี่คะแนนก็จะทราบผลเลือกตั้งแล้ว และนี่น่าจะเป็น “ผลดีต่อตลาดหุ้น”
และเขาเชื่อว่า “Blue Wave” นั้นน่าจะเป็นผลดีกว่า “Red Wave” แต่นักลงทุนบางส่วนก็ยังหวังให้นายทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกสมัย เพื่อจะไม่เกิดการเพิ่มภาษีจำนวนมาก แต่ตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวได้ในแดนบวก ก็จะขึ้นกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
ที่มา: CNBC, Reuters