· หุ้นเอเชียปรับขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าประธานาธิบดีคนใหม่อาจเผชิญกับโอกาสที่จะไม่สามารถเดินหน้าดำเนินนโยบายได้โดยง่าย และนั่นจะนำมาซึ่งการจำกัดการกู้ยืมของภาครัฐบาล
ขณะที่ความเสี่ยงของการเลือกตั้งที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานยังคงอยู่ แม้ว่าการนับจะดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ โดยนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงฯ สามารถมีคะแนนนำหน้าอย่างหวุดหวิดในรัฐสำคัญ ๆ
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวสูงขึ้น 1.7% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2018 ที่ผ่านมา
· หุ้นญี่ปุ่นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากหุ้นสหรัฐฯ ตลาดให้ความสนใจไปยังผลสรุปการเลือกตั้งสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 2 ปี โดยได้รับแรงหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดยังคงให้ความสนใจไปยังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯรอบสุดท้าย
หลังจากผลคะแนนของหลายๆรัฐทำให้นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะ
โดยดัชนี Nikkei ปิด +1.73% ที่ระดับ 24,105.28 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.ปี 2018 ด้านดัชนี Topix +1.39% ที่ระดับ 1,649.9 จุด
ขณะที่นายโจ ไบเดน ถูกคาดว่าจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากชัยชนะครั้งสำคัญในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน แต่ความเสี่ยงของการเลือกตั้งที่ยืดเยื้อยังคงมีอยู่เนื่องจากนายทรัมป์ จะยื่นฟ้องขอนับคะแนนใหม่ในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน หลังผลโหวตพลิกโผเป็นไบเดน
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีคนใหม่อาจเผชิญกับโอกาสที่จะไม่สามารถเดินหน้าดำเนินนโยบายได้โดยง่าย
· หุ้นจีนปิดสูงขึ้น จากความเป็นไปได้ที่นายไบเดนจะชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางผลการเลือกตั้งสหรัฐฯที่แสดงให้เห็นว่านายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแคตมีคะแนนนำ ซึ่งถูกมองว่าชอบวิธีการเผชิญหน้าน้อยกว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ในความสัมพันธ์ระหว่างจีน - สหรัฐฯ
ขณะที่ตลาดการเงินที่มีความไม่แน่นอนเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์เนื่องจากนายทรัมป์ จะยื่นฟ้องขอนับคะแนนใหม่ในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน หลังผลโหวตพลิกโผเป็นไบเดน
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด +1.3% ที่ระดับ 3,320.13 จุด ด้านดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +1.48%
· หุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นเลือกตั้งสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.8% ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 2.2% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
ทั้งนี้ การเลือกตั้งสหรัฐฯยังคงเป็นประเด็นสำคัญสำหรับนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ ด้านดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้าเนื่องจากนักลงทุนหวังว่าผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะได้รับการพิจารณาในไม่ช้า
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,241.64 จุด เพิ่มขึ้น 19.20 จุด (+1.57%) มูลค่าการซื้อขายราว 32,557 ล้านบาทการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,244.06 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,232.72 จุด
- กกร.เผยไตรมาส 3 เศรษฐกิจไทยได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในประเทศ ส่งผลให้ส่งออกดีขึ้น การใช้จ่ายใน ประเทศเพิ่มขึ้น จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแต่ห่วงต้นปี 64 ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าอาจขาดแคลน ทำให้ กกร.ประมาณการส่งออกปีนี้ ไว้ที่ -10% ถึง -8% เหมือนเดิม ขณะที่เศรษฐกิจไทยจะหดตัวในกรอบ -9.0% ถึง -7.0%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
- เศรษฐกิจฟื้น สัญญาณเงินเฟ้อ ก.ย. หดตัวลดลงแค่ 0.50%
เงินเฟ้อ ต.ค. 2563 ติดลบ 0.50% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 มีทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นชัดเจน หลังราคาสินค้าอาหารสด ผักสด เพิ่มสูงขึ้น คาดทั้งปีเงินเฟ้อติดลบเหลือ 0.85%
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนตุลาคม 2563 เพิ่มขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2563 และลดลง 0.50% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการ
ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันของปีนี้ นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 และถือว่าติดลบน้อยลง ซึ่งแสดงว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวค่อนข้างชัดเจน แต่ยังไม่ฟื้นเร็วนัก
ส่วนเงินเฟ้อ 10 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ต.ค.) ลดลง 0.94% และเงินเฟ้อพื้นฐานน ที่หักสินค้าอาหารสดและพลังงานออก ลดลง 0.02% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2563 และเพิ่มขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2562 เฉลี่ย 10 เดือน เพิ่มขึ้น 0.31%